คอลัมน์ MARKET MOVE
การเติบโตต่อเนื่องของเศรษฐกิจเวียดนาม ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปตามจำนวนรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นชนิดและระดับของสินค้า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ภาคธุรกิจต้องจับตามองเพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกัน
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ล่าสุด บริษัทวิจัยนีลเส็น ได้สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวเวียดนามช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 พบว่าความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการเงินของตนเองกำลังทำให้ไลฟ์สไตล์ของชาวเวียดนามเปลี่ยนแปลงไป โดยเริ่มจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น จากเดิมที่เน้นการออมเป็นหลัก รวมถึงสนใจซื้อสินค้าราคาแพงเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตทั้งในกลุ่มเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ความบันเทิง ของตกแต่งบ้าน รวมไปถึงประกัน
โดยจากผลวิจัยจำนวนชาวเวียดนามที่ตั้งใจเก็บออมรายได้ทั้งหมดลดลงจากเดิม 76% เหลือ 63% ซึ่งต่ำกว่าหลายประเทศ รวมถึงไทยที่มีคนกลุ่มนี้ในสัดส่วน 69% และ 66% ในสิงคโปร์กับอินโดนีเซีย ในขณะเดียวกันยังมองหาสินค้าและบริการที่ราคาสูงขึ้น นำโดยกลุ่มเสื้อผ้า สินค้าเทคโนโลยี ความบันเทิงนอกบ้าน รวมถึงประกันสุขภาพ ซึ่งถือเป็นของใหม่สำหรับชาวเวียดนาม
“เหงียน ฮวง หยิน” เอ็มดีของนีลเส็นเวียดนามอธิบายว่า ความเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินของตนเองจึงมั่นใจที่จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เห็นได้จากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยอยู่ที่ 117 จุด สูงกว่าไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 อยู่ 5 จุด
สำหรับแบรนด์สินค้าที่เล็งจับผู้บริโภคเวียดนามนั้น จะต้องคอยจับตาดูเทรนด์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์การตลาดตามได้ทันกับดีมานด์แบบเรียลไทม์ ตามลักษณะพิเศษของคนกลุ่มนี้ซึ่งรับอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียและการบอกต่อได้ง่าย ทั้งยังตัดสินใจเร็ว
ขณะเดียวกันควรเสนอสินค้า-บริการที่มีประเด็นสุขภาพเป็นจุดขาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการอัพเกรดไลฟ์สไตล์และคุณภาพชีวิต
“เป้าหมายหลักของผู้บริโภคตอนนี้คือ การอัพเกรดคุณภาพชีวิต ดังนั้นหลายคนจึงยอมทุ่มเงินก้อนใหญ่กับสินค้า-บริการที่ตอบโจทย์”