“เทสโก้” ทุ่ม 600 ล้านบาท อัพเกรดสาขารัดเข็มขัดต้นทุนพลังงาน จัดเต็มโซลาร์รูฟท็อป หลอดแอลอีดี ล่าสุดลงทุน 180 ล้านบาทเดินหน้าเปลี่ยนน้ำยาแอร์โมเดลเอ็กซ์เพรส 1,500 สาขา หวังหั่นค่าไฟ 10% ย้ำแผนระยะยาวชิงสร้างจุดขายด้านรักษ์โลกจับผู้บริโภครุ่นใหม่
นายมิโลสลาฟ ฟริมอล ประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคไทยเริ่มสนใจประเด็นสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าในระยะยาวจะทวีความสำคัญและอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยเลือกใช้บริการร้านค้าปลีก เช่นเดียวกับในประเทศตะวันตก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
เพื่อรับเทรนด์นี้และชิงความได้เปรียบจากคู่แข่ง รวมถึงลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน บริษัทแม่ที่อังกฤษ จึงได้ตั้งเป้าให้สาขาทั่วโลกลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 50% ภายในปี 2563 และหยุดการปล่อยก๊าซทั้งหมดในปี 2593 ด้วยการอัพเกรดร้านค้าทั้งที่มีอยู่แล้วและที่จะเปิดใหม่ในอนาคต
สำหรับในไทยเตรียมลงทุน 600 ล้านบาท อัพเกรดร้านสาขาเดิมและสาขาใหม่ที่จะเปิดหลังจากนี้ในด้านต่าง ๆ อาทิ ระบบแสงสว่าง ซึ่งจะใช้หลอดแอลอีดีและแสงจากธรรมชาติ พร้อมติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงระบบทำความเย็นซึ่งได้ลงทุน 180 ล้านบาท เปลี่ยนสารทำความเย็นของระบบปรับอากาศในร้านโมเดลเอ็กซ์เพรสจำนวน 900 สาขา ภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ และคาดว่าจะครบทั้งหมด 1,500 สาขาในปีหน้า เป็นสาร Solstice N40 ของบริษัทฮันนี่เวลล์ ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานลงประมาณ 10%
หลังจากที่ผ่านมาได้อัพเกรดร้านสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ในร้าน 8 สาขา และศูนย์กระจายสินค้าอีก 5 แห่งเมื่อปีที่แล้ว
“แม้แผนการนี้จะทำให้มูลค่าการลงทุนต่อสาขาสูงขึ้น แต่เชื่อว่าจะคุ้มค่าในระยะยาว เมื่อคำนึงถึงประโยชน์ด้านจุดขายและการสร้างการรับรู้กับผู้บริโภค รวมถึงค่าไฟฟ้าที่ลดลง เห็นได้จากการเม็ดเงิน 10 ล้านบาทที่ประหยัดได้เมื่อปีที่แล้วจากการผลิตไฟฟ้าใช้เอง”
ทั้งนี้คาดว่าการเปลี่ยนสารทำความเย็นสามารถคืนทุนใน 3.5 ปี ส่วนแผงโซลาร์เซลล์จะคืนทุนใน 7-8 ปีหลังติดตั้ง ส่วนสาขาโมเดลอื่นซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ายังอยู่ระหว่างการพิจารณาความคุ้มค่า
