“จีน” ตลาดใหญ่หนุนส่งออกเครื่องสำอาง

สภาอุตฯแนะผู้ประกอบการเครื่องสำอางไทย เสริมเขี้ยวเล็บ รับมือแบรนด์นอกบุก-ลุยขยายตลาดต่างประเทศ หลังกำลังซื้อในประเทศซบเซา ชี้จีนตลาดใหญ่ คนรุ่นใหม่กำลังซื้อสูง ต้องการสินค้าคุณภาพดี ราคาไม่เกี่ยง คาดตลาดรวม 2.8 แสนล้านปีนี้เติบโต 7-8%

นางเกศมณี เลิศกิจจา รองเลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย ระบุว่า ตลาดเครื่องสำอางที่ผลิตในประเทศไทยมูลค่า 2.8 แสนล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 1.68 แสนล้านบาท และส่งออก 1.12 แสนล้านบาท คาดว่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ 7-8% ในปีนี้ จากปกติที่เติบโตดับเบิลดิจิตขึ้นไป จากสภาพเศรษฐกิจ และกำลังซื้อที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะกลุ่มที่เจาะตลาดแมส เนื่องจากผู้บริโภคระดับล่างมีกำลังซื้อลดลง ส่วนกลุ่มที่เจาะตลาดกลางบน ยังคงจับจ่ายแต่จะมองเรื่องความคุ้มค่า และคุณภาพของสินค้ามากขึ้น

รวมถึงปัจจัยด้านการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ทั้งจากแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศที่เข้ามา โดยขณะนี้ข้อตกลงทางการค้าหลายฉบับ ทำให้มาตรการทางภาษีนำเข้าเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเตรียมตัวรับมือรอบด้าน โดยแนวทางที่สภาอุตฯและสมาคมต้องการผลักดันอย่างต่อเนื่อง คือการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ อาทิ เทรนด์ความงามที่เกิดขึ้น การออกไปหาโอกาสจากตลาดที่มีศักยภาพในต่างประเทศ ฯลฯ

จากการศึกษาพบว่า จีนเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง มีประชากรกว่า 1.3 พันล้านคน หรือแค่เพียงมณฑลหนึ่งก็มีขนาดของประชากรใหญ่กว่าไทย เช่น กว่างโจวมีประชากร 90 ล้านคน เป็นต้น โดยคนจีนรุ่นใหม่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และมองหาของดี ซึ่งหากสินค้ามีราคาแพงแต่มีคุณภาพก็ยอมที่จะใช้จ่าย สำหรับกลุ่มเครื่องสำอางที่คนจีนนิยม ได้แก่ กลุ่มสกินแคร์ใบหน้า กลุ่มไวเทนนิ่ง กลุ่มลดรอยด่างดำ ฯลฯ รวมถึงพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนก็เป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะคนในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว เมียนมา กัมพูชา นิยมสินค้าแบรนด์ไทย เนื่องจากมีการรับชมโฆษณาและละครโทรทัศน์อยู่เป็นประจำ

นอกจากนี้ สภาอุตฯยังส่งเสริมผู้ประกอบการไทยโดยการจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ภายใต้งานบียอน บิวตี้ แบงคอก-อาเซียน โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 21-23 กันยายน 2560 เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าแบรนด์ไทย และเป็นพื้นที่ให้ผู้ซื้อที่มีศักยภาพจากทั่วโลกเข้ามาเยี่ยมชม และจับคู่เจรจาธุรกิจ ตลอดจนให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจทั่วไป ผ่านงานสัมมนาเชิงวิชาการในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ เทรนด์ด้านแฟชั่นและความงาม, เทรนด์ธุรกิจค้าปลีกและอุตสาหกรรมความงาม ฯลฯ