ค้าปลีกสหรัฐ เอาใจสายเขียว เพิ่มโซน “เครื่องสำอางกัญชา”

คอลัมน์ Market Move

ขณะที่การใช้ “กัญชา” ทางการแพทย์ หรือองค์ความรู้เกี่ยวกับกัญชาในแง่มุมที่ไม่ใช่สารเสพติด กำลังเป็นประเด็นใหม่ที่ร้อนแรงในบ้านเรา ในต่างประเทศการใช้ประโยชน์จากกัญชามีความก้าวหน้าไปไกล ไม่เพียงแต่ทางการแพทย์เท่านั้น มีการวิจัย ศึกษา ถึงการนำเอาสารสกัดมาใช้กับผลิตภัณฑ์หลายประเภท อาทิ อาหาร เบียร์ ฯลฯ ไปจนถึงเครื่องสำอาง และสกินแคร์

รายงานจากสำนักข่าวซีเอ็นบีซีระบุว่า เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกัญชา (cannabis beauty) กำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ถึงขั้นที่นักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีต ทำการแยกประเภทของเครื่องสำอางดังกล่าวออกมามาเป็นแคทิกอรี่นี้โดยเฉพาะ

เช่นเดียวกับห้างค้าปลีก รวมถึงร้านเครื่องสำอางมัลติแบรนด์ชื่อดัง ที่เริ่มนำเครื่องสำอางจากกัญชา-ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมจาก “CBD” หรือ cannabidol เป็นสารตัวหนึ่งที่พบในกัญชา และกัญชง ซึ่งไม่มีฤทธิ์ต่อประสาท (nonpsychoactive) เข้ามาวางจำหน่ายบนเชลฟ์ อาทิ เซโฟร่า, บาร์นีย์ส ตลอดจนลักเซอรี่แฟชั่นรีเทลเลอร์อย่าง เนย์มาน มาร์คัส

“เอริน เมอร์ฟีย์” นักวิเคราะห์จากไพเพอร์ จาฟเฟรย์ สหรัฐอเมริกา ระบุว่า เทรนด์ดังกล่าวไม่เพียงจะเป็นกระแสที่เกิดขึ้นชั่วครู่เท่านั้น แต่อุตสาหกรรมความงามและกัญชานี้ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจากการประเมินมูลค่าของตลาด CBD พบว่ามีมูลค่าสูงถึง 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และจะเติบโตขึ้นเป็น 1 แสนล้านเหรียญในอนาคต

“เราพบว่าเชนร้านเครื่องสำอางอย่างเซโฟร่า มีการแบ่งเซ็กชั่นภายในร้านสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามที่มีส่วนผสมจากกัญชา แยกออกมาเป็นแคทิกอรี่อย่างชัดเจน โดยมีเครื่องสำอางจากหลายแบรนด์ที่หันมาสนใจ และพัฒนาสินค้าประเภทนี้กันมากขึ้น”

นอกจากนี้ เธอยังพบอีกว่า กระแสดังกล่าวยังกลายเป็นที่สนใจแก่คนในแวดวงค้าปลีกอีกจำนวนมากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูล รวมถึงกิจกรรมการเปิดตัวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีอีกหลายแบรนด์ที่เตรียมพัฒนาสินค้า รองรับกับเซ็กเมนต์เครื่องสำอางนี้ อาทิ เอสเต้ ลอเดอร์, อี.แอล.เอฟ บิวตี้ และอัลตร้า บิวตี้

นักวิเคราะห์จากไพเพอร์ จาฟเฟรย์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้เพียง 1 เดือน เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากสาร CBD ยังถูกจัดให้เป็นแคทิกอรี่ย่อย ๆ ในกลุ่มเครื่องสำอางจากธรรมชาติอีกที แต่การเติบโตอย่างน่าสนใจของมันได้ทำให้บริษัทยกระดับไปสู่แคทิกอรี่หลักในที่สุด

“มุมมองของเราต่อ CBD beauty คือ ส่วนต่อขยายจากกลุ่มเครื่องสำอางจากธรรมชาติ ที่กำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง เทรนด์การค้นหาในกูเกิลก็เช่นเดียวกัน ที่แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความสนใจในเครื่องสำอางจากกัญชาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ”

ตลอดจนบรรดาห้างค้าปลีกบางแห่งที่เตรียมจะเพิ่มเซ็กชั่น หรือพื้นที่ภายในสาขา เพื่อรองรับกับกระแสความสนใจนี้ เช่นเดียวกับเซโฟร่าในเดือนที่ผ่านมา ห้างบาร์นีย์ส สหรัฐอเมริกา ได้ทำการเปิดร้าน “The High End” ที่สาขาแฟลกชิปในเบเวอรี่ ฮิลล์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “luxury cannabis and wellness” เน้นความลักเซอรี่ของสินค้าจากกัญชาและสุขภาพไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งถือเป็นค้าปลีกรายแรกที่เปิดตัวร้านประเภทนี้ ตลอดจนการเพิ่มพื้นที่ให้กับกลุ่มโปรดักต์ความงามจากกัญชา ที่จะวางขายในโลเกชั่นอย่าง เบเวอรี่ฮิลล์, แคลิฟอร์เนีย ฯลฯ ภายในช่วงเดือนมีนาคมนี้

ขณะที่เนย์มาน มาร์คัส รีเทลเลอร์ลักเซอรี่แฟชั่นจากสหรัฐอเมริกา ก็เป็นผู้ประกอบการอีกรายที่สนใจร่วมขบวนสายเขียวนี้ด้วย หลังจากที่บริษัทได้ตัดสินใจนำเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกัญชาเข้ามาจำหน่าย โดยเบื้องต้นจะวางในสาขาทั้งหมด 5 แห่ง อาทิ เบเวอรี่ฮิลล์, บอสตัน, ซานฟรานซิสโก ฯลฯ และช่องทางออนไลน์ เพราะในหลาย ๆ รัฐของสหรัฐอเมริกาเอง การขายสิ่งเหล่านี้ก็ยังถือว่าผิดกฎหมายอยู่

“เราจะได้เห็นภาพของบรรดาแบรนด์ความงามอีกหลายแบรนด์ ที่เริ่มการทดลองและพัฒนาสินค้าจากน้ำมันของเมล็ดกัญชง รวมถึงสาร CBD จากกัญชา รวมถึงแบรนด์ความงามยักษ์ใหญ่ที่จะส่งโปรดักต์ใหม่เข้ามาในตลาดนี้ เมื่อกฎเกณฑ์ต่าง ๆ มีความชัดเจนมากขึ้น”


ส่วนกระแสนี้ในบ้านเรานั้นคงอีกนาน…