“ไอแคร์” ผุดโมเดลแฟรนไชส์ รับเทรนด์ “ร้านขายยา” เฟื่อง

ตลาดร้านขายยาสะพรั่งโต 3-5% หลังพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น คนสูงอายุเพิ่มขึ้น ดันความต้องการยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพุ่ง กลุ่มไอแคร์ เฮลท์ สบโอกาสตลาดบูม เดินหน้าปรับพื้นที่หน้าร้านขายอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุ อีกทั้งผุดโมเดลใหม่ “Pharmax24” ร้านยา 24 ชม. เปิดสาขาแรกเดอะสตรีท รัชดา พร้อมผนึกองค์การเภสัชกรรม นำสินค้า 100 รายการเข้ามาขาย หวังเพิ่มความหลากหลายตอบทุกโจทย์ผู้บริโภค ขณะที่ต้นปี”63 เตรียมขายแฟรนไชส์ร้านขายยา นำร่องแบรนด์แรก “ไอแคร์” ส่วนสิ้นปีนี้คาดรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาทแน่

นายธัชพล ชลวัฒนกุล กรรมการบริหาร บริษัท ไอแคร์ เฮลท์ จำกัด ผู้บริหารร้านขายยาในเครือไอแคร์ เฮลท์ กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดร้านขายยาเติบโตเฉลี่ยปีละ 3-5% ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับโครงสร้างประชากรไทยก็เริ่มขยับเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือคาดว่าสัดส่วนประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปของไทยจะเพิ่มเป็น 17% ของประชากรทั้งประเทศในอนาคต ทำให้ความต้องการยารักษาโรค ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และอุปกรณ์สำหรับผู้สุงอายุ เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย และการแข่งขันของตลาดร้านขายยาโดยรวมก็เพิ่มดีกรีขึ้น ซึ่งปัจจุบันมี

ผู้เล่นรายใหญ่ ทั้งกลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงพยาบาล ก็กระโดดเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดนี้ด้วย ซึ่งกลุ่มไอแคร์ เฮลท์ ก็ถือว่าเป็น 1 ใน 5 ของผู้เล่นใหญ่ในตลาดร้านขายยา เพราะมีร้านขายยาอยู่ในเครือถึง 4 แบรนด์ รวม 25 สาขา แบ่งเป็น ไอแคร์ 10 สาขา เจาะตามชุมชนต่างๆ ตามด้วย ฟาร์มาแมกซ์ 10 สาขา เป็น professional pharmcy เจาะตามใจกลางเมือง ต่อด้วยไวตามินคลับ 4 สาขา เป็นร้านขายยารูปแบบไลฟ์สไตล์เปิดตามห้างสรรพสินค้า เจาะคนรุ่นใหม่ และซุปเปอร์ดรัก 1 สาขา ซึ่งเป็นร้านขายยารูปแบบสแตนด์อะโลน ชูความครบของยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์

อย่างไรก็ตาม จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทต้องปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจใหม่ แบ่งออกเป็น 3 กลยุทธ์หลัก เริ่มตั้งแต่การเพิ่มพื้นที่หน้าร้าน สำหรับจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุมากขึ้น พร้อมออกแบบร้านใหม่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสัมผัส และทดลองอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในบ้านได้ เช่น ฟาร์มาแมกซ์ สาขาประดิษฐมนูธรรม ที่สร้างพ็อปอัพขึ้นใหม่ โดยออกแบบพื้นที่ให้เป็นเสมือนห้องผู้ป่วยที่บ้าน มีเตียงและอุปกรณ์สำหรับการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ เป็นต้น อีกทั้งมีแผนจะเปิดตัวร้านขายยา “Pharmax24” ซึ่งเป็นร้านขายยาที่มีเภสัชกรตลอด 24 ชั่วโมง ร้านแรกในไทย เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ซึ่งจะเปิดสาขาแรกที่เดอะสตรีท รัชดา ในเดือนธันวาคมนี้

ส่วนที่ 2 คือ ร่วมมือกับพันธมิตรมากขึ้น ล่าสุดได้ลงนามร่วมกับองค์การเภสัชกรรม (GPO) เพื่อเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการขององค์การเภสัชกรรม (GPO offcial partner) ในการจัดจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผ่านร้านขายยาในเครือ รวม 100 รายการ ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยา และเวชสำอาง

“ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้องค์การเภสัชกรรมมีช่องทางจำหน่ายเพิ่มเป็น 33 สาขาในทันที จากปัจจุบันที่ขายในร้านยา GPO แค่ 8 สาขาเท่านั้น ส่วนบริษัทก็จะมีสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น”

นายธัชพลกล่าวต่อว่า สุดท้ายคือการเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มขึ้น โดยต้นปี 2563 คาดว่าจะเริ่มขายแฟรนไชส์ร้านขายยา โดยจะเริ่มจากแบรนด์ “ไอแคร์” ก่อน เนื่องจากเป็นร้านขายยาที่เจาะตามชุมชนต่าง ๆ และคาดว่าจะสามารถเจาะเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมขึ้น

“ที่ผ่านมาบริษัทเปิดได้เพียงปีละ 5 สาขาเท่านั้น เนื่องจากงบฯลงทุนต่อสาขาค่อนข้างสูง ขณะที่การขายแฟรนไชส์จะทำให้บริษัทสามารถสปีดสาขาได้เร็วขึ้น และครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ได้วางระบบควบคุมคุณภาพ ทั้งการควบคุมคุณภาพเก็บรักษายา การบริหารจัดการสต๊อกสินค้าเสร็จแล้ว และจะเริ่มเปิดขายแฟรนไชส์สาขาแรกได้เร็ว ๆ นี้ ประมาณต้นปี 2563 ส่วนราคาค่าแฟรนไชส์นั้นอยู่ระหว่างพิจารณา”


อย่างไรก็ตาม คาดว่าด้วยแนวทางที่วางไว้จะทำให้ปีนี้ บริษัทสามารถเติบโตได้ 20% จากปีก่อน หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2563 ก็คาดว่าจะเติบโตได้ 15-20% จากปีนี้