ซีคอนฯทุ่มงบเติมแม็กเนต ปั้น “เดสติเนชั่น” รอรถไฟฟ้า

“ซีคอนสแควร์” เทงบฯก้อนโตปรับโฉมศรีนครินทร์-บางแค รอรถไฟฟ้าคนทราฟฟิกจ่อหน้าศูนย์การค้า ปั้นสูตร “ยูนิค เดสติเนชั่น” ดึงร้านค้าแม็กเนตพร้อมรับกลุ่มลูกค้าขยายตัว ลั่นไม่รีบลงทุนโครงการยักษ์ “ซีคอน ซิตี้” หวังรอดีมานด์ รอความพร้อมตลาด

นายตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซีคอน บางแค จำกัด กล่าวว่า แม้ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์จะมีเพียง 2 แห่ง คือ ศรีนครินทร์ และบางแค แต่การเติบโตทางธุรกิจยังคงต่อเนื่อง คาดว่าทั้งปีประมาณ 5%

โดยเฉพาะหลังจากนี้การเติบโตของธุรกิจศูนย์การค้าทั้ง 2 แห่ง จะได้อานิสงส์จากโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยดึงลูกค้าเข้าใช้บริการมีมากขึ้น และหลากหลายกลุ่ม โดยทำเลย่านศรีนครินทร์เป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) มีกำหนดเปิดให้บริการปี 2563

ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ที่จะเปิดให้บริการปี 2562

เพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว บริษัทได้เตรียมงบฯ 700 ล้านบาท สำหรับรีโนเวตและเพิ่มแม็กเนตใหม่ ๆ เข้ามาเติมในศูนย์การค้าทั้ง 2 แห่ง ภายใต้กลยุทธ์ “ยูนิค เดสติเนชั่น” (Unique Destination) ซึ่งจะเป็นแนวทางหลักสำหรับการทำตลาดของซีคอนสแควร์ต่อจากนี้

โดยเป็นการปรับเพื่อรับตลาดที่จะขยายตัว หลังเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย

“ยูนิค เดสติเนชั่น จะเป็นคอนเซ็ปต์หลักที่เราจะเดินไปต่อจากนี้ หลาย ๆ กลุ่ม หลาย ๆ สินค้าที่จะเข้ามาเติมเพื่อสร้างความเป็นยูนิคให้กับซีคอนสแควร์ การมีรถไฟฟ้า ความสะดวกสบายของการเดินทางก็ง่ายขึ้น แต่ถ้าตัวตึกเราไม่มีอะไรเลยที่จะดึงดูดให้ลูกค้ามา ก็อาจยิ่งทำให้เขาผ่านเราไปหาคนอื่น ศูนย์อื่นได้ง่ายขึ้นเช่นกัน”

ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวแบ่งเป็นเม็ดเงินลงทุนศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ 400 ล้านบาท ในการปรับโซนพื้นที่ของการจัดกิจกรรมให้มากขึ้น และศูนย์การค้าซีคอน บางแค 300 ล้านบาท

สำหรับปรับปรุงพื้นที่บนชั้น 4 ในรูปแบบ “ฟู้ดส์ ออน โฟร์” ด้วยการเพิ่มจำนวนร้านอาหารที่มีความหลากหลายเข้ามาเป็นทางเลือกให้ลูกค้า ควบคู่กับการจัดอีเวนต์ที่จะมากขึ้นกว่าปีละ 50 งาน

ผู้บริหารซีคอนสแควร์ขยายความว่า หลังรถไฟฟ้าเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้ง 2 สาขานั้นประเมินว่า ทำเลบางแคจะมีกลุ่มลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการขยายตัวของที่พักอาศัยในย่านบางแค

ซึ่งประเมินตัวเลขว่าจะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ และคอนโดมิเนียมมากถึง 15 โครงการ หรือกว่า 1.3 หมื่นห้อง

ขณะที่ย่านศรีนครินทร์ มองว่ายังคงเป็นลูกค้ากลุ่มเดิม แต่อาจเพิ่มความถี่ในการเข้ามาใช้บริการบ่อยครั้งขึ้น เนื่องจากการเดินทางที่สะดวกและคล่องตัวมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการ “ซีคอน ซิตี้ ” โปรเจ็กต์มิกซ์ยูสขนาดใหญ่ที่เคยวางแผนการลงทุนไว้แล้วก่อนหน้านี้นั้น ผู้บริหารซีคอนสแควร์ ขยายความว่า คงต้องรอให้รถไฟฟ้าเปิดให้บริการก่อน เพื่อดูความพร้อมของตลาดและความต้องการของตลาดที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะทำให้มีผลต่อการตัดสินใจอีกครั้งสำหรับรูปแบบและแผนการการลงทุนที่ต้องปรับให้เหมาะสมกับตลาดและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป

ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากธุรกิจศูนย์การค้าแบ่งเป็นซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ 1,560 ล้านบาท และศูนย์การค้าซีคอน บางแคประมาณ 600 ล้านบาท