“หลุยส์ วิตตอง-กุชชี่-บาลองฯนำทัพหรูบุกภูเก็ต รับดีมานด์นักท่องเที่ยว-กำลังซื้ออู้ฟู่ !

13 แบรนด์แฟชั่นหรูระดับโลกยกทัพบุกภูเก็ต “หลุยส์ วิตตอง-กุชชี่-บาลองฯ-เออร์เมส-เวอร์ซาเช่” นำทัพเปิดสาขานอกกรุงเทพฯครั้งแรก รับดีมานด์นักท่องเที่ยว-กำลังซื้ออู้ฟู่ ชี้ตลาดศักยภาพสูง บริษัทแม่ลุยลงทุนเองไม่ผ่านตัวแทน ปั้นไทยฮับซีแอลเอ็มวี

“ภูเก็ต” เมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่ทุกธุรกิจต่างดาหน้าเข้ามาลงทุน ด้วยกำลังซื้อมหาศาลและตลาดที่ขยายตัวไม่หยุด ตัวเลขในปี 2017 มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางเข้ามามากกว่า 16.9 ล้านคน สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจกว่า 3.77 แสนล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปี 2020 จะมีนักท่องเที่ยวมากถึง 20-25 ล้านคน นั่นหมายความว่าเม็ดเงินทางเศรษฐกิจสะพัดในจังหวัดภูเก็ตกว่า 5.5 แสนล้านบาท สอดคล้องกับการเคลื่อนทัพลงทุนของแต่ละธุรกิจที่เข้าไปปักธงและยึดทำเลทองแห่งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจและนักท่องเที่ยวในภูเก็ต ที่เรียกกันว่าเป็น “เมืองดอลลาร์” ที่จะเพิ่มสูงขึ้น

13 แบรนด์หรูแห่ปักธง

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ล่าสุดกลุ่มแฟชั่นแบรนด์หรูระดับลักเซอรี่ 13 แบรนด์ ได้เข้าไปลงทุนครั้งแรกในภูเก็ต และเป็นครั้งแรกของแบรนด์ระดับโลกเหล่านี้ที่ออกไปลงทุนในต่างจังหวัด นับตั้งแต่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย อาทิ หลุยส์ วิตตอง, กุชชี่, บาลอง เซียก้า, เออร์เมส, บุลการี, เวอร์ซาเช่, เฟอร์รากาโม, อีฟส์ แซงต์ โลรองต์, โคลเอ้ และแม็คควีน เป็นต้น โดยการลงทุนของแบรนด์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นการเข้ามาลงทุนเองโดยบริษัทแม่ หลังจากที่ได้เปลี่ยนรูปแบบจากเดิมที่ผ่านระบบตัวแทนจำหน่ายหรือดิสทริบิวเตอร์ เนื่องจากเห็นโอกาสของกำลังซื้อใหม่ ๆ ในตลาดและกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังต้องการปั้นไทยเป็นศูนย์กลางของการทำตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านหรือซีแอลเอ็มวีด้วย

แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการแฟชั่นแบรนด์หรู เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมาตลาดสินค้าลักเซอรี่ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดในอเมริกาและจีนถือเป็น 2 ตลาดหลักที่ครองส่วนแบ่งเกินกว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าตลาดสินค้าลักเซอรี่ทั้งหมด เช่นเดียวกับการเติบโตของตลาดอาเซียนที่มีการขยายตัวสูงต่อเนื่อง นอกจากในกรุงเทพฯที่เป็นสาขาหลักแล้ว แบรนด์เหล่านี้ยังขยายการลงทุนเปิดสาขาในภูเก็ต เนื่องจากมองเห็นโอกาสการเติบโตและภูเก็ตเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง

ขนมาระดับแฟลกชิป

Advertisment

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าลักเซอรี่แฟชั่นแบรนด์เหล่านี้ เปิดในศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ในรูปแบบแฟลกชิปสโตร์ อาทิ Hermes เป็นครั้งแรกที่ขยายสาขานอกพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งย้ำให้เห็นถึงความสำคัญและความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ขณะที่เวอร์ซาเช่ (Versace) ได้เปิดตัวพร้อมคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2019 ตอกย้ำการเป็น The world”s must-visit destination in Thailand ส่วนซัลวาทอเร่ เฟอร์รากาโม (Salvatore Ferragamo) เปิดตัวร้านด้วยคอลเล็กชั่นฤดูกาล Spring-Summer 2019 และได้นำกระเป๋ารุ่น Limited Edition ที่มีเพียง 100 ใบทั่วโลก และมีเพียง 2 ใบในประเทศไทยมาจัดแสดงเป็นครั้งแรก

นาฬิกาหรูไม่ตกขบวน

Advertisment

นายณรัณ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอ็มที เดอะ อาวร์ กลาส จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกาโรเล็กซ์, โอเดอมาร์ ปิเกต์, ริชาร์ด มิลล์, ปาเต็ก ฟิลิปป์, อูโบลท์, โชพาร์ด, ทิวดอร์ ฯลฯ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภูเก็ตเป็นอีกตลาดที่มีศักยภาพสูงต่อจากกรุงเทพฯ ด้วยกำลังซื้อของพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่จำนวนมาก และยังมีสนามบินนานาชาติ รองรับการเดินทางจากทั่วสารทิศ และพีเอ็มที เดอะ อาวร์ก็ได้เปิดสาขาที่เซ็นทรัล ภูเก็ตเช่นกัน จากปกติที่จะเน้นเปิดร้านเฉพาะย่านที่มีกำลังซื้อจากทัวริสต์ในห้างใจกลางกรุงเทพฯเท่านั้น

“ที่ผ่านมาสินค้าลักเซอรี่มีการเติบโตที่ดี แม้ว่าในบางช่วงจะได้รับผลกระทบจากเรื่องท่องเที่ยวบ้าง เช่น เหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ต แต่ใช้เวลาไม่กี่เดือนก็กลับสู่ภาวะปกติ เพราะกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์เหล่านี้ยังคงมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สินค้ากลุ่มแมสอาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ กำลังซื้อภาพรวมอยู่บ้าง”

อัพเกรดตลาดสู่พรีเมี่ยม

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัล ภูเก็ต เป็น world-class project และเป็นลักเซอรี่แฟลกชิปสโตร์ ต้องการให้ภูเก็ตเป็น beach lifestyle destina-tion เมืองตากอากาศชายทะเลที่ครบและสมบูรณ์แบบที่สุดเทียบเท่าริเวียร่าในฝรั่งเศส ไมอามี และฮาวายในอเมริกา เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สอดคล้องกับนโยบายระดับจังหวัดที่จะสร้างภูเก็ตให้เป็นดาวน์ทาวน์ที่มีความเจริญทัดเทียมกับเมืองท่องเที่ยวชื่อดังทั่วโลก

นายศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีวาน่า กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมและสปา จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ในฐานะอุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ปัจจุบันทิศทางของการท่องเที่ยวในโซนภูเก็ต และจังหวัดในโซนอันดามันเริ่มขยับสู่กลุ่มลักเซอรี่มากขึ้น และยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิสเรซิเดนต์ ล่าสุด กลุ่มดีวาน่าปรับยุทธศาสตร์การลงทุนใหม่ ด้วยการขยับเข้าสู่ตลาดในระดับ 5 ดาวเป็นครั้งแรก จากที่ก่อนหน้านี้อยู่ในตลาดระดับ 3-4 ดาวเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังได้ลงทุนรีโนเวตและยกระดับโรงแรมดีวาน่า พลาซ่า ภูเก็ต ป่าตองใหม่ คาดแล้วเสร็จประมาณกันยายน-ตุลาคม 2562 นี้

บริษัทแม่บุกเอง ไม่ผ่านเอเย่นต์

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ ” รายงานว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีแบรนด์หรูที่บริษัทแม่ตัดสินใจเข้ามาทำตลาดเอง อาทิ บ็อทเทก้า เวเนต้า, กุชชี่ ซึ่งทั้งคู่เคยให้กลุ่มเซ็นทรัลเป็นดิสทริบิวเตอร์ให้ ตลอดจนอีฟส์ แซงต์ โลรองต์ ที่เคยอยู่ในพอร์ตของพีพี กรุ๊ป และเบอร์เบอรี่ ที่เคยอยู่กับกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ของ บี.กริม กรุ๊ป

สอดคล้องกับข้อมูลการจดทะเบียนบริษัทล่าสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยังพบการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ของกลุ่มแบรนด์แฟชั่นหรู 2 ราย ได้แก่ บริษัท บาเลนเซียก้า (ประเทศไทย) จำกัด ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยบริษัท บาเลนเซียก้า เอส.เอ. จากฝรั่งเศสถือหุ้น 99.99%

ขณะที่บริษัท อเล็กซานเดอร์แม็คควีน (ประเทศไทย) จำกัด ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยบริษัท ออทัมน์เปเปอร์ จากอังกฤษ ซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าและแบรนด์ดังกล่าว ถือหุ้น 99.97% ทั้ง 2 แบรนด์นี้ที่ผ่านมาเป็นการนำเข้ามาทำตลาดของบริษัท คลับ 21 (ประเทศไทย) จำกัด