“เนสท์เล่” ขนทัพสินค้าสุขภาพ น้ำตาล 0% เติมพอร์ตยอดขาย

ตลาดอาหารและเครื่องดื่มโตไม่หยุด เนสท์เล่เดินหน้าขนสินค้า น้ำตาล 0%-น้ำตาลน้อย โดดรับเทรนด์สุขภาพมาแรง

นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยมีมูลค่า 104,000 ล้านบาท เติบโต 1.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยบริษัทมองว่า ในปีนี้ทิศทางตลาดจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีและความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการอาหารและเครื่องดื่มมีความหลากหลาย โดยปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์อยู่ในตลาดจำนวน 14 กลุ่ม หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 30% และเป็นอันดับ 1 ในตลาด

ขณะที่บริษัทมีรายได้ในปี 2561 เติบโตกว่า 3.1% ซึ่งสูงกว่าตลาดอาหารและเครื่องดื่ม โดยรายได้หลักมาจากกลุ่มสินค้าเนสกาแฟ 50% ซึ่งหลังจากที่เนสกาแฟได้ปรับตัวตามเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการเปิดร้าน “เนสกาแฟ ฮับ แอท” ที่บีทีเอชสีลม เจาะกลุ่มคนเมือง ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากขึ้น ส่วนสินค้าที่เหลือกลุ่มละ 10% ได้แก่ ไมโล แม็กกี้ เครื่องดื่ม ไอศกรีม และนมตราหมี โดยที่ผ่านมาจะเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เพื่อสร้างการรับรู้อย่างครอบคลุม

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจจากนี้ไปของ “เนสท์เล่” เดินหน้านำกลยุทธ์ขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโต ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางเลือกสุขภาพ น้ำตาล 0% และกลุ่มน้ำตาลน้อย ซึ่งขณะนี้เนสท์เล่ได้รับเครื่องหมายสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพถึง 48 ผลิตภัณฑ์ และในสิ้นปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 50 ผลิตภัณฑ์ ล่าสุดได้เปิดตัวไมโลสูตรไม่มีน้ำตาลทราย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค และสิ่งสำคัญต้องรักษามาตรฐานรสชาติให้ถูกปากผู้บริโภคด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เนสท์เล่ตั้งเป้าหมายการเติบโตทั่วโลก 3.5% โดยประเทศไทยคาดว่าจะมีการเติบโตจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ทันต่อเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค คาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง