เนสท์เล่ บุกหนักเวียดนาม ระดมสินค้า ย้ำแบรนด์สุขภาพ

ในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “เวียดนาม” ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการแข่งขันดุเดือดเพื่อชิงฐานผู้บริโภคกว่า 100 ล้านคนในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโต โดย “เนสท์เล่” ยักษ์อาหาร-เครื่องดื่มสัญชาติสวิสเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ ที่สะท้อนถึงความสำคัญของตลาดนี้ ด้วยการเดินหน้าขยายธุรกิจในเวียดนามอย่างรวดเร็วทั้งเปิดตัวสินค้าใหม่ ขยายโรงงาน-ศูนย์กระจายสินค้า

สำนักข่าวรีเทลเอเชีย ได้สัมภาษณ์ “คริสต์ จอนสัน” รองประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารภูมิภาคเอเชีย โอเชียเนีย ซับซาฮาราแอฟริกา บริษัทเนสท์เล่ ถึงศักยภาพ ความท้าทายและสภาพการแข่งขันในเวียดนาม รวมถึงทิศทางของยักษ์สินค้าอาหาร-เครื่องดื่มทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้ผลประกอบการเติบโตระดับเลข 2 หลักในปีนี้

โดยผู้บริหารหนุ่มใหญ่ฉายภาพว่า แม้เวียดนามจะไม่ใช่ตลาดใหญ่ในพอร์ตของเนสท์เล่ แต่เป็นตลาดที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ด้วยปัจจัยบวกหลายด้านทั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ จำนวนประชากรเกือบ 100 ล้านคน ซึ่งกลุ่มชนชั้นกลางใช้จ่ายกันอย่างอู้ฟู่เพื่ออัพเกรดคุณภาพชีวิต ส่งผลให้เนสท์เล่เวียดนามเติบโตดีมา 4 ปีต่อเนื่อง มี “ไมโล” เป็นแบรนด์หัวหอกหลัก ตามด้วย “เนสกาแฟ” “เนสท์เล่” “แม็กกี้” และนมผง “นัน”

ด้านการแข่งขันแม้จะมีคู่แข่งทั้งโลคอลและอินเตอร์แบรนด์ แต่ยังเป็นผลบวกกับตลาดมากกว่า เพราะการทำโปรโมชั่นและทำการตลาดของแต่ละรายช่วยกระตุ้นการรับรู้และความสนใจของผู้บริโภคเพื่อรักษากระแสการเติบโตปี 2562 นี้ จะยังเดินตามแผน 2560-2563 ที่มุ่งขยายกำลังการผลิตและโลจิสติกส์เช่นเดียวกับจาก 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทเปิดโรงงานใหม่ในภาคเหนือที่จังหวัดฮึงเยียนใกล้กับฮานอยและเพิ่มไลน์ผลิต “เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้” ในโรงงานที่จังหวัดด่งนายตามตะวันออกของโฮจิมินห์ซิตี พร้อมกับเปิดศูนย์กระจายสินค้าอีก 2 แห่งในภาคเหนือและใต้ในส่วนของการตลาดยังมุ่งย้ำภาพลักษณ์ด้านเป็นมิตรกับสุขภาพ ทั้งสินค้าใหม่จากแบรนด์หลักทั้ง 5 แบรนด์ที่จะเปิดตัวซึ่งจะปรับสูตรการผลิตลดสัดส่วนไขมัน น้ำตาลและเกลือลง รวมถึง

สื่อสารผ่านสื่อและการร่วมมือกับองค์กรของรัฐอย่างกระทรวงศึกษาและสถาบันโภชนาการแห่งชาติให้หลากหลายและเข้มข้นกว่าที่ผ่านมา เน้นชูเรื่องไลฟ์สไตล์ที่ทำให้มีสุขภาพดี เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มต่าง ๆ เช่น นักเรียน-นักศึกษา

ขณะเดียวกัน เดินหน้าโครงการซีเอสอาร์แบบวิน-วิน เช่น แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์กาแฟทนโรคและให้ผลผลิตสูง รวมถึงอบรมความรู้ด้านการเกษตร ซึ่งช่วยให้ชาวไร่มีรายได้สูงขึ้น ส่วนบริษัทได้แหล่งวัตถุดิบคุณภาพดีในประเทศ

หลังจากนี้ต้องจับตาดูว่า แผนการของเนสท์เล่ จะช่วยให้สามารถมีผลประกอบการปี 2562 เติบโตในระดับเลข 2 หลักได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่