การเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เป็นหนึ่งในเทรนด์มาแรงของวงการฟิตเนสไทย โดยช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีค่ายฟิตเนสที่เปิดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง และเปิดสาขาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ
ไม่ว่าจะเป็น “เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง” “ฟิตเนส 24 เซเว่น” “เอนี่ไทม์ ฟิตเนส” “ฟิตเวย์ยิม” “ฟิตเนส เซเว่น” รวมถึงเจ้าตลาด “ฟิตเนส เฟิรส์ท” ที่เปิดโมเดล 24 ชั่วโมง ที่แพลตตินั่ม คิวเฮาส์ ลุมพินี ทุกค่ายต่างต้องการตอบโจทย์ในแง่ของความสะดวกและรองรับกลุ่มคนที่ทำงานอิสระ และมีการใช้ชีวิตต่างจากคนที่ทำงานในเวลาปกติ และถึงวันนี้ เมื่อนับรวมกันแล้วมี “ฟิตเนส 24 ชั่วโมง” เปิดให้บริการอยู่มากกว่า 40 แห่ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ล่าสุด “ฟิตเนส เฟิรส์ท” เตรียมเปิดสาขา 24 ชั่วโมง แห่งที่ 2 ด้วยแบรนด์ใหม่ “เซเรบริตี้ ฟิตเนส” (Celebrity Fitness) ที่โครงการสามย่านมิตรทาวน์ ในเดือนพฤศจิกายนนี้
รับไลฟ์สไตล์คนเมือง
“อรวรรณ เกลียวปฏินนท์” ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท อีโวลูชั่น เวลล์เนสส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการ “ฟิตเนส เฟิรส์ท” กล่าวว่า การเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงเป็นเทรนด์สำคัญที่ช่วยขยายฐานสมาชิกให้กว้างขึ้น เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคจำนวนหนึ่งมีไลฟ์สไตล์การทำงานเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบฟรีแลนซ์ หรือการทำงานกับลูกค้า-เพื่อนร่วมงานต่างชาติผ่านทางออนไลน์ที่ทำให้ช่วงเวลาทำงานไม่ตรงกับเวลาราชการ
สำหรับการเปิดสาขาโมเดล 24 ชั่วโมง ที่สามย่านมิตรทาวน์ ทำให้บริษัทมีโอกาสรับสมาชิกทั้งกลุ่มนักศึกษาและฟรีแลนซ์ สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์เซเรบริตี้ฯ ที่เน้นจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยคลาสเต้นรูปแบบต่าง ๆ พร้อมราคาเข้าถึงง่ายเริ่มต้น 1,750 บาท/เดือน สำหรับแบบสาขาเดียว และ 1,950 บาท/เดือนแบบใช้ได้ทุกสาขา เมื่อสมัครเป็นสมาชิก 24-32 เดือน
“หลังจากนี้หากมีทำเลและฐานผู้บริโภคที่เหมาะสมก็จะเปิดบริการแบบ 24 ชั่วโมงเพิ่มอีก”
จุดขายเน้นความสะดวก
นอกจากการรุกคืบเปิดสาขา 24 ชั่วโมงของเจ้าตลาดฟิตเนสในเมืองไทยดังกล่าว ล่าสุด ฟิตเนสค่ายอื่น ๆ ต่างเดินหน้าขยายสาขาและทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น “เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง” จากออสเตรเลีย ที่ปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงมากที่สุด และขยายสาขาเร็วที่สุดในตลาดขณะนี้ ซึ่งฟิตเนสจากออสเตรเลียรายนี้ มีแผนเปิดสาขา 24 ชั่วโมงเพิ่มอีก 4 สาขาภายในสิ้นปี จากเดิมที่เปิดไปแล้ว 20 สาขา
นายไมค์ แลมบ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวในเรื่องนี้ว่า เซ็กเมนต์ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ในเมืองไทยถือเป็นตลาดที่เพิ่งเกิดและยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพจะเติบโตได้ โดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ และในอนาคตก็จะกระจายออกไปตามหัวเมืองหลัก ๆ ที่ผู้คนมีไลฟ์สไตล์คล้าย ๆ กรุงเทพฯ เช่น ทำอาชีพที่ทำงานเป็นกะหรือไม่แน่นอน เช่น หมอ พยาบาล ตำรวจ และฟรีแลนซ์ ขณะเดียวกันผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังต้องการบริการและอุปกรณ์เช่นเดียวกับฟิตเนสปกติ ในราคาที่เข้าถึงได้
สำหรับสาขาของเจ็ทส์ ฟิตเนส ที่เปิดเพิ่มจะเน้นจุดขายในเรื่องของความสะดวกสบาย เช่น ทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าและย่านชุมชน ทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมือง อาทิ ทาวน์อินทาวน์, ช่องนนทรี, วัดมังกร, เทอร์มินอล 21 สาขานครราชสีมา ที่สำคัญสมาชิกสามารถใช้บริการได้ทุกสาขา รวมถึงนโยบายไม่เน้นสัญญาระยะยาวเพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจทดลองใช้บริการได้ง่ายขึ้น โดยคิดอัตราค่าบริการรายวัน 500 บาท รายเดือน 1,600 บาท และรายปี 16,800 บาท ค่าแรกเข้า 1,500 บาท และค่าบัตรสมาชิก 1,500 บาท พร้อมโปรโมชั่นยกเว้นค่าแรกเข้าและค่าบัตรช่วงเปิดสาขาใหม่แต่ละแห่ง ส่วนบริการเทรนเนอร์ส่วนตัว คิดราคาเริ่มต้น 1,100 บาท/50 นาที
ใหญ่-เล็กอัดโปรฯดึงลูกค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้หลาย ๆ ค่ายก็มีความเคลื่อนไหวในการจะเปิดสาขาเพิ่ม และแต่ละรายต่างพยายามนำเสนอจุดขายเสริมที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นทำเล แพ็กเกจราคา โปรโมชั่น รวมถึงบริการพิเศษอื่น ๆ อย่างจอดรถฟรี หรืออนุญาตให้เทรนเนอร์อิสระเข้ามาให้บริการได้ เป็นต้น
เริ่มจาก “เอนี่ ไทม์ ฟิตเนส” ที่อาศัยโมเดลแฟรนไชส์ในการขยายสาขา ก็มีแผนเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาภายในสิ้นปีนี้ เน้นเจาะย่านชุมชนและย่านธุรกิจ จากปัจจุบันมี 7 สาขา อาทิ ลุมพินี, เค วิลเลจ, จุฬาฯ, นางลิ้นจี่, เมืองทองธานี, อัมรินทร์พลาซ่า และพระราม 3 มีจุดขายเป็นโปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตรในและนอกประเทศ เช่น ส่วนลดโรงแรมคาราเวล (Caravel) ในมาเก๊า รวมถึงโปรโมชั่นช่วงเปิดสาขาใหม่ให้ส่วนลดค่าสมาชิกจากราคาปกติ 1,750 บาท/เดือน ฟรีค่าแรกเข้า และเทรนเนอร์ฟรี 1 ครั้ง
เช่นเดียวกับ “ฟิตเนส 7” ฟิตเนสแบรนด์ไทย ที่เป็นผู้ประกอบการรายแรก ๆ ที่เปิดให้บริการฟิตเนส 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน ปัจจุบันมี 7 สาขา เช่น รัชดาฯ, ทาวน์อินทาวน์, สุขุมวิท 26, ลาดปลาเค้า และพัทยา อัตราค่าสมาชิก 350 บาท/วัน 1,600 บาท/เดือน และ 4,500 บาท/3 เดือน ชูไฮไลต์ แม้จะมีเทรนเนอร์ส่วนรวมและส่วนตัวให้บริการ แต่เปิดให้เทรนเนอร์ฟรีแลนซ์สามารถเข้ามาให้บริการได้ โดยเสียค่าสมาชิกตามปกติและไม่เก็บค่านายหน้า รวมถึงมีเวทีมวย 6X6 เมตร และอุปกรณ์มวยทุกสาขา
สำหรับฟิตเนส 24 เซเว่น จากประเทศสวีเดน แม้จะเพิ่งเข้ามาเปิดสาขาแรกในไทยที่คอมมิวนิตี้มอลล์ “ซัมเมอร์ฮิล” ใกล้บีทีเอสพระโขนงเมื่อปี 2561 ปัจจุบันขยายเพิ่มอีก 3 สาขา เกาะแนวรถไฟฟ้า คือ พระราม 9, พีเพิลปาร์ค อ่อนนุช และอาคารสาธรธานี เน้นค่าสมาชิกที่จับต้องได้ที่ 1,299 บาท/เดือน หรือ 999 บาท/เดือน เมื่อสมัคร 12 เดือน (รวม 11,988 บาท/ปี) และมีค่าแรกเข้า 999 บาท เทรนเนอร์ส่วนตัวเริ่มต้น 900 บาท/ชั่วโมง สามารถผ่อน 0% กับบัตรเครดิตเมื่อสมัคร 25 และ 50 ครั้ง พร้อมที่จอดรถฟรี 2-4 ชั่วโมง (ขึ้นกับสาขา) รวมถึงโซนสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ
การจองคลาสออกกำลังผ่านแอปมือถือ เป็นต้น ขณะเดียวกันมีการจัดโปรฯช่วงเพื่อนสมัครฟรีค่าแรกเข้าสมาชิกใหม่และสมาชิกเก่าฟรีค่ารายเดือน 1 เดือน
ขณะที่ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ค่ายเล็กที่มีสาขาเพียง 1-2 แห่ง อาทิ ฟิตเวย์ยิม ที่เปิดสาขาที่ลาดพร้าว 101 และเชียงราย ชูจุดขายบริการที่จอดรถฟรี 2-3 ชั่วโมงตามแพ็กเกจสมาชิก ฟรีเทรนเนอร์ และแพ็กเกจสมาชิกไม่มีค่าแรกเข้าเริ่มต้น 250 บาท/วัน, 1,500 บาท/เดือน, 3,350 บาท/3 เดือน, 6,400 บาท/6 เดือน และ 12,000 บาท/ปี ซึ่งสามารถผ่อน 0% นาน 3-10 เดือนกับบัตรเครติดที่ร่วมรายการ รวมถึงสามารถสะสมแต้มจากการซื้อสินค้า อาทิ อาหารเสริม เวย์โปรตีน ในสาขาเพื่อแลกของรางวัล
นี่เป็นเพียงความเคลื่อนไหวส่วนหนึ่งของฟิตเนส 24 ชั่วโมง ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น จากไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไป และนับวันบริการนี้ก็จะเติบใหญ่ตามเมืองที่ขยายตัวมากขึ้น
