ลิขสิทธิ์กีฬา…แพงแต่โดน สูตรสำเร็จตรึงคนดู-ดึงเรตติ้ง

แนวรบทีวีดิจิทัลเริ่มคึกคักขึ้นมาอีกคำรบหนึ่ง ล่าสุด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประกาศคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 3 ฤดูกาล (2019/2020-2021/2022) อีกครั้ง และหวังจะใช้การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกเป็นหัวหอกหลักในการสร้างแพลตฟอร์ม โอทีที (over-the-top : OTT) ของ “ทรูไอดี” ให้ติดตลาด พร้อมกู้วิกฤตเรียกรายได้ให้ธุรกิจโทรทัศน์บอกรับสมาชิก (Pay TV) “ทรูวิชั่นส์” ให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง

แม้จะไม่มีการเฉลยว่า ลิขสิทธิ์ดังกล่าวต้องใช้เงินมากน้อยแค่ไหน แต่คนในวงการคอนเฟิร์มว่าเป็นจำนวนที่มากโขทีเดียว

อีกด้านหนึ่ง “แพลนบี มีเดีย” ผู้บริหารสื่อนอกบ้านที่เพิ่งเซ็นสัญญากับเดนท์สุ อิงก์ ญี่ปุ่น เพื่อเป็นตัวแทนบริหารสิทธิการแข่งขันกีฬา 4 รายการใหญ่ ได้แก่ โอลิมปิก โตเกียว 2020 โอลิมปิก ฤดูหนาว 2022 โอลิมปิก เยาวชน 2022 และโอลิมปิก เยาวชน ฤดูหนาว โลซาน 2020 ซึ่งแพลนบีฯจะดูแลสิทธิการถ่ายทอดสด ส่วน “เดนท์สุ เอ็กซ์” จะดูแลสิทธิทางการตลาดในประเทศไทย และมีแผนจะเปิดตัวสปอนเซอร์และช่องทีวีที่จะร่วมถ่ายทอดสดปลายเดือนสิงหาคมนี้

ฟุตบอล…ฟีเวอร์สุด ๆ

“พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา” หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ย้ำว่า คอนเทนต์กีฬาโดยเฉพาะฟุตบอลถือเป็นคอนเทนต์อันดับต้น ๆ ที่คนไทยสนใจ ดังนั้น การสร้างให้ธุรกิจเพย์ทีวี ฟรีทีวี และโอทีทีให้เติบโตก็ต้องมีคอนเทนต์แม่เหล็ก บริษัทจึงเลือกใช้การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษเป็นคอนเทนต์เรือธงในการสร้างแพลตฟอร์มโอทีที “ทรูไอดี” และเพิ่มฐานสมาชิกทรูวิชั่นส์เพื่อจะทำให้ปีนี้ทรูวิชั่นส์กลับมาเติบโตในรอบหลายปีอีกครั้ง

การถ่ายทอดสดกีฬาถือเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมและสามารถตรึงความสนใจของผู้ชมทั่วโลกได้ บริษัทจึงจะใช้พรีเมียร์ลีกเป็นตัวเร่งสร้างฐานสมาชิกและสร้างธุรกิจให้เติบโต นอกจากนี้ ยังมีแผนจะใช้คอนเทนต์นี้ต่อยอดกับธุรกิจในเครือ ซี.พี.ด้วย ทั้งซีพีเอฟ ซีพี ออลล์ แม็คโคร และทรูมูฟด้วย

สอดรับกับ “อรรถพล ณ บางช้าง” กรรมการผู้จัดการสายรายการสาระบันเทิง บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ให้มุมมองว่า จากพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนไป ประกอบกับเทคโนโลยีที่ขยายตัวขึ้น ทำให้ผู้ชมมีทางเลือกมากขึ้น และเลือกชมคอนเทนต์ฟรีได้มากขึ้น ถ้าคอนเทนต์ไม่แตกต่างคนก็ไม่ดู ที่สำคัญฟุตบอลถือเป็นคอนเทนต์หลัก ๆ ที่คนสนใจและติดตามชมการถ่ายทอดสดเพื่อให้ได้อรรถรส นอกจากนี้ ยังเป็นคอนเทนต์ที่สามารถดึงให้คนอยากกลับมาดูบนจอใหญ่ด้วยทั้งฟรีทีวีและเพย์ทีวี

นอกจากพรีเมียร์ลีกทรูฯยังถือลิขสิทธิ์ฟุตบอลอีกหลายรายการ เช่น เจลีก ไทยลีก เป็นต้น

ทีวีแข่งเสิร์ฟแมตช์ดังตรึงคนดู

“สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารช่องพีพีทีวี เอชดี กล่าวว่า ที่ผ่านมาพีพีทีวีพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคอนเทนต์กีฬาสร้างฐานคนดูได้ เพียงแต่ภาพลักษณ์ของช่องอาจจะเป็นช่องเฉพาะกลุ่มเกินไป บริษัทจึงพยายามเติมคอนเทนต์ใหม่มากขึ้นเพื่อขยายฐานผู้ชม ขณะเดียวกันก็เดินหน้าตอกย้ำคอนเทนต์กีฬาด้วยการซื้อสิทธิถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษทั้ง 3 ฤดูกาลจากทรูฯ และยังเพิ่มการถ่ายทอดสดจาก 26 แมตช์ เป็น 30 แมตช์

แม่ทัพใหญ่พีพีทีวีย้ำว่า ด้วยช่วงเวลาถ่ายทอดสดที่ดี คือ ช่วงเวลาไพรมไทม์ 18.30-20.30 น. เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มฐานคนดูของช่องได้กว้างขึ้น ขณะเดียวกัน ก็รักษาฐานคนดูกลุ่มเดิมที่เป็นผู้ชายไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และอีกด้านหนึ่งสินค้าก็น่าจะให้ความสนใจ ตอนนี้มีเมนสปอนเซอร์แล้ว 8 ราย และคาดว่าจะมีรายใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาอีก

การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกทั้ง 3 ฤดูกาลนี้จะสร้างรายได้สูงกว่าที่ผ่านมาจากก่อนหน้านี้ที่พีพีทีวีได้ทยอยเติมคอนเทนต์กีฬาต่าง ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน รวม 68 แมตช์ ฟุตบอลโลกหญิง ครั้งที่ 8 ฟุตบอล ICC 2019 ตามด้วยการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบ 2 รายการ คือ “โมโต ทู” และ “โมโต จีพี” และมวย “ท็อปแรงก์” (Top Rank Boxing)

“ชลากรณ์ ปัญญาโฉม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า การถ่ายทอดสดกีฬาถือเป็นคอนเทนต์ที่คนสนใจ โดยเฉพาะกีฬาที่คนไทยมีลุ้น เช่น มวย ฟุตบอล วอลเลย์บอล เป็นต้น แต่อีกด้านหนึ่งต้นทุนค่าลิขสิทธิ์กีฬาก็ค่อนข้างสูง แต่เนื่องจากกีฬาเป็นคอนเทนต์ที่ดึงคนดูได้ ทีวีหลายช่องจึงให้ความสำคัญและพยายามหาคอนเทนต์มาลงจอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากฟุตบอลที่คนไทยนิยมดังกล่าว ที่ผ่านมาหลาย ๆ ช่องก็ได้ทุ่มงบฯเพื่อซื้อลิขสิทธิ์กีฬาประเภทอื่น ๆ ที่เป็นที่นิยมของคนไทยมาถ่ายทอดสดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ อาทิ ช่อง 33 เอชดี ทีวี วอลเลย์บอล Pro Volleyball All-Star Super Match 2019, NATIONS LEAGUE MEN 2019

ขณะที่ช่อง 35 เอชดี (ช่อง 7) ก็ถือสิทธิฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย (AFC Champions League 2019) ฟุตบอลเยอรมัน (DFB-Pokal) นี่ยังไม่นับรวมถึงการจัดการแข่งขันฟุตบอลแชมป์กีฬา 7HD แชมเปี้ยนคัพ 2019 และมีการถ่ายทอดสด เป็นต้น

ส่วนไทยรัฐทีวีก็มีถ่ายทอดสดกีฬาหลากหลาย เช่น ยอดมวยวันทรงชัย one championship, Futsal Thai League 2019 เป็นต้น เช่นเดียวกับ “ทรูโฟร์ยู” ก็ยึดผังถ่ายทอดสดกีฬาไทย เช่น ไทยลีก มวยมันส์ แปดพระกาฬ ซึ่งแต่ละรายการก็สามารถตรึงผู้ชมและเรียกโฆษณาได้เป็นที่น่าพอใจ

นี่ยังไม่นับรวมถึงการถ่ายทอดสดการแข่งขันชกมวยไทย ที่แทบทุกช่องต่างขนเวทีมาเอาใจแฟนหมัดมวยแทบทุกวัน ไม่ว่าจะกดรีโมตไปช่องไหนก็จะมีมวยให้ดูให้ชม แต่ละเวทีต่างก็มีแฟนประจำติดตามทุกครั้งที่มีการถ่ายทอด

อย่างไรก็ตาม แม้เบื้องหลังการได้คอนเทนต์กีฬามาครอบครองจะต้องแลกด้วยต้นทุนสูงลิบ แต่หลาย ๆ ช่องก็ยอมแลกเพราะมันคุ้มค่ามากที่จะสร้างฐานคนดูและเรตติ้ง