ส่อง 10 พาวิเลียน ปั้นแบรนด์ผ่าน “อัสตานา เอ็กซ์โป”

ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์อีเวนต์ประจำปีนี้ สำหรับนิทรรศการระดับโลก “International Expo” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นที่เมืองอัสตานา สาธารณรัฐคาซัคสถาน ในชื่อ “อัสตานา เอ็กซ์โป2017” ด้วยแนวคิด พลังงานแห่งอนาคต (Future Energy) ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน-10 กันยายน 2560

สำหรับปีนี้มีประเทศเข้าร่วมงานกว่า 115 ประเทศ และองค์กรระดับโลกกว่า 20 หน่วยงาน บนพื้นที่การจัดงานทั้งหมด 1,740,000 ตารางเมตร หรือคิดเป็นพื้นที่กว่า 1,087 ไร่ โดยมีพื้นที่จัดนิทรรศการ 250,000 ตารางเมตร หรือ 156 ไร่ ซึ่งแต่ละประเทศก็จัดเต็ม ด้วยการโชว์ศักยภาพด้านพลังงานแห่งอนาคตของแต่ละประเทศอย่างเต็มที่

เริ่มต้นที่ประเทศแรกกับประเทศเจ้าภาพ สาธารณรัฐคาซัคสถาน ซึ่งต้องยกความอลังการให้ ด้วยการทุ่มงบฯกว่า 20,000 ล้านบาท เนรมิตลูกโลกความสูง 8 ชั้น นำเสนอพลังงานที่หลากหลาย ทั้งพลังงานลม แสงอาทิตย์ น้ำ พลังงานชีวมวล

ต่อด้วย ไทยแลนด์พาวิเลียน ของประเทศไทย ติด 1 ใน 5 ของพาวิเลียนยอดนิยมที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด นำเสนอเรื่องพลังงานทดแทน ภายใต้แนวคิด การพัฒนาด้านพลังงานชีวภาพเพื่อมนุษยชาติ สื่อสารถึงพลังงานเพื่ออนาคต แสดงศักยภาพของไทยในด้านการพัฒนาพลังงานทดแทน ภายในแบ่ง 3 โซน เริ่มที่โซนแรกจัดแสดง “วิถีเรา วิถีไทย” นำเสนอเรื่องราวของประเทศไทย ส่วนที่ 2 “ปลูกพลังงาน ปลูกอนาคต” สรุปเรื่องราวของพลังงานทดแทนเพื่ออนาคต นำเสนอในรูปแบบ 4D สุดท้าย สร้างพลังงาน สร้างพลังไทย ห้องรวบรวมพลังงานชีวมวลและชีวภาพไว้ เช่น อ้อย ยูคาลิปตัส เป็นต้น

พาวิเลียนที่ 3 โมร็อกโก ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่แอฟริกาตอนเหนือ นำเสนอเรื่องราวของโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับพลังงาน แบ่ง 4 โซน คือ โซนแรก เล่าเรื่องราวของโมร็อกโก เคลื่อนไหวผ่านกระจก ชูความสวยงามของทะเล โซนที่ 2 นำชมวิวเมืองโมร็อกโกแบบ 360 องศา ผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริง VR (Virtual Reality) โซนที่ 3 การนำเสนอโปรเจ็กต์ริมทะเล ที่คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2025 โดยใช้น้ำทะเลเข้าไปรักษาอุณหภูมิภายในอาคาร สุดท้ายคือ โครงการกรีนโปรเจ็กต์ต่าง ๆ เช่น รถเมล์ โซลาร์ไบก์ เป็นต้น

ฟาก ออสเตรีย นำเสนอแนวคิดพลังงานแห่งอนาคต คือ พลังงานคน ใช้สีแดงเป็นสีหลักในการนำเสนอตกแต่ง เพื่อเพิ่มความสนุกสนาน ซึ่งโซนต่าง ๆ จะมีกิจกรรมให้ทำ เช่น ปั่นจักรยาน ม้ากระดก เป็นต้น โดยทุกกิจกรรมต้องใช้พลังงานคนถึงจะเคลื่อนไหว

ขณะที่ สาธารณรัฐลิทัวเนีย นำเสนอภายใต้แนวคิด อินฟินิตี้ เอ็นเนอร์ยี่ บอกเล่าเรื่องของพลังงานลม แสงอาทิตย์

ถัดมากับพาวิเลียนของ สหราชอาณาจักรอังกฤษ โดยนิทรรศการห้องหลักบอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพพาโนราม่าด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกสูง 60 เมตร แสดงถึงว่า ทุกการกระทำของมนุษย์มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ

ส่วนประเทศที่ 7 สหรัฐอเมริกา แสดงถึงการสร้างแบรนดิ้งของประเทศที่ชัดเจน โดยมีตัวแทนจากภาคเอกชนเข้าร่วมจัดงานด้วย ต่อด้วย ฝรั่งเศส หนึ่งในพาวิเลียนที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด ไม่เน้นบันเทิง หลัก ๆ แบ่ง 7 บริษัทที่มาสนับสนุน โดยระหว่างทางเดินสอดแทรกวัฒนธรรมของฝรั่งเศสตลอดเส้นทางการเดิน เช่น ห้องเก็บเสียง เป็นห้องควบคุมอุณหภูมิ ควบคุมการแผ่รังสี ห้องรถไฮบริดประหยัดพลังงาน แสดงนวัตกรรมยานยนต์รถใช้พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น

ต่อด้วย สิงคโปร์ นำเสนอด้วยแนวคิด Small city Big idea สื่อสารถึงประเทศเล็ก ๆ ที่กำลังขยายตัวและมีประชากรหนาแน่น แต่พยายามใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ มีการติดแผงโซลาร์เซลล์ตามที่อยู่อาศัยต่าง ๆ และนำเสนอโปรเจ็กต์ใหญ่ด้านพลังงาน อย่างStaying Cool at Marina Bay

ปิดท้ายด้วยประเทศ เวียดนาม ซึ่งหลัก ๆ แล้วนำเสนอด้านการท่องเที่ยว ตามด้วยการสื่อสารถึงพลังงานลม และพลังงานชีวภาพ (biomass) หรือสารอินทรีย์ทั่ว ๆ ไปจากธรรมชาติ ที่จะสะสมพลังงานเก็บเอาไว้ในตัวของมันเองและสามารถนำพลังงานของมันที่เก็บสะสมเอาไว้มาใช้ประโยชน์ได้

แต่ละประเทศต่างโชว์ศักยภาพ ทุ่มสรรพกำลังเต็มที่ เพื่อสร้างแบรนด์นำเสนอมุมมองของประเทศตัวเองให้ต่างประเทศได้สัมผัส