สะดวกซักมาเลเซียบุก 24 ชม. ผนึกแอลจีลุยขายแฟรนไชส์

“คลีนโปร” สะดวกซักสัญชาติมาเลย์ ผนึกแอลจีผุดการตลาดวิน-วิน ร้านซักผ้าขึ้นป้ายชูแบรนด์เกาหลีย้ำความเชื่อมั่นชิงฐานลูกค้านักศึกษา-วัยเริ่มทำงาน ด้านยักษ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ช่องทางสร้างการรับรู้เครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ตรงถึงนักลงทุน-เจ้าของกิจการ ตามแผนเจาะอสังหาฯคอนโดฯ-โรงแรม

นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตลาดเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยนั้นเป็นหนึ่งในเซ็กเมนต์ที่มีศักยภาพในระยะยาว ด้วยดีมานด์จากธุรกิจโรงแรมและคอนโดมิเนียม รวมถึงร้านซักรีดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติที่พักอาศัยระยะสั้น ไม่ต้องการลงทุนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่ แม้ปัจจุบันจะยังมีดีมานด์ต่ำกว่าต่างประเทศ เช่น ยุโรป และอเมริกา เนื่องจากไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ซึ่งที่ผ่านมาสร้างรายได้ต่ำกว่า 1% ของรายได้รวม

“เรามีสินค้าพร้อมอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อมีดีมานด์ย่อมต้องเข้าทำตลาด เพื่อชิงเม็ดเงินเอาไว้”

โดยบริษัทเริ่มรุกเข้าสู่ตลาดนี้มาประมาณ 1 ปี มีบริษัทแม่ที่เกาหลีใต้เป็นผู้ทำตลาด ส่วนสินค้าเป็นรุ่นเฉพาะสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์แบบเดียวกับที่ขายในยุโรปและอเมริกา พร้อมตั้งตัวแทนจำหน่าย เนื่องจากเครื่องซักผ้ากลุ่มนี้ติดตั้งซับซ้อนกว่าเครื่องสำหรับครัวเรือน รวมถึงต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะควบคุมการทำงาน ปัจจุบันมีตัวแทน 2 ราย คือ “คลีนโปร” และ “จีดี กรุ๊ป” ส่วนแอลจีประเทศไทยรับหน้าที่ซัพพอร์ตด้านต่าง ๆ อาทิ บริการหลังการขาย จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด อย่างสัมมนาผู้ประกอบการ จัดทำสื่อโฆษณา เป็นต้น

สำหรับ “คลีนโปร” นอกจากเป็นตัวแทนจำหน่ายแล้ว ยังเป็นผู้ประกอบการแฟรนไชส์ร้านซักผ้าหยอดเหรียญที่ใช้เครื่องของแอลจีเป็นหลักในหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย และสิงคโปร์อีกด้วย จึงใช้โอกาสนี้ร่วมมือกันผลิตสื่อโฆษณาติดตั้งบริเวณด้านหน้าและภายในร้าน ชูความเชื่อมั่นของเครื่องซักผ้าแบรนด์แอลจี เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าของร้าน

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า “คลีนโปร ลอนดรี โฮลดิ้งส์” มีสำนักงานใหญ่ในมาเลเซีย ส่วนในประเทศไทยมีธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก 3 แบรนด์ คือ คลีนโปร เอ๊กซ์เพลส (Cleanpro Express), จัมโบ วอช (Jumbo Wash) และไอบู-ซายัง (iBu Sayang) ซึ่งจะแตกต่างกันตามยี่ห้อเครื่องซัก-อบที่ใช้ ระบบจัดการร้านและค่าแฟรนไชส์ รวมถึงกลุ่มเป้าหมาย

โดย “ไอบู-ซายัง” ซึ่งใช้เครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ของแอลจี เป็นโมเดลเล็กที่สุด ใช้พื้นที่ห้องแถวตั้งแต่ 1 คูหาขึ้นไป มีเครื่องซัก-อบขนาด 13 กิโลกรัม รวม 10 เครื่อง ค่าแฟรนไชส์ 1.5 ล้านบาท เน้นจับกลุ่มนักศึกษาและผู้อาศัยในคอนโดมิเนียม ส่วนจัมโบ วอช เป็นโมเดลระดับกลาง ค่าแฟรนไชส์ 2.5 ล้านบาท มีเครื่องซัก-อบผ้าขนาด 15 กิโลกรัม 9 เครื่อง ยี่ห้อเด็กซ์เตอร์ (Dexter) เช่นเดียวกับโมเดลไซซ์ใหญ่ คลีนโปร เอ๊กซ์เพลส ใช้พื้นที่หน้าร้านกว้าง 5 เมตรขึ้นไป มีเครื่องซัก-อบผ้าขนาด 9, 14 และ 25 กิโลกรัม รวม 9 เครื่อง