หัวใจ ลาซาด้า พัฒนาไม่หยุด อีก 5 ปี เพิ่มแบรนด์ 5 เท่า

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

หากจะพูดถึงธุกิจดาวรุ่งที่น่าจับตา คงไม่มีใครปฏิเสธความร้อนแรงของธุรกิจอีคอมเมิร์ซไปได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะตลาดอาเซียนที่มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ได้ดึงดูดการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติจำนวนมากภายในปี 2568 มีการคาดการณ์เอาไว้ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในอาเซียนจะมีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แต่อย่างไรก็ตาม การแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการแพลตฟอร์มนี้ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน รวมทั้งยังมีผู้ขายเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่มีความรู้ และมีเครื่องมือพอที่จะแข่งขันในเวทีที่ดุเดือดนี้ได้

“ปิแอร์ ปัวยอง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า กรุ๊ป ฉายภาพแนวคิด ซึ่งเป็นคีย์สำคัญของบริษัทในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนการรับมือกับตลาดที่ไดนามิกของภูมิภาคนี้ว่า ลาซาด้า คือ “Tech Company” ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และจะไม่หยุดการพัฒนาเครื่องมือใหม่ ๆ หรือนวัตกรรมที่จะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของคู่ค้า แบรนด์ และผู้บริโภค

การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาลีบาบาตั้งแต่ปี 2559 ที่ผ่านมา ยิ่งเสริมให้ลาซาด้ามีความแข็งแกร่งในเรื่องเทคโนโลยีและการลงทุนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอรูปแบบของการขายใหม่ ๆ เช่น ไลฟ์สตรีม ที่เริ่มใช้ในประเทศไทยเป็นที่แรกในอาเซียน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

“ตั้งแต่ร่วมกับอาลีบาบา เราสามารถพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และปลดล็อกข้อจำกัดที่เคยมี โดยนำองค์ความรู้นั้นมาปรับให้เข้ากับความต้องการของคนโลคอล เช่น การไลฟ์สตรีม จะเกิดขึ้นในเวลาที่ช้ากว่านี้ หากไม่มีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาช่วย”

และในปีนี้ “ปิแอร์” ประกาศที่จะขับเคลื่อนธุรกิจของลาซาด้า ภายใต้ 3 แนวคิดหลัก คือ empowerment การสนับสนุนแบรนด์และผู้ขายผ่านเครื่องมือใหม่ ๆ experience สร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจ ตามเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค และ efficiency เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เข้าถึงคู่ค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียลให้เข้ามาร่วมธุรกิจได้ง่ายขึ้น

ล่าสุดได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด “ซูเปอร์โซลูชั่นส์” เพื่อให้แบรนด์และผู้ขายที่อยู่ในลาซาด้า สามารถเติบโตไปพร้อม ๆ กับตลาด และยังเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของตัวเองได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น ผ่านเครื่องมือหลัก อาทิ “แคมเปญซูเปอร์ซีรีส์” ที่จะช่วยส่งเสริมการขายและสื่อสารกับลูกค้าผ่านวิธีต่าง ๆ

“business advisor dashboard” แพ็กเกจโซลูชั่นทางการตลาด ผ่านกระดานแสดงผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้คู่ค้านำไปตัดสินใจ วิเคราะห์ วางแผนการขาย และการสื่อสารได้อย่างแม่นยำ ตลอดจนฟีเจอร์ที่จะมาช่วยสร้างแบรนด์อะแวร์เนส ทั้งการไลฟ์สตรีม การปรับแบรนเนอร์ร้านให้มีความเฉพาะตัวมากขึ้น การค้นหาด้วยรูปภาพ เป็นต้น

“เรามองว่าไม่มีผู้ขายรายใดเล็กเกินไปที่จะเติบโต และไม่มีแบรนด์ใดที่ใหญ่เกินไปสำหรับการเป็นสุดยอดธุรกิจออนไลน์ (super eBusiness) และซูเปอร์โซลูชั่นยังจะช่วยให้ผู้ขายใหม่ ๆ สามารถเปิดร้านบน LazMall ได้ง่ายขึ้นด้วย”

“ปิแอร์” ระบุถึงความสำคัญของ LazMall ว่าเป็นหนึ่งในคีย์หลักที่สร้างการเติบโตและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยสินค้าในนี้กว่า 10,000 รายการ จาก 1,500 แบรนด์ จะถูกการันตีโดยลาซาด้าว่าเป็นของแท้ มีคุณภาพ มีการบริการที่วางใจได้ หรือการส่งสินค้าในวันถัดไป โดยภายใน 5 ปี จำนวนแบรนด์ในนี้จะเพิ่มขึ้นกว่าปัจจุบัน 5 เท่า

รวมถึงการขนส่งที่เป็นหัวใจหลักของธุรกิจ ซึ่งวันนี้กว่า 80% ของการส่งสินค้าที่เกิดขึ้น อยู่ภายใต้การดำเนินงานของลาซาด้าเอง ก็จะมีการลงทุนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเตรียมเปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ในประเทศไทย ขนาดเท่ากับสนามฟุตบอล 20 สนาม

หัวเรือใหญ่ลาซาด้ายังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า บริษัทเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายแรก ๆ ที่เข้ามาเปิดตัวในภูมิภาคนี้ เมื่อปี 2555 และสามารถยึดตำแหน่งผู้นำตลาดเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยการไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาซึ่งภายในปี 2573 ลาซาด้าจะสร้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรวมทั้งสิ้นกว่า 8 ล้านราย มีฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ 300 ล้านคน และสร้างตำแหน่งงานในอีโคซิสเต็มของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอีก 20 ล้านตำแหน่ง

และในโอกาสครบรอบ 7 ปีของลาซาด้า ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ ได้จัดแคมเปญใหญ่ โดยมีสินค้าลดราคาสูงสุดกว่า 90% ส่วนลดกว่า 7 แสนคูปอง ที่จะจับมือกับแบรนด์ชั้นนำในไทยกว่า 450 แบรนด์ อาทิ Samsung, L’Oreal, Estee Lauder, P&G, Unilever, Huawei, Xiaomi, Saha Group, JBL และ Mamy Poko ตั้งแต่วันที่ 21-27 มีนาคมนี้

ตลอดจนคอนเสิร์ต “Super Party” ในวันที่ 26 มีนาคม เวลา 18.00 น. ณ กรุงจาการ์ตา จากนักร้องชื่อดังอย่าง Dua Lipa รวมถึงศิลปินจากอาเซียน และไทย ในรูปแบบของการไลฟ์สด ซึ่งรับชมได้ผ่านแอปพลิเคชั่นของลาซาด้า ยิ่งออนไลน์และดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของคน การแข่งขันในแพลตฟอร์มนี้เพื่อมัดใจผู้บริโภคยิ่งคึกคักไม่แพ้กัน