น้ำผลไม้จัดทัพรับภาษีใหม่1ต.ค. “ตัน”เบรกไบเล่-“ดีโด้”ปรับยกแผง

แฟ้มภาพ
น้ำผลไม้จ๊าก ! สรรพสามิตเตรียมปรับเกณฑ์รีดภาษีรอบใหม่ 1 ตุลาคมนี้ กลุ่มซูเปอร์อีโคโนมี กระทบหนัก เจอ 2 เด้ง “ดีโด้-เวิลด์ ฟูดส์” จ่อปรับสูตรสินค้าใหม่ยกกระบิ ยอมแบกต้นทุน ตรึงราคาสู้  “อิชิตัน” เบรกทำตลาด “ไบเล่” ไม่มีกำหนด

นอกจากภาษีความหวานที่จะปรับเกณฑ์การจัดเก็บเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ กลุ่มน้ำผลไม้ยังต้องเผชิญกับปัญหาใหม่ นั่นก็คือภาษีสรรพสามิตในขามูลค่า ที่เดิมแค่มีสัดส่วนน้ำผลไม้เพียงแค่ 10% ก็จะได้รับการยกเว้นให้ ไม่ต้องเสียภาษีในส่วนนี้ แต่ล่าสุดกรมสรรพสามิตได้ออกประกาศเงื่อนไขการเสียภาษีของกลุ่มน้ำผลไม้ใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยจะต้องเพิ่มสัดส่วนน้ำผลไม้เป็น 20% จึงจะได้รับการยกเว้น ส่งผลให้ตลาดน้ำผลไม้เซ็กเมนต์ซูเปอร์อีโคโนมี ที่มีสัดส่วนน้ำผลไม้ 10-20% ต้องรีบปรับตัวกันจ้าละหวั่น

“ดีโด้” เขย่าสูตรใหม่ยกแผง

นางสาวจันทรา พงศ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้พร้อมดื่ม ดีโด้, มิกกุ ฯลฯ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมตลาดน้ำผลไม้มูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หดตัวลงอย่างต่อเนื่องปีละ 8-9% จากสภาพเศรษฐกิจกำลังซื้อ และความกังวลของผู้บริโภคเรื่องปริมาณน้ำตาล โดยในปีนี้มีปัจจัยที่เพิ่มเข้ามา อย่างเกณฑ์การเสียภาษีสรรพสามิตใหม่ ซึ่งกระทบกับสินค้าที่อยู่ในเซ็กเมนต์ซูเปอร์อีโคโนมี หรือมีสัดส่วนน้ำผลไม้ 10-20% อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการก็พร้อมที่จะปรับตัวเพื่อรับมือตามกลยุทธ์ของแต่ละบริษัทในส่วนของบริษัทมีแบรนด์ที่อยู่ในเซ็กเมนต์ดังกล่าว คือ “ดีโด้” เป็นผู้นำ มีมาร์เก็ตแชร์ 37-40% จากตลาดมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท มีแผนจะปรับสูตรสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาษีใหม่ทั้งหมด ทุกเอสเคยู เพื่อให้เข้าเกณฑ์ที่จะได้รับการยกเว้นต่อไป โดยเพิ่มสัดส่วนน้ำผลไม้เป็น 20% จากเดิม 10% และลดปริมาณน้ำตาลให้น้อยกว่า 6 กรัม/100 มิลลิลิตร โดยการใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เพื่อยื่นขอรับสัญลักษณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ (healthier choice) ซึ่งเป็นการการันตีจากภาครัฐที่ช่วยผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่มีปริมาณความหวาน เค็ม มัน ในเกณฑ์ที่กำหนด

ทั้งนี้ ยังคงตรึงราคาขายไว้เท่าเดิม เนื่องจากตลาดน้ำผลไม้ โดยเฉพาะเซ็กเมนต์ซูเปอร์อีโคโนมี ที่มีราคาเฉลี่ย 5-10 บาท เป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรง และผู้บริโภคอ่อนไหวกับราคา โดยจะไปบริหารจัดการต้นทุนด้านอื่นให้มีประสิทธิภาพแทน เช่น ลดปริมาณของเสีย เพิ่มศักยภาพการผลิต เพิ่มอีโคโนมีออฟสเกล จากการขยายตลาดไปในต่างประเทศ เป็นต้น

“เวิลด์ ฟูดส์” ตรึงราคาขาย 

นางสาวกัญญา ติลกเรืองชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์ ฟูดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว เอ็ม-จอย และ เจ-มิกซ์ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับสูตรใหม่ของน้ำผลไม้ทั้ง 2 แบรนด์ ทุกรายการสินค้า เพื่อให้มีสัดส่วนน้ำผลไม้เป็น 20% จากเดิม 10% โดยคาดว่าเครื่องดื่มที่ปรับสูตรใหม่จะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงเดือนตุลาคม สอดคล้องกับเกณฑ์การเก็บภาษีใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ หลังจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับสูตรไปแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อลดปริมาณน้ำตาลลง 66% รับกับเทรนด์สุขภาพและภาษีความหวาน ทำให้แบรนด์เจ-มิกซ์ ได้รับสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกเพื่อสุขภาพด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีนโยบายการปรับราคาสินค้า แม้ว่าจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำผลไม้ที่เพิ่มขึ้นก็ตาม เพราะตลาดล่าง หรือซูเปอร์อีโคโนมี มีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะเรื่องราคา แต่จะหันไปลดต้นทุนส่วนอื่น ๆ แทน ซึ่งทางบริษัทมีโรงงานผลิตวัตถุดิบหลักเอง เช่น วุ้นมะพร้าว ขวด ฯลฯ จึงสามารถบริหารจัดการและควบคุมต้นทุนได้

“ตัน” เบรก “ไบเล่” ไม่มีกำหนด

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวอิชิตัน และน้ำผลไม้ไบเล่ ระบุว่า ในเดือนตุลาคมนี้จะมีการเปลี่ยนเงื่อนไขการยกเว้นภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำผลไม้อีกครั้ง ซึ่งจะกระทบกับเครื่องดื่มผลไม้ที่อยู่ในเซ็กเมนต์ซูเปอร์อีโคโนมี ที่ต้องเพิ่มสัดส่วนน้ำผลไม้เป็น 20% ทำให้บริษัทตัดสินใจที่จะเบรกการทำตลาดของแบรนด์ “ไบเล่” ไว้ชั่วคราว เนื่องจากมองว่าทิศทางของตลาดน้ำผลไม้ในช่วงหลังจากนี้ยังไม่สดใสเท่าที่ควร และศักยภาพในการทำกำไรของสินค้าดังกล่าวมีไม่มาก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อิชิตันซื้อแบรนด์ไบเล่ พร้อมสูตรการผลิตใน 16 ประเทศ ในปี 2557 ด้วยมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 1,780 ล้านบาท และเริ่มทำตลาดอย่างจริงจังในปี 2558 เป็นต้นมา โดยเริ่มจากสินค้าหลัก คือ ไบเล่ น้ำผลไม้ 10% ตามด้วย ไบเล่ ฟรุต ครีเอชั่น น้ำผลไม้ 100% และไบเล่ ฟรุตทูโก น้ำผลไม้เยลลี่ พร้อมน้ำผลไม้เข้มข้น 20% ในเวลาต่อมา

จากการสำรวจล่าสุดพบว่า ไบเล่ยังคงวางขายในท้องตลาด ตามช่องทางโมเดิร์นเทรด และเทรดดิชั่นนอลเทรดอยู่ แต่ในด้านของการสื่อสาร การทำกิจกรรมกับผู้บริโภค โดยเฉพาะช่องทางโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊กแฟนเพจ Bireley”s Thailand นั้น ไม่มีความเคลื่อนไหวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ปีที่ผ่านมา

คลิกอ่าน…ภาษีความหวานรอบใหม่ ทุบ “น้ำผลไม้” อีกระลอก

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!