การตลาด

สะดวกซื้อมาเลย์ ชิงดีมานด์ ปูพรมสาขาจับกำลังซื้อคนเมือง

คอลัมน์ Market Move

แม้ที่ผ่านมาธุรกิจร้านสะดวกซื้อในมาเลเซียอาจจะไม่หวือหวาและแข่งขันดุเดือดเมื่อเทียบกับไทยหรือญี่ปุ่น โดยเซเว่นอีเลฟเว่นซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่สุดยังมีสาขาเพียงประมาณ 2,000 สาขาเท่านั้น ขณะที่ในไทยมีเกินหมื่นสาขา เช่นเดียวกับเพเนเทรชั่นเรตหรือจำนวนร้านต่อประชากร ซึ่งบริษัทให้คำปรึกษาด้านธุรกิจค้าปลีก “รีเทล มาเลเซีย” ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ในระดับ 1 สาขาต่อ 9,000 คน ส่วนไทยและญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 1 สาขาต่อ 2,000 คน สะท้อนชัดถึงความแตกต่าง

แต่ในปี 2562 นี้ มีแนวโน้มว่าตลาดจะร้อนแรงขึ้น เมื่อเชนร้านสะดวกซื้อทั้งอินเตอร์แบรนด์และโลคอลแบรนด์ในมาเลเซียต่างออกมาเผยแผนขยายสาขาระดับ 200-300 สาขาขึ้นไปในระยะเวลา 2-3 ปีข้างหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง หวังใช้โอกาสที่กระแสการจับจ่ายในประเทศกำลังไปได้สวย หลังได้อานิสงส์จากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำผลักดันตลาดค้าปลีกให้มีแนวโน้มเติบโต 4.5% สูงกว่าปีก่อนที่โต 4.4%

สำนักข่าว “นิกเคอิ” รายงานว่า เชนร้านสะดวกซื้อในมาเลเซียทั้งอินเตอร์แบรนด์อย่างเซเว่นอีเลฟเว่นและแฟมิลี่มาร์ท รวมถึงโลคอลแบรนด์ อาทิ มายนิวส์ (myNEWS) ต่างออกมาเผยแผนขยายสาขาในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า หลังการใช้จ่ายภาคประชาชนได้รับการพิสูจน์แล้วว่ายังแข็งแกร่ง แม้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวติดต่อกัน 4 ไตรมาส จนเติบโตเพียง 4.4% เพราะภาคส่งออกได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนก็ตาม

โดยบริษัท “มายนิวส์ โฮลดิงส์” (Mynews Holdings) ผู้บริหารเชนร้านสะดวกซื้อโลคอลแบรนด์ “มายนิวส์” (myNEWS) และร้านกาแฟ “มารุ คาเฟ่” (Maru Cafe) เตรียมขยายสาขาร้านมายนิวส์อีก 85 สาขาทั่วประเทศ และร้านมารุ คาเฟ่อีก 150 สาขาภายในปีนี้

โดยมีจุดขายเป็นอาหารพร้อมทานหลากหลายเมนู ซึ่งจะมาจากโรงงานประกอบและบรรจุอาหารที่จะสามารถเดินเครื่องได้ในอีก 5-6 เดือนข้างหน้า หลังทุ่มลงทุนสร้างไปก่อนหน้า

“เพเนเทรชั่นเรตที่ต่ำของตลาดสะดวกซื้อมาเลเซียถือเป็นโอกาสสำคัญ ในขณะที่ผู้บริโภคเริ่มเห็นความสำคัญของความสะดวกในการใช้บริการร้านสะดวกซื้อมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเชื่อว่าตลาดมีโอกาสเติบโตแน่นอน”

ไปในทิศทางเดียวกับ “คิวแอล รีซอร์เซส” (QL Resources) ผู้ถือสิทธิ์บริหารร้านสะดวกซื้อแบรนด์แฟมิลิมาร์ท ประกาศเดินหน้าแผน 5 ปี ที่ตั้งเป้าขยายสาขาอีก 300 สาขาภายในปีงบฯ 2565 (สิ้นสุด 31 มี.ค. 2566) โดยปีงบฯนี้ (สิ้นสุด 31 มี.ค. 2562) เปิดสาขาไปแล้ว 30 สาขา และจะเปิดอีก 90 สาขาในปีงบฯ 2562

“เจีย ซอง คุน” ประธานของคิวแอล รีซอร์เซส กล่าวว่า ไม่ว่าหลังจากนี้เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เราจะไม่เปลี่ยนแปลงแผนขยาย 300 สาขานี้อย่างแน่นอน

ด้าน “เซเว่นอีเลฟเว่น” ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดนั้น ก็มีแผนขยายสาขาเช่นกัน “วินเซนต์ ฐาน” ผู้ถือหุ้นใหญ่ระบุว่า ปีนี้มีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 200 สาขา หลังจากปลายปีที่แล้วได้ร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อเปิดรับและคัดเลือก รวมถึงสนับสนุนการเข้าถึงเงินทุนให้กับนักลงทุนที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น โดยเริ่มเปิดสาขาแฟรนไชส์แห่งแรกจากความร่วมมือนี้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และคาดว่าจะได้รายชื่อผู้ประกอบการที่มีศักยภาพอย่างน้อย 50 รายในปีนี้

นอกจากเดินหน้าขยายสาขาแล้ว ยังมีเทรนด์การปรับพื้นที่ขายในร้าน โดยเพิ่มอาหารพร้อมทานและสินค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อดึงดูดลูกค้าและเพิ่มสัดส่วนกำไร ซึ่งได้รับผลตอบรับดีในเขตเมือง เนื่องจากตอบโจทย์ชีวิตเร่งรีบของบรรดาพนักงานออฟฟิศ โดยเฉพาะสาขาในบริเวณสถานีรถไฟที่มีพื้นที่ร้านจำกัด จะเน้นกลยุทธ์นี้มากเป็นพิเศษ

จากนี้ต้องรอดูว่าผู้เล่นรายอื่น ๆ จะมีความเคลื่อนไหวอย่างไร และหากความเคลื่อนไหวนี้ดำเนินต่อไปน่าจะทำให้ตลาดร้านสะดวกซื้อในมาเลเซียคึกคักขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจส่งผลให้สภาพการแข่งขันเปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย