โดนัท 3.5 พันล้าน ระอุ “ทิม ฮอร์ตันส์” ท้าชนเจ้าตลาด

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

วันนี้แม้ว่า “โดนัท” ที่มีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 3,500 ล้านบาท จะเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ทั้งการแข่งขันจากแบรนด์หลักในตลาด ทั้งมิสเตอร์โดนัท, ดังกิ้น, คริสปี้ ครีม และแบรนด์เบเกอรี่อื่น ๆ ทำให้แต่ละค่ายต้องมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาเมนูใหม่ ๆ มาจูงใจ การนำสินค้าไลน์ใหม่ ๆ เข้ามาเสริม ไม่ว่าจะเป็น กาแฟสด น้ำผลไม้ เบเกอรี่ ควบคู่กับการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย และมีการลงทุนเปิดสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แต่จากการเติบโตในแต่ละปีที่มีอัตราเฉลี่ยประมาณ 7-10% ทำให้มีรายใหม่ ๆ สนใจที่จะกระโดดเข้ามาในตลาดเป็นระยะ ๆ

แบรนด์ดังแคนาดาบุก

ล่าสุดเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า “ทิม ฮอร์ตันส์” (Tim Hortons) เชนร้านโดนัท-กาแฟรายใหญ่จากแคนาดา มีสาขาทั่วโลกกว่า 4,800 สาขา ในแคนาดา สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก สหราชอาณาจักร สเปน ฟิลิปปินส์ และจีน ได้ประกาศเปิดตัวพันธมิตรรายใหม่ “วี อีท” (We Eat) บริษัทในเครือของตระกูล “วัธนเวคิน” เจ้าของธุรกิจน้ำตาลรายใหญ่ ผู้ก่อตั้งธนาคารเกียรตินาคิน ในฐานะเอ็กซ์คลูซีฟแฟรนไชส์ที่ได้สิทธิ์นำร้านแบรนด์ดังนี้มาทำตลาดในประเทศไทย และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้

รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า “สุพัชร วัธนเวคิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารวี อีท ได้บรรลุข้อตกลงกับทิม ฮอร์ตันส์ แบรนด์ร้านคิวเอสอาร์โดนัท-กาแฟที่มีสาขามากที่สุดในแคนาดา ในการนำแบรนด์เข้ามาขยายตลาดในประเทศไทย

สอดคล้องไปกับแผนการเติบโตของทิม ฮอร์ตันส์ ที่ต้องการขยายธุรกิจในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทยที่แบรนด์เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาด และกำลังซื้อสำหรับอาหารและเครื่องดื่มประเภทนี้ว่าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากโดนัทและกาแฟที่เป็นจุดเด่นของทิม ฮอร์ตันส์ แต่ภายในร้านยังมีเมนูอาหารสไตล์ตะวันตกอีกหลายเมนู อาทิ เมนูอาหารเช้า แซนด์วิช สลัด ซุป ฯลฯ เป็นต้น

มิสเตอร์โดนัทย้ำเจ้าตลาด

ขณะที่ “ณัฐ วงศ์พานิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี ในฐานะเจ้าตลาดโดนัท เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมา ตลาดโดนัทมีตัวเลขการเติบโตไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเนื่องจากตลาดมีการแข่งขันสูง ทั้งในแง่ของการจัดโปรโมชั่นราคา หรือเพิ่มเมนูใหม่ ๆ 5-6%

สำหรับบริษัทได้เตรียมงบฯลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นแบรนด์มิสเตอร์โดนัทมากขึ้น ด้วยการพัฒนาเมนูใหม่ เช่น โดนัทรูปผลไม้ ตกแต่งน่ารัก สีสันสดใส ให้สอดรับกับเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค โดยจะเพิ่มความถี่ในการเปิดตัวสินค้าใหม่มากขึ้นเป็น 45-60 วันต่อ 1 เมนู จากเดิมที่ใช้เวลามากกว่า 2 เดือนในการเปิดตัวสินค้าใหม่ รวมทั้งจะมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่น อาทิ โปรโมชั่น 10 บาท และแคมเปญนัทแอนด์มอร์

“ปีนี้มิสเตอร์โดนัทจะขยายสาขาเพิ่มอีก 20 แห่ง ทั้งในเขตกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคและครอบคลุมทุกพื้นที่ จากปัจจุบันมิสเตอร์โดนัทมีมากกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ”

“ดังกิ้น” รีแบรนด์ใหญ่

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ “ดังกิ้น โดนัท” ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยได้รีแบรนดิ้งแบรนด์พร้อมขยายไลน์สินค้าใหม่ “นบเกล้า ตระกูลปาน” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเด้น โดนัท (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับนโยบายการดำเนินธุรกิจในไทยให้สอดคล้องกับแผนของดังกิ้น

ที่สหรัฐอเมริกา โดยได้รีแบรนดิ้งชื่อตราสินค้าจาก “ดังกิ้น โดนัท” เป็น “ดังกิ้น” ภายใต้กลยุทธ์ “Coffee & Donuts” นอกจากการให้ความสำคัญกับโดนัทที่เป็นรายได้หลักแล้ว ยังจะขยายไลน์สินค้ากลุ่มอื่น ๆ เช่น กาแฟ แซนด์วิช และเบเกอรี่ พร้อมปรับเมนูเพื่อรองรับช่วงเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

“ปีที่ผ่านมาดังกิ้นได้เปิดร้านไดรฟ์ทรูที่คอมมิวนิตี้มอลล์พอร์โต โก บางปะอิน จุดพักรถสายเอเชียขาออก เน้นจำหน่ายกาแฟสดและแซนด์วิชอบร้อน เพื่อสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครับรู้ว่า ดังกิ้นไม่ได้มีเฉพาะโดนัทเท่านั้น แต่ยังมีเมนูกาแฟคุณภาพในราคามาตรฐาน เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างหลากหลาย รวมทั้งมีแผนจะขยายสาขาเพิ่ม 12 สาขา ทั้งในศูนย์การค้า ร้านคีออสก์ และบริการไดรฟ์ทรู จากปัจจุบันที่มีสาขาอยู่กว่า 150 สาขาทั่วประเทศ”

“คริสปี้ ครีม” เน้นเมนูแปลกใหม่

ส่วน “คริสปี้ ครีม” ร้านแฟรนไชส์จากสหรัฐ ภายใต้การดูแลของบริษัท เคดีเอ็น จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์โดนัทคริสปี้ ครีม ในประเทศไทย ที่บุกตลาดเมืองไทยเมื่อช่วงปี 2558 ผู้สื่อข่าว

รายงานว่า ปัจจุบันแม้คริสปี้ ครีม จะมีสาขาเพียง 33-34 แห่ง ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่กลยุทธ์หลักของคริสปี้ ครีม จะเน้นไปที่การพัฒนาเมนูใหม่ ๆ ออกมารองรับในช่วงเทศกาลต่าง ๆ หรือตามเทรนด์ที่กำลังมาแรงในช่วงนั้น ๆ เช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้

ก็ได้ส่งเมนูใหม่ 3 รสชาติ ได้แก่ โดนัทไข่เค็มลาวา โดนัทฝอยทอง และโดนัทริงเคลือบน้ำตาลโตนด ออกมาทำตลาด พร้อมโปรโมชั่น ได้แก่ ซื้อคริสปี้ ครีม รสออริจินอล 12 ชิ้น ในราคา 249 บาท จากปกติ 259 บาท ขณะเดียวกันก็จะเน้นการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างการรับรู้ไปถึงผู้บริโภคในวงกว้าง

ด้านความเคลื่อนไหวของ “แด๊ดดี้ โด” หลังจากที่บริษัท แด๊ดดี้ โด (ประเทศไทย) จำกัด ได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เมื่อกลางปี 2557 เพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจและการตลาด “แด๊ดดี้ โด” ในประเทศไทย โดยที่ผ่านมา แด๊ดดี้ โด ได้ทยอยเปิดให้บริการในสถานีบริการของ ปตท.แล้วจำนวนหนึ่ง นอกจากการนำนวัตกรรมมาใส่กับโดนัทเพื่อความแตกต่าง และชูจุดขายเรื่องสุขภาพ ด้วยการใช้แป้งโดนัทแบบ zero gram trans fat หรือแป้งที่ไร้ไขมันทรานส์ และมีช็อกโกแลตแท้เป็นส่วนผสม เพื่อเป็นอีกทางเลือกแก่ผู้บริโภค แล้วยังมีการจัดโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 ทุกวันที่ 15 และ 30 ของเดือน

นอกจากนี้ที่ผ่านมา แด๊ดดี้ โด ยังมีการทดลองเปิดโมเดลร้าน Daddy Dough Cafe” ที่มีทั้งอาหารคาวหวาน นำร่องในสาขาปั๊มน้ำมัน ปตท.วิภาวดี โดยจะมีเมนูทั้งโดนัท, ไก่ทอด, เบอร์เกอร์, พิซซ่า และสลัด เป็นต้น

ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ และการแข่งขันที่เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่อาจจะไม่เป็นใจนัก คงจะทำให้ตลาดโดนัทจากนี้ไปมีความคึกคักมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว