“เซเว่นฯ” บุกแดนภารต ซุ่มเจรจายักษ์ค้าปลีกท้องถิ่นเปิดสาขา

คอลัมน์ MARKET MOVE

เซเว่นอีเลฟเว่นเป็นหนึ่งในเชนร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ที่รุกเข้าทำธุรกิจในทุกประเทศที่มีโอกาส แต่ที่ผ่านมา “อินเดีย” ซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่ที่ถูกมองว่าในอนาคตอันใกล้จะมีศักยภาพไม่น้อยหน้าจีนแผ่นดินใหญ่ กลับไม่มีสาขาเชนร้านสะดวกซื้อยักษ์รายนี้ จนล่าสุดมีรายงานจากสื่อท้องถิ่นของอินเดียว่า กำลังมีการเจรจาระหว่าง “เซเว่นแอนด์ไอโฮลดิ้ง” บริษัทแม่ของเชนร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น กับผู้ประกอบการค้าปลีกท้องถิ่นรายใหญ่ เพื่อผุดสาขาเซเว่นอีเลฟเว่นในอินเดีย

สำนักข่าว “อินเดียไทม์” รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า “เซเว่นแอนด์ไอโฮลดิ้ง” อยู่ระหว่างการเจรจากับ “ฟิวเจอร์กรุ๊ป” หนึ่งในผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ของอินเดียเพื่อขายสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชซีร้านเซเว่นอีเลฟเว่นสำหรับทำตลาดในอินเดียให้กับธุรกิจท้องถิ่นรายนี้

ทั้งนี้ “ฟิวเจอร์กรุ๊ป” มีธุรกิจทั้งเชนร้านค้าปลีกตั้งแต่ไซซ์ห้องแถวจนถึงไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ร้านของตกแต่งบ้าน รวมกว่า 1,400 สาขา ใน 409 เมืองของอินเดีย อีกทั้งยังเป็นผู้นำเข้า-จัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมอย่างคอนเวิร์ส อัมโบรและอื่น ๆ รวมถึงมีสินค้าโอว์นแบรนด์ในกลุ่มอาหารส่งขายในร้านค้ากว่า 1.2 แสนร้านทั่วประเทศ โดยเมื่อปี 2561 มีรายได้มากกว่า 2.59 พันล้านเหรียญสหรัฐ

แม้ “เซเว่นแอนด์ไอโฮลดิ้ง” และ “ฟิวเจอร์กรุ๊ป” ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับดีลนี้ แต่แหล่งข่าวรายเดียวกันระบุว่า เป็นไปได้สูงที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะประกาศความชัดเจนของดีลนี้ในเดือน มี.ค.ที่จะถึง โดยสินค้าที่จะเน้นในร้านจะเป็นกลุ่มอาหาร

“เดวัณชู บุตตา” ซีอีโอของบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ เทิร์ดอายไซต์ วิเคราะห์ว่า ดีลนี้มีความเป็นไปได้ เพราะฟิวเจอร์กรุ๊ปนับว่ามีความพร้อมสูง เนื่องจากมีร้านค้าปลีกขนาดเล็กจำนวนมากที่ได้จากการเข้าซื้อกิจการช่วง 1-2 ปีก่อนอยู่ในมือ เช่น อีซี่เดย์ (Easy Day), เฮอริเทจรีเทล (Heritage Retail) และนิลกิริ (Nilgiri) โดยทั้งหมดเป็นร้านไซซ์เล็กและมีทำเลในย่านชุมชน ซึ่งเหมาะที่จะปรับโฉมให้เป็นร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นทางลัดให้ยักษ์สะดวกซื้อเข้าครองทำเลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว

สอดคล้องกับความเห็นของ “แอนทีค โบรกเกอร์” บริษัทผู้ให้บริการด้านการเงินที่ระบุว่า ฟิวเจอร์กรุ๊ปเองได้ประโยชน์ 2 ต่อจากดีลนี้ เพราะนอกจากสิทธิ์ทำร้านเซเว่นอีเลฟเว่นแล้ว บรรดาร้านค้าไซซ์เล็กที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปซื้อเข้ามานั้นน่าจะคืนทุนได้ภายในปีงบนี้อยู่แล้ว หลังสามารถทำรายได้ถึง 15% ของรายได้รวมบริษัท และเมื่อมีเซเว่นอีเลฟเว่นเข้ามาเสริมน่าจะดึงดูดนักลงทุนได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลบวกกับราคาหุ้นในตลาด

“ฟิวเจอร์กรุ๊ปมีนโยบายเสนอขายหุ้นให้กับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งการมีสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อระดับอินเตอร์ในพอร์ตโฟลิโอ จะยิ่งดึงดูดสายตาได้ดียิ่งขึ้น”

ขณะเดียวกันสภาพตลาดค้าปลีกของอินเดียยังเอื้อต่อการลงทุนร้านค้าขนาดเล็ก เนื่องจากเป็นที่นิยมของผู้บริโภค สะท้อนจากการสร้างยอดขายถึง 90% ของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค จนตั้งแต่ปี 2555 ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ต่างพากันลดขนาดร้านลง 13-35% เพื่อเพิ่มสัดส่วนกำไร

อย่างไรก็ตาม ในตลาดยังมีคู่แข่งสำคัญ 2 รายอย่าง “ทเวนตี้ โฟร์ เซเว่น” (24Seven) เชนร้านสะดวกซื้อสัญชาติอินเดีย ของเครือธุรกิจยักษ์ใหญ่ “โมดี กรุ๊ป” ปัจจุบันมีสาขา 108 สาขา ในนิวเดลีและชาดิกราทางภาคเหนือของอินเดีย พร้อมด้วยโมเดลธุรกิจที่เป็นแบบร้านสะดวกซื้ออินเตอร์แบรนด์ การเปิด 24 ชั่วโมง ไลน์อัพสินค้าทั้งของกินและของใช้ รวมถึงเน้นประสบการณ์ช็อปปิ้งระดับอินเตอร์ และยังมี “อิน แอนด์ เอาต์” (In and Out) เชนร้านสะดวกซื้อของบริษัทบารัต ปิโตรเลียม ซึ่งมีรัฐบาลอินเดียถือหุ้นอยู่ โดยครองทำเลในปั๊มน้ำมัน

ทั้งนี้ต้องรอดูกันว่าดีลแฟรนไชส์นี้จะออกมาในทิศทางใด ฟิวเจอร์กรุ๊ปจะได้สิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์หรือไม่ และด้วยเงื่อนไขใด รวมถึงการเข้าสู่ตลาดของเซเว่นอีเลฟเว่นจะส่งผลกระทบต่อสภาพตลาดค้าปลีกของอินเดียอย่างไร