บุ๊กแฟร์จัด‘อิมแพ็ค’ครั้งแรก สนพ.ลุ้น‘นักอ่าน-แฟนคลับ’ตามมาซื้อ

ส่องงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 24 ย้ายจัดที่ “อิมแพ็ค” ครั้งแรกสำนักพิมพ์หลายแห่งโล่งอก 2 วันแรกจำนวนคน-ยอดขายลดลงไม่มาก ได้ “หนอนหนังสือ-แฟนประจำ” ตามมาซื้อ

งานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 24 จัดขึ้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นครั้งแรก เปิดงานเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา จากการประเมินผลการตอบรับงานใน 2-3 วันแรก ปรากฏว่าจำนวนผู้เข้าร่วมงานลดลงจากงานที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เล็กน้อย ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า จำนวนผู้เข้าร่วมงาน 2 วันแรกอยู่ที่วันละเกือบ 5 หมื่นคน ใกล้เคียงกับผู้เข้าร่วมงานที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มากกว่าที่คาดไว้ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ต้องรอลุ้นซึ่งปกติแล้วจะมีผู้เข้าร่วมงาน 1.5-2 แสนคน

“ผู้เข้าร่วมงานไม่ลดลงไปมากอย่างที่คาด เนื่องจากสำนักพิมพ์มีหนังสือคุณภาพและกิจกรรมดี ๆ ดึงดูดกลุ่มนักอ่าน บางแห่งออกหนังสือลิมิเต็ดเอดิชั่น ทำให้แฟนพันธุ์แท้มาต่อคิวรอซื้อ ทั้งได้รับอานิสงส์จากงานอื่นที่จัดในเมืองทองฯ ซึ่งการย้ายมาจัดงานในพื้นที่ที่ไกลจากที่เดิมเป็นการเปิดตลาดใหม่ คนอยู่นนทบุรีและโซนฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยได้ไปงานที่เดิมก็อาจมางานนี้”

สำหรับเรื่องการเดินทางได้เตรียมจัดรถรับ-ส่งฟรีไว้แล้ว ที่จอดรถก็ไม่เป็นห่วง เพราะในเมืองทองฯ มีที่จอดกว่าหมื่นคัน แต่อาจมีปัญหาตรงที่ทุกคนอยากจอดใกล้งานที่สุด

ด้านนายอพิสิทธิ์ ธีระจารุวรรณ ผู้จัดการสำนักพิมพ์มติชน กล่าวว่า จำนวนคนและยอดขายของบูทสำนักพิมพ์มติชนน้อยกว่างานที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เล็กน้อย แต่ถือว่าอยู่ในระดับที่พอใจสำหรับการจัดงานที่ใหม่ ส่วนหนังสือขายดี 3 อันดับแรกคือ 1.แค่เริ่มต้นใหม่ ไม่ใช่พ่ายแพ้ โดย หนุ่มเมืองจันท์ 2.ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว โดย ธนินท์ เจียรวนนท์ 3.ลงเรือแป๊ะ โดย วิษณุ เครืองาม

นายนิวัต พุทธประสาท บรรณาธิการสำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม ให้ข้อมูลว่า 2 วันแรกมีคนอ่านแวะเวียนไปที่บูทเม่นวรรณกรรมวันละ 500 คน ลดจากงานที่เดิมอยู่ที่ 1,000 คน/วัน ส่วนยอดขายลดลงจากงานครั้งก่อนเล็กน้อย ยอดใช้สอยเฉลี่ยต่อคนลดลงจากที่เคยซื้อ 500-600 บาท/คน เหลือ 300-400 บาท/คน

“เราทราบดีว่า เวลาเปิดบุ๊กแฟร์ที่ใหม่ไม่เปรี้ยงแน่ ต้องสร้างกลุ่มคนในที่ใหม่ด้วยจากที่เปิดงานมาสองวันเห็นได้ว่าคนที่มางานส่วนใหญ่เป็นแฟนของสำนักพิมพ์นั้นอยู่แล้วต้องรอดูสถานการณ์วันเสาร์-อาทิตย์”

สำหรับหนังสือที่ขายดีของสำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม  คือ หมาป่าผู้โดดเดี่ยว ของ แฮร์มานน์ เฮสเซอ แปลโดย ปิยภาณี เฮ็นท์ช และความตายของหญิงสาว เขียนโดย ศวา เวฬุวิวัฒนา

ด้านนายกฤษดา รินทรานุกูล รองกรรมการผู้จัดการ อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า คนลดลง 10-15% แต่ยอดซื้อต่อคนสูงขึ้น 5% และที่บูทมีหนังสือออกใหม่เกือบ 40 ปก หนังสือที่ขายดีที่สุดเป็นนวนิยายจีน (แปล) ส่วนนิยายไทยเล่มที่ขายดีคือ พรหมลิขิต เขียนโดย รอมแพง และร่มไม้ใบบาง เขียนโดย ว.วินิจฉัยกุล

นายจรัญ หอมเทียนทอง ผู้จัดการสำนักพิมพ์แสงดาว กล่าวว่า นักอ่านลดลง 50% สาเหตุจากการจราจรและที่จอดรถคนที่มางานไม่ใช่ขาจร แต่เป็นขาประจำของแต่ละสำนักพิมพ์มากกว่า

“ข้อดีของอิมแพ็คมีความโอ่โถงกว่า และทุกร้านค้าอยู่ในบริเวณเดียวกันหมด”

สำหรับหนังสือแนะนำของสำนักพิมพ์แสงดาวปีนี้เป็นหนังสือชุด พล นิกร กิมหงวน ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ในหนังสือ 100 เล่มที่ควรอ่าน