แฟรนไชส์สะดวกซักมาเลเซียรุกอีก แบรนด์ใหม่ “ลอนดรี้บาร์” จับมือหุ้นส่วนไทยสยายปีกรุกซีแอลเอ็มวี ชูจุดขาย นวัตกรรมไร้เงินสด ไม่มีค่ารอยัลตี้-หักเปอร์เซ็นต์ หวังเอาใจลูกค้า-นักลงทุน ตั้งเป้าปีนี้ปูพรมครบ 40 สาขาทั้ง กทม.-ตจว.
นางสาวพิมลวรรณ ชีวเกรียงไกร ผู้ร่วมทุนและผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด ผู้บริหารแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก “ลอนดรี้บาร์” กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดร้านสะดวกซักในประเทศไทยและเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV หรือกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น มีช่องว่างและแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยบวกจากไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ทั้งการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวเดี่ยวในพื้นที่ใช้สอยจำกัด และต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ขณะเดียวกันภาวะดอกเบี้ยต่ำยังกระตุ้นให้นักลงทุนมองหาการลงทุนอื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก ทำให้มีดีมานด์ธุรกิจร้านซักผ้าหยอดเหรียญหรือร้านสะดวกซัก ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและการลงทุน
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
ทั้ง 2 ปัจจัยเป็นโอกาสที่จะเข้าทำตลาดแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักในไทยและประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV จึงตัดสินใจร่วมทุนกับบริษัท ลอนดรี้บาร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่ออาศัยจุดแข็งเรื่องโนว์ฮาวและนวัตกรรมจากการทำธุรกิจนี้ในมาเลเซีย บรูไน ตุรกี รวมกว่า 520 สาขาในการชิงความได้เปรียบ
“นอกจากการใช้เครื่องซัก-อบผ้าเชิงพาณิชย์จากสหรัฐอเมริกา-ยุโรป ค่าใช้บริการเริ่มต้น 40 บาทเช่นเดียวกับคู่แข่งแล้ว ยังชูจุดขายด้านความสะดวกและนวัตกรรมที่แตกต่างจากผู้เล่นรายอื่น ๆ มุ่งตอบโจทย์ทั้งลูกค้าปลายน้ำและแฟรนไชซี ไม่ว่าจะเป็นบริการฟรีน้ำยาซักผ้า-ปรับผ้านุ่ม และยาฆ่าเชื้อสำหรับผู้ใช้บริการ หรือระบบอีเพย์เมนต์รองรับ QR code, PromptPay, WeChat Pay, Rabbit LINE Pay รวมถึงไม่มีค่า royalty free และไม่เก็บเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งจากรายได้ และระบบ franchise app แสดงยอดขายแบบ online เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการบริหาร-จัดการ
ด้านการตลาดจะใช้สาขาแฟลกชิปที่ซอยศรีนครินทร์ 40 ตรงข้ามซีคอนสแควร์ เป็นโมเดลต้นแบบ โดยทุ่มงบฯจัดงานแกรนด์โอเพนนิ่งและโปรโมชั่นซักฟรี 7 วัน ร่วมกับการเดินสายร่วมงานแฟร์ต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นการทดลองใช้งาน นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจลงทุนหลากหลาย เริ่มต้น 2.1 ล้านบาท สำหรับพื้นที่ 40-60 ตร.ม. เครื่องซัก-อบรวม 8 เครื่อง ไปจนถึง 3.2 ล้านบาท พื้นที่ 60-90 ตารางเมตร เครื่องซัก-อบรวม 13 เครื่อง ปัจจุบันมีสาขาในไทยแล้วประมาณ 10 สาขาทั่วประเทศ คาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถเปิดครบ 30 สาขา
