ยูนิโคล่ควงบุญถาวร-อินเด็กซ์ ปั๊มยอดหมื่นล้านโตไม่รอห้าง

“ยูนิโคล่” เขย่าฟาสต์แฟชั่น ผุดโมเดลร้านสารพัดรูปแบบ ควง “บุญถาวร ปิ่นเกล้า” ขยายโรดไซด์สโตร์แห่งที่ 3 จับมืออินเด็กซ์ ลีฟวิ่งมอลล์ ปักธงย่านชัยพฤกษ์ เร่งเครื่องโรดไซด์แห่งที่ 4 ย่านมีนบุรี รายได้ทะลุหมื่นล้าน กำไรเฉียด 20% 

การลงทุนขยายสาขาของยูนิโคล่ ที่ไม่จำกัดแค่รูปแบบเฉพาะในห้างสรรพสินค้าเริ่มเห็นชัดมากขึ้นตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมาอาทิ การเปิดสาขาโรดไซด์สโตร์แห่งแรกในไทยและอาเซียน ที่พัฒนาการในช่วงต้นปี และในช่วงกลางปีได้เข้าไปเปิดในไฮเปอร์มาร์เก็ตอย่าง “บิ๊กซี พระราม 4″ตามมาติด ๆ ด้วยการเปิดสาขาโรดไซด์สโตร์แห่งที่ 2 ที่ลาซาลอเวนิว ในช่วงปลายปีเปิดใน “เกตเวย์ แอท บางซื่อ” คอมมิวนิตี้ ช็อปปิ้งมอลล์ ในเครือทีซีซี กรุ๊ป

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ยูนิโคล่ได้แท็กทีมพาร์ตเนอร์รายใหม่ในกลุ่มวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน “บุญถาวร” และอินเด็กซ์ ลีฟวิ่งมอลล์ เชนใหญ่ร้านตกแต่งบ้าน เตรียมลงทุนขยายสาขาธุรกิจร่วมกัน โดยเตรียมที่จะเปิดสาขาใหม่ 2 สาขา แบ่งเป็นสาขารูปแบบโรดไซด์สโตร์ 1 สาขา ในพื้นที่ของบุญถาวร ปิ่นเกล้า ติดกับถนนบรมราชนนี

ส่วนอีก 1 สาขาที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ชัยพฤกษ์ ซึ่งทั้งคู่มีแผนที่จะเปิดให้บริการในวันศุกร์ที่ 22 มีนาคมนี้ และบริษัทยังเตรียมที่จะเปิดสาขารูปแบบโรดไซด์สโตร์แห่งที่ 4 ในย่านมีนบุรี และสาขาในห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต เร็ว ๆ นี้ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ รูปแบบที่เปิดกับบุญถาวร บนถนนบรมราชชนนีนั้น เพื่อเป็นศูนย์รวมวัสดุตกแต่งบ้านคอนเซ็ปต์ใหม่ “ดีไซน์วิลเลจ” ที่จะมีส่วนของร้านค้า และบริการที่เป็นไลฟ์สไตล์ เข้ามาเติมเต็มความต้องการของลูกค้ายุคใหม่โดยสาขาแห่งนี้ถือเป็นร้านในโมเดลโรดไซด์สโตร์แห่งที่ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในไทย

อย่างไรก็ตาม การทดลองเปิดสาขานอกห้างครั้งแรกนั้นเริ่มตั้งแต่ปี 2556 กับ”เทสโก้ โลตัส ภูเก็ต” ซึ่งผู้บริหารของยูนิโคล่ระบุเอาไว้ในตอนนั้นว่า เป็นการนำร่องเพื่อเทสต์และศึกษาตลาด เนื่องจากยูนิโคล่เน้นการขยายสาขาในสเกลใหญ่เฉลี่ย 1,000 ตร.ม.ขึ้นไป ซึ่งในบางจังหวัดไม่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ในห้างที่สามารถรองรับร้านรูปแบบดังกล่าวได้ซึ่งกลยุทธ์การขยายสาขาภายใต้โมเดลที่หลากหลาย ทำให้ยูนิโคล่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และบริษัทยังสร้างแพลตฟอร์มการช็อปปิ้งออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวก ตลอดจนสร้างการเข้าถึงฐานลูกค้าจากทั่วประเทศ แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ยังไม่เข้าไปเปิดสาขาก็ตาม

นายซาโตชิ ฮาตาเซะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารยูนิโคล่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทต้องการที่จะขยายสาขาทั้งในห้างและนอกห้าง รวมถึงพาร์ตเนอร์รายใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะความสะดวกสบายในการเข้าถึงสินค้า ลูกค้าก็สามารถเข้าไปซื้อในสาขาโรดไซด์สโตร์ที่ตั้งอยู่บริเวณชุมชน โดยไม่ต้องเข้าไปในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง

“โมเดลดังกล่าวจะเข้ามาต่อยอดความสำเร็จของยูนิโคล่ และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจในไทย ตลอดจนภูมิภาคอาเซียนให้แข็งแกร่ง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวันมาแล้ว ซึ่งแผนในระยะ 5 ปี บริษัทมองโอกาสที่จะสร้างการเติบโตในภูมิภาคอาเซียนให้ได้ปีละ 30% โดยจะโฟกัสตลาดไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เป็นหลัก ผ่านตัวสินค้า บริการที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่นั้น ๆ และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ตลอดจนช่องทางออนไลน์”

ขณะที่การเดินหน้าขยายสาขาในช่องทางหลักอย่างห้างสรรพสินค้าก็ยังเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2562 ยูนิโคล่ได้เปิดสาขาไปแล้ว 2 แห่งที่เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย นับเป็นร้านยูนิโคล่ สาขาที่ 45 ซึ่งเป็นสาขาแรกของจังหวัดนี้ และที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 46

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คอนเซ็ปต์ของสินค้าของยูนิโคล่ เน้นแนวคิด “LifeWear” ที่ต้องการเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ภายใต้โครงสร้างราคาที่เข้าถึงง่าย และดีไซน์ที่สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน นอกจากนั้น ยังมีคอลเล็กชั่นพิเศษที่เกิดจากความร่วมมือกับแบรนด์ ดีไซเนอร์ หรือศิลปินชื่อดัง สร้างสีสันให้กับตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น ล่าสุดคอลเล็กชั่นที่ทำร่วมกับ ฮานะ ทาจิมะ แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวอังกฤษ และคอลเล็กชั่นที่ทำร่วมกับแบรนด์ JW Anderson วางขายในช่วง Spring/Summer 2019 หรือความร่วมมือกับดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง อเล็กซานเดอร์ แวงรวมถึงแบรนด์ไลฟ์สไตล์อย่าง มารีเมกโกะในช่วงก่อนหน้านี้

สะท้อนจากผลประกอบการล่าสุดในปี 2561 ยูนิโคล่ ประเทศไทย มีรายได้รวมอยู่ที่ 10,168 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15% จากปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้อยู่ที่ 8,828 ล้านบาท และมีกำไร 1,971 ล้านบาทเติบโตขึ้น 31% จากปีที่ผ่านมา ที่มีกำไร 1,500 ล้านบาท โดยสัดส่วนยอดขายต่อกำไรอยู่ที่เกือบ 20%

ขณะที่ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2559-2561) พบว่า ยูนิโคล่มีการเติบโตของยอดขายปีละ 27%, 28% และ 15% ตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิเติบโตปีละ 124%, 97% และ 31% ตามลำดับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม.. “ยูนิโคล่” ปรับแผนคลังสินค้าใช้ “ระบบหุ่นยนต์” แทนแรงงานคน 90%

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!