ขนมปัง 2 หมื่นล้านแข่งเดือด “ฟาร์มเฮ้าส์” ส่งสินค้าถี่ยิบ-รุกออนไลน์สู้
ไม่มีใครปฏิเสธว่า “ขนมปัง” กลายเป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท และเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง นอกจากการแข่งเรื่องของคุณภาพ ความสะอาด ความอร่อย รวมทั้งคุณค่าโภชนาการ เพื่อทำให้ลูกค้าเลือก “ขนมปัง” ของตัวเองเป็นอันดับแรกแล้ว วันนี้ขนมปังยังต้องแข่งในเรื่องของนวัตกรรมการผลิตเข้าไปด้วย เพื่อสร้างความแตกต่าง สร้างความหลากหลายให้สินค้ามีความน่าสนใจ
เพิ่มเมนูด้วยนวัตกรรม
นายพัน ใจบุญ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขาย บริษัท เพรสซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดหน่ายเบเกอรี่ ภายใต้แบรนด์ “ฟาร์มเฮ้าส์” เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดเบเกอรี่ค้าส่งว่า ตลาดรวมมูลค่าประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท แต่ขณะนี้การเติบโตของตลาดยังอยู่ในระดับทรงตัว หรือตัวเลขการเติบโตขึ้นเล็กน้อย ปัจจัยหลัก ๆ เกิดจาก
ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ลดลง ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น และมีการเปลี่ยนพฤติกรรมไปรับประทานอาหารกลุ่มอื่น ๆ ทดแทนกลุ่มเบเกอรี่
“จากพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ ต้องมีการปรับตัว ด้วยการออกสินค้าใหม่เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค ส่งผลให้ตลาดแข่งขันกันอย่างรุนแรง ทั้งการแข่งขันของรายเดิมที่อยู่ในตลาด และการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่”
สินค้าต้องสดใหม่ทุกวัน
นายพันยังระบุด้วยว่า ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป คือ พยายามปรับปรุงระบบงานภายใน ทั้งเรื่องการทำงานของพนักงาน คุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้น พัฒนาสูตรการทำขนมปังให้อร่อยมากขึ้น และจัดส่ง ให้เร็วขึ้นด้วย ตลอดจนหาวัตถุดิบใหม่ ๆ มาใช้ในการผลิตขนมปัง เพื่อจะทำโปรดักต์หรือสินค้าตัวใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนด้านการผลิตที่ผ่านมาก็ได้มีการใช้เทคโนโลยีระบบอัจฉริยะที่ทันสมัยเพื่อควบคุมการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ด้านบริหารการขยายและโลจิสติกส์ มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้บริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้การส่งสินค้าถึงผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและทันต่อความต้องการ
“เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้นำหุ่นยนต์เข้ามาใช้กับไลน์ผลิตเบเกอรี่ 2 ไลน์การผลิต จาก 30 ไลน์การผลิต เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดลอง หากประสบความสำเร็จ คาดว่าภายใน 5 ปีจากนี้ไป จะนำหุ่นยนต์เข้าไปใช้กับทุกไลน์ผลิตเบเกอรี่ รวมถึงมีแผนจะพัฒนาระบบการขนส่ง เพื่อให้สอดรับนโยบายของบริษัท คือ สินค้าต้องสดใหม่ทุกวัน”
รุก “ออนไลน์” ขายสินค้า
นายพันกล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้เน้นโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จากเดิมที่เน้นโฆษณาทางสื่อสิ่งพิมพ์ โดยได้เตรียมแคมเปญและกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ด้วยโปรโมชั่น ลดราคาสำหรับสินค้าอีกหลายรายการ ตั้งแต่ 1-3 บาท อาทิ ขนมปังชนิดแผ่นเนื้อนุ่มสไลซ์หนา ขนมปังสอดไส้ทุกรสชาติ ขนมปังโฮลวีต เป็นต้น
ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท เพรสซิเดนท์ เบเกอรี่ กล่าวเสริมว่า นอกจากการเพิ่มช่องทางจำหน่ายในลักษณะดังกล่าวแล้ว ที่ผ่านมาฟาร์มเฮ้าส์ให้ความสำคัญกับการนำตู้จำหน่ายขนมปังอัตโนมัติเข้ามาติดตั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาล โรงงาน ธนาคาร เป็นต้น นอกจากการให้ความสำคัญกับการรุกธุรกิจขนมปังและเบเกอรี่แบบค้าปลีกอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังขยายตัวสู่ธุรกิจอาหารที่เกี่ยวข้องอีกในอนาคต
พร้อมกันนี้ นายพันยังให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันฟาร์มเฮ้าส์ให้บริการกว่า 50,000 ร้านค้า เป็นโมเดิร์นเทรด 15,000 ร้าน และร้านค้าปลีกดั้งเดิม 35,000 ร้าน ส่วนหน่วยกระจายสินค้า ขณะนี้มีศูนย์กระจายสินค้า 39 แห่งทั่วประเทศ จะเห็นว่าฟาร์มเฮ้าส์มีช่องทางกระจายสินค้าอยู่ทั่วประเทศ และกระจายสินค้าเองทั้งหมด และมีรถขนส่งประมาณ 1,000 คัน
เดินเครื่องส่งออก ตปท.
นายพันระบุด้วยว่า นอกจากตลาดในประเทศแล้ว ขณะนี้ฟาร์มเฮ้าส์เริ่มส่งผลิตภัณฑ์เข้าไปเจาะตลาด สปป.ลาว และมีแผนจะส่งออกไปในเวียดนาม แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากขนมปังฟาร์มเฮ้าส์เป็นของสด มีอายุอยู่ได้ 5 วัน จึงมองถึงอนาคตหากไปได้ อยากจะตั้งโรงงานผลิตในเวียดนาม แต่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ฉะนั้นจะต้องศึกษาตลาดและความเป็นไปได้ในอนาคต จากที่ผ่านมา บริษัทได้มีการพัฒนาสินค้า เพื่อส่งจำหน่ายไปยังประเทศญี่ปุ่น สำหรับลูกค้าที่เป็น coffee shop chain และ pizza shop โดยบริษัทจำหน่ายผ่านตัวแทนในประเทศเพื่อส่งไปยังลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2562 มีรายได้รวมประมาณ 1,800 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 338 ล้านบาท เติบโต 2-3% จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่นิ่ง ส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคลดลงและชะลอการจับจ่าย อย่างไรก็ตาม สำหรับปีนี้จากแนวทางการดำเนินงาน บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้และกำไรปีนี้โตกว่า 3-4% เชื่อมั่นว่าในช่วงครึ่งปีหลัง ถ้าหากสภาพการเมืองชัดเจนขึ้น จะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะกลับมา โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 รวมถึงการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ จะส่งผลให้บริษัทเติบโตขึ้นต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธุรกิจฟาร์มเฮ้าส์ หลัก ๆ เน้นที่ธุรกิจเบเกอรี่ขายส่งที่เป็นรายได้หลัก โดยมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 90.61% ของรายได้รวม ตามด้วยธุรกิจเบเกอรี่ค้าปลีก ได้แก่ เบเกอรี่
ที่ขายในร้าน ร้านเดลิย่า ร้านเค้กมาดามมาร์โก้ และกู๊ดมอร์นิ่งฟาร์มเฮ้าส์ มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 2% ของรายได้รวม รวมถึงธุรกิจฟาสต์ฟู้ดและร้านอาหาร/ภัตตาคาร ด้วยการทำขนมปังชนิดต่าง ๆ แบบ OEM รับจ้างผลิตตามรายการสั่งซื้อให้แก่ร้านอาหารต่าง ๆ มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 6.68% ของรายได้รวม
