เครื่องดื่มพลิกกลยุทธ์ชูหวานน้อยเกลื่อนเชลฟ์

ค่ายเครื่องดื่มจัดทัพรับอัตราภาษีใหม่ “หวานมากเก็บมาก-หวานน้อยเก็บน้อย” น้ำอัดลม-ชูกำลัง-ชาเขียว-น้ำผลไม้ พาเหรดสินค้าใหม่ ชูโลว์ชูการ์ ไร้น้ำตาล ไม่มีแคลอรี่ หวังเข้าข่ายยกเว้นภาษี/เสียน้อยลง พร้อมทุ่มงบฯสร้างอะแวร์เนสปลุกตลาด

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า หลังจากมีความชัดเจนของภาษีความหวาน จากกรมสรรพสามิต ที่จะเรียกเก็บจากเครื่องดื่มหลายชนิด เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ชาเขียว กาแฟ ฯลฯ ที่มีปริมาณน้ำตาลสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องเสียภาษีในอัตรา 20-30% ของราคาขายปลีก โดยแบ่งระดับตามอัตราความหวาน หากหวานมากก็จะเสียมาก หากหวานน้อยก็จะเสียน้อยทำให้ผู้ประกอบการเครื่องดื่ม ทยอยปรับตัวด้วยการออกสูตรใหม่ที่มีความหวานน้อยไร้น้ำตาล ไร้แคลอรี รวมถึงทำการปรับภาพลักษณ์ แพ็กเกจจิ้งสินค้าให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และเพิ่มน้ำหนักการสื่อสารของสินค้ากลุ่มนี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

นายทนุ เนาวรัตน์พงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาพร้อมดื่ม ยูนิฟ ที น้ำผักผลไม้รวม ยูนิฟ ฯลฯ ระบุกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการเครื่องดื่มได้ทยอยปรับตัวเพื่อรับกับภาษีความหวานที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 16 กันยายนนี้ ผ่านกลยุทธ์การออกสินค้าใหม่ที่ลดความหวานลงจากสูตรเดิมกันมากขึ้น ส่วนสินค้าเดิมที่ยังมีน้ำตาลเกินเกณฑ์ที่กำหนด แต่เป็นสินค้าหลักที่สร้างรายได้ให้กับธุรกิจ ก็ต้องมีการศึกษาให้รอบคอบ เพราะหากปรับสูตรแล้วผู้บริโภคไม่ตอบรับก็จะเสียโอกาสทางการตลาดไป ทั้งนี้ สินค้าในกลุ่มดังกล่าวอาจเลี่ยงไม่ได้ และต้องปรับขึ้นราคา และให้เป็นไปตามกลไกของตลาด

สำหรับกลุ่มธุรกิจชาของบริษัท เบื้องต้นอาจพิจารณาพัฒนาสูตรที่ใช้สารทดแทนความหวาน แทนการใช้น้ำตาลแบบสูตรเดิม ส่วนสินค้ากลุ่มอื่น ๆ เตรียมออกสูตรน้ำตาลน้อยเข้ามาเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมาได้ออกผลิตภัณฑ์ เช่น สลัดเดย์ บาย ยูนิฟ น้ำผักผลไม้ 100% ไม่ผสมน้ำตาล และชาพร้อมดื่ม เดลี่เมท สูตรไม่มีน้ำตาล

นางนงนุช บูรณเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ ระบุว่า บริษัทจะให้น้ำหนักกับสินค้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวจะเข้ามามีบทบาทต่อพฤติกรรมการบริโภค และนโยบายของภาครัฐที่ต้องการควบคุมเรื่องความหวานโดยการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล สำหรับแบรนด์โออิชิ มีซับแบรนด์อย่างคาบูเซฉะ ที่อยู่ในกลุ่มชาพร้อมดื่มพรีเมี่ยม มีทั้งหมด 2 สูตร คือ สูตรไม่มีน้ำตาล และสูตรน้ำตาลน้อย

นางคลาวเดีย นาวาร์โร ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย)จำกัด ระบุว่า โค้กได้ปรับสูตร และดีไซน์ของแพ็กเกจจิ้งของ “โค้ก ซีโร่” สูตรไม่มีน้ำตาล ใหม่ โดยพัฒนารสชาติให้ใกล้เคียงกับโค้กออริจินอล และเพิ่มการสื่อสารไปยังผู้บริโภคด้วยการเพิ่มคำว่า ซีโร่ ชูการ์ ลงไปบนแพ็กเกจจิ้ง เพื่อให้รับรู้ได้ทันทีว่าเครื่องดื่มดังกล่าวไม่มีน้ำตาล ตลอดจนการโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ อาทิ สื่อโฆษณาบนตึก บิลบอร์ด รถไฟฟ้าบีทีเอส สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย

นายสมชัย เกตุชัยโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ระบุว่า บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป๊ปซี่ แมกซ์ เป็น “เป๊ปซี่ แมกซ์ เทสต์” เครื่องดื่มน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาล ให้พลังงาน 0 แคลอรี พร้อมกับปรับโฉมบรรจุภัณฑ์ใหม่ ให้โลโก้ของเป๊ปซี่บนฉลากสีดำเพื่อตอกย้ำแบรนด์ให้ชัดเจนมากขึ้นโดยยังคงสูตรและรสชาติเดิมเอาไว้ พร้อมกับการแตกแบรนด์ใหม่ “มิรินด้า มิกซ์-อิท” ซับแบรนด์ของน้ำอัดลมสี มิรินด้า ซึ่งมีคอนเซ็ปต์เป็นน้ำผลไม้ 2 กลิ่นที่ให้ความหวานน้อยกว่า 6 กรัมต่อ 100 มล. เพื่อตอบสนองเทรนด์ของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

พร้อมกันนี้จะมีการจัดกิจกรรมอะโบฟเดอะไลน์ โดยเน้นไปที่โซเชียลมีเดียมากกว่า 50% รวมถึงการใช้ทีวีซี เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ของมิรินด้า ตลอดจนกิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์ ผ่านคาราวานแจกสินค้าทดลองชิมกว่า 1 ล้านชิ้นทั่วประเทศ

รายงานจากกลุ่มธุรกิจ ทีซีพี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง, เรดดี้ เครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอลดริงก์ แมนซั่ม ฯลฯ ระบุว่า บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่แบรนด์เรดดี้ เครื่องดื่มชูกำลังพรีเมี่ยม 2 รสชาติใหม่ ได้แก่ เรดดี้ พิงค์ ผสมคอลลาเจน-วิตามิน ซี และเรดดี้ แบล็ค ผสมคอลลาเจน-ซิงก์ โดยทั้งคู่เป็นสูตรที่ปรับลดน้ำตาลลง 40% จากสูตรปกติ และใช้กาเฟอีนธรรมชาติที่ได้จากชาเขียวผงเป็นส่วนผสม

นางสาวปัณฑ์ชนิต ปัญญะสังข์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส เครื่องดื่มแมนซั่ม บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า เครื่องดื่มแมนซั่มมีการออกสินค้าใหม่ที่ลดน้ำตาลลงจากสูตรเดิม 75% ทำให้สินค้ากลุ่มหวานน้อยในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 สูตร อาทิ ขวดสีฟ้าผสมคอลลาเจน ขวดสีส้มผสมแอลคาร์นิทีน และขวดสีแดงผสมแอลกลูต้าไธโอนซึ่งภายในกลุ่มของบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าในกลุ่มนี้ออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ อัตราภาษีเครื่องดื่ม ที่จัดเก็บจากความหวาน ภายใต้ พ.ร.บ.สรรพสามิตฉบับใหม่ ที่เสนอให้กับคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ มีทั้งหมด 6 ระดับ คือ 1.ค่าความหวาน 0-6 กรัม ต่อ 100 มล. ไม่เสียภาษี 2.ค่าความหวาน 6-8 กรัม ต่อ 100 มล. เสียภาษี 10 สตางค์ ต่อลิตร 3.ค่าความหวาน 8-10 กรัม ต่อ 100 มล. เสียภาษี 30 สตางค์ ต่อลิตร 4.ค่าความหวาน 10-14 กรัม ต่อ 100 มล. เสียภาษี 50 สตางค์ ต่อลิตร 5.ค่าความหวาน 14-18 กรัม ต่อ 100 มล. เสียภาษี 1 บาท ต่อลิตร 6.ค่าความหวาน 18 กรัมต่อ 100 มล. ขึ้นไป เสียภาษี 1 บาท ต่อลิตร

โดยจะมีกรอบระยะเวลาให้เอกชนได้ปรับตัว 2 ปี จากวันที่กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 กันยายน เป็นต้นไป และในช่วง 2 ปีนี้ หากมีผู้ประกอบการรายได้มีสินค้าที่น้ำตาลน้อยกว่าที่กำหนด จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม