สมาร์ทโฮม มาแรง “กรี” ร่วมวง ทุ่ม 9 พันล้านดันธุรกิจ

คอลัมน์ MARKET MOVE

การแข่งขันในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าแดนมังกรทวีความร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อ “กรี” (Gree) ผู้ผลิตแอร์รายใหญ่ประกาศทิศทางโฟกัสการแข่งขันในเซ็กเมนต์สมาร์ทโฮมอย่างเต็มตัว หลังเสียส่วนแบ่งตลาดแอร์ให้กับคู่แข่งอย่าง ไฮเออร์ (Haier) และไมเดีย (Midea) อย่างต่อเนื่อง จาก 39% เป็น 35% ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา โดยเดินหน้าลงทุนตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนวงจรคอมพิวเตอร์เอง แทนการนำเข้า รวมถึงตั้งศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ หวังสร้างความได้เปรียบด้านคุณภาพและต้นทุน

สำนักข่าว “นิกเคอิ” รายงานว่า กรี เดินหน้าลงทุนต่อเนื่องรวมมูลค่ากว่า 9 พันล้านหยวน ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งการลงทุนตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีเอไอและโรงงานเครื่องซักผ้ามูลค่า 5 พันล้านหยวน ที่เมืองเฉิงตู และช่วงเดือน ธ.ค.ได้ลงทุน 3 พันล้านหยวน ในบริษัทผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์สัญชาติจีน “อันชิ” (Anchi) รวมถึงลงทุนอีก 1 พันล้านหยวน ตั้งบริษัทออกแบบชิปคอมพิวเตอร์ของตนเองเมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว

“กัว หมิงสือ” ประธานบริษัทกรี กล่าวถึงเป้าหมายของการทุ่มลงทุนนี้ว่า การควบคุมคุณภาพและปริมาณให้ตามต้องการเป็นเป้าหมายหลัก เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทต้องซื้อชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์จากซัพพลายเออร์หลายราย ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมปัจจัยเหล่านี้

โดยเฉพาะเมื่อต้องแข่งขันในตลาดต่างประเทศ ซึ่งแบรนด์จีนจะต้องเน้นจุดขายด้านความเชื่อมั่นและนวัตกรรม เพื่อสร้างยอดขายให้ถึง 6 แสนล้านหยวน ในปี 2566 จากยอดขายปัจจุบันที่ 2 แสนล้านหยวนเมื่อปีที่แล้ว โดยเติบโตประมาณ 5 หมื่นล้านหยวน จึงต้องลงทุนตั้งฐานการผลิตเอง

นอกจากการควบคุมคุณภาพแล้ว ยังต้องลงทุนเพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใส่ในสินค้าอีกด้วย โดยกำลังลงทุนในบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า “หยินหลง” (Yinlong) เพื่อเข้าถึงโนว์ฮาวเกี่ยวกับแบตเตอรี่ ที่จะช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าและระบบสมาร์ทโฮมทำงานได้แม้ไฟฟ้าดับ

“ตลาดต่างประเทศยังมีช่องว่างให้แบรนด์จีนเติบโตได้อีกมาก เพราะปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากต่างประเทศเพียง 20% เท่านั้น”

สอดคล้องกับข้อมูลของบริษัทวิจัยยูโรมอนิเตอร์ที่ระบุว่า แบรนด์จีนกำลังไปได้ดีในหลายตลาด อาทิ สหรัฐอเมริกาซึ่งปี 2561 ที่ผ่านมาไฮเออร์มีส่วนแบ่งตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านถึง 27% แล้ว


หลังจากนี้ต้องรอดูว่า แผนการทุ่มลงทุนของกรีจะออกดอกออกผลอย่างไร จะช่วยให้บริษัทสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดแอร์คืนจากคู่แข่งได้หรือไม่ และในระหว่างนี้ผู้เล่นใหญ่อีก 2 รายจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง