
ช่อง 5 ฮึดสู้ หลังเรตติ้งร่วงไปอยู่ในตำแหน่งรองบ๊วย ลุยยกเครื่องผังรายการปี”63 หวังดึงเม็ดเงินโฆษณา 6 หมื่นล้านระดมทัพผู้ผลิตรายการรับบรีฟ ตั้งเป้าเรียกเรตติ้ง-ดึงคนดู ประกาศเพิ่มความเข้มข้นจุดแข็ง “รายการข่าว” ยิงทุกช่วงเวลาตลอดวัน โดยเฉพาะข่าวสั้นต้นชั่วโมงตลอด 7 วันทุกช่วงเวลา พร้อมเปิดกว้างรับผู้ผลิตรายใหม่ด้วยโมเดล “เช่าเวลา-แบ่งรายได้” คาดได้ข้อสรุปชัดเจนในเดือนพฤศจิกายนนี้ มั่นใจโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม
แม้ทีวีดิจิทัล 7 ช่องจะปิดฉากลงไป และเหลืออยู่ 18 ช่อง แต่ก็ไม่ได้ทำให้การแข่งขันของสมรภูมินี้ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับเพิ่มดีกรีความรุนแรงมากขึ้น แต่ละรายต่างอัดคอนเทนต์แม่เหล็กหวังยึดตำแหน่งหัวแถวในกลุ่มท็อป 5 ให้ได้ เช่นเดียวกับ ททบ.5 ที่เป็นช่องทีวีบริการสาธารณะ แต่ก็อยู่นิ่งไม่ได้ เนื่องจากความนิยมของผู้ชม (เรตติ้ง) ลดลงต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า จากข้อมูลของการจัดลำดับความนิยมช่องรายการโทรทัศน์ภาคพื้นดินรายปีของบริษัท นีลเส็น (ประะเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ปี 2558 ททบ.5 มีเรตติ้งเป็นอันดับที่ 11 จากทั้งหมด 27 ช่อง เรตติ้ง 0.114 ส่วนปี 2559 เรตติ้งร่วงลงไปอันดับที่ 18 ด้วยตัวเลข 0.058 ตามด้วยปี 2560 หล่นมาอยู่อันดับที่ 20 เรตติ้ง 0.041 และปี 2561 อยู่อันดับที่ 19 เรตติ้ง 0.041 สะท้อนถึงรายได้จากเม็ดเงินโฆษณาจะถูกหั่นลงเรื่อย ๆ เช่นกัน ทำให้ ททบ.5 ต้องเร่งหารายได้
ตามกรอบที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนดไว้ว่า ทีวีสาธารณะมีโฆษณาได้เฉลี่ยชั่วโมงละ 8-10 นาที ใกล้เคียงกับทีวีดิจิทัลประเภทธุรกิจ ล่าสุดเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ททบ.5 ได้เรียกผู้ผลิตรายการเข้าประชุมเพื่อรับฟังแนวทางการดำเนินการจัดผังรายการประจำปี 2563 โดยมีผู้ผลิตรายกลางและเล็กเข้าร่วมประชุมกว่า 100 ราย
ทีวีดิจิทัลยังแข่งเดือด
พลเอกกิตติเชษฐ์ ศรดิษฐพันธ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) กล่าวว่า ขณะนี้แม้ทีวีดิจิทัลจะปิดตัวลงไป 7 ช่อง และปัจจุบันเหลืออยู่ 18 ช่อง แต่การแข่งขันกลับมีดีกรีความรุนแรงเพิ่มขึ้น และช่องที่เหลืออยู่ล้วนมีเรตติ้งที่ดี ประกอบกับปัจจัยในเรื่องของเทคโนโลยีและพฤติกรรมคนดูเปลี่ยนและเปิดรับสื่อออนไลน์มากขึ้น ทำให้งบฯโฆษณาผ่านสื่อทีวีที่มีมูลค่า 60,000 ล้านบาทไม่เติบโต จากแนวโน้มที่เกิดขึ้นทำให้ ททบ.5 ต้องปรับตัวมากขึ้น ทั้งการเพิ่มช่องทางออนไลน์ เฟซบุ๊ก ยูทูบ ในชื่อ “TV5HD1” ที่เข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้มากขึ้น และที่สำคัญคือ การเร่งพัฒนาและหาคอนเทนต์ใหม่ ๆ เพื่อดึงความสนใจของผู้ชมคืนให้ได้
“การเกิดขึ้นของทีวีดิจิทัล ทำให้เรตติ้ง ททบ.5 ลดลงเรื่อย ๆ ปัจจุบันมีเรตติ้งอยู่อันดับที่ 17 ของตาราง จึงมีแผนจะปรับผังรายการใหม่ในต้นปี 2563 โดยจะเน้นปรับปรุงรูปแบบและรายการที่นำเสนอมากขึ้น รวมถึงต้องเร่งหาจุดขายใหม่ ๆ ที่สำคัญคือ การคงโพซิชันนิ่งหลักของช่อง คือ ทีวีทหาร เพื่ออุดมการณ์แห่งความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์”
ระดมทัพผู้ผลิตดึงคนดูคืน
พลเอกอนุรักษ์ แสงฤทธิ์ รองผู้อำนวยการใหญ่สายงานปฏิบัติการ ททบ.5 กล่าวต่อว่า ในปีหน้า ททบ.5 จะยังคงตอกย้ำโพซิชันนิ่งหลักของช่อง และคอนเทนต์ก็ต้องสอดรับกับแนวทางนี้ แต่รูปแบบอาจจะยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งนี้ เนื้อหารายการจะเน้นการนำเสนอเชิงสร้างสรรค์ ส่งเสริมสังคมและสถาบันครอบครัว รวมถึงการแสดงออกถึงความรักชาติ และบริการสังคม ผังรายการจะคงสัดส่วน รายการข่าว สาระความรู้ 70% และบันเทิง 30% สำหรับรายการข่าวที่เป็นจุดแข็งของช่องจะมีการเพิ่มความเข้มข้นขึ้นด้วยการจะนำเสนอรายการข่าวทุกช่วงเวลาตลอดวัน โดยเฉพาะข่าวสั้นต้นชั่วโมงที่จะยิงยาวตลอด 7 วันทุกช่วงเวลา พร้อมปรับแนวทางนำเสนอให้น่าสนใจมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ขายโฆษณาช่วงรายการข่าวของปี 2563 ไปแล้วบางส่วน
“การเชิญผู้ผลิตรายการมาประชุมหารือดังกล่าวก็เพื่อจะร่วมกับผู้ผลิตรายการในการหาคอนเทนต์ใหม่ ๆ เข้ามาเสริม และต้องการเพิ่มเรตติ้ง ดึงคนดูกลับคืนมา เป็นการเปิดกว้างสำหรับรายการหลากหลายรูปแบบ ทั้งรายการเด็กและเยาวชน สุขภาพ อาหาร ท่องเที่ยว กีฬา ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในเดือนพฤศจิกายนนี้ ก่อนจะประกาศผังรายการใหม่ต้นปี 2563”
ปิดจุดอ่อน เปิดกว้าง…หารายได้
พลตรีบัณฑิต แสงอ่อน ผู้อำนวยการฝ่ายรายการ ททบ.5 กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา ททบ.5 ประสบปัญหาผู้ผลิตยกเลิกสัญญาการผลิตรายการระหว่างปี ส่งผลกระทบต่อผังรายการในภาพรวม ดังนั้น จากนี้จะเปิดกว้างมากขึ้น โดยแบ่ง 2 รูปแบบ คือ เช่าเวลาเพื่อออกอากาศ และแบ่งรายได้ (revenue sharing) แต่ผู้ผลิตจะต้องจ่ายเงินประกันราคา 50% ของราคาเช่าเวลาออกอากาศ คาดว่าโมเดลใหม่นี้จะทำให้ช่องสามารถเดินหน้าต่อได้และมีรายการออกอากาศได้ตลอดปี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเพิ่งปรับผังรายการไตรมาส 4 ใหม่ โดยเติมรายการข่าวในหลากหลายรูปแบบ เริ่มเวลา 05.30 น. ยิงยาวถึงเวลา 22.30 น. พร้อมภาพยนตร์ซีรีส์นานาชาติ ในช่วงเวลา 22.30-23.30 น. นอกจากนี้ ยังมีละครฟอร์มใหญ่ “เลือดสุพรรณ” หนึ่งในโครงการ “5 สมรภูมิรบ 5 สมรภูมิรัก…ชาติ รักแผ่นดิน” ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.20-21.20 น. ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ททบ.5 ก็มีการปรับตัวต่อเนื่องและมีการขยับผังรายการมาเป็นระยะ ๆ
แหล่งข่าวจากบริษัทเอเยนซี่โฆษณา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เรตติ้ง ททบ.5 ลดลงเรื่อย ๆ ขณะที่สินค้ากลุ่มหลักที่โฆษณาผ่าน ททบ.5 คือ หน่วยงานรัฐ และสินค้ารายย่อย หรือเอสเอ็มอีเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปปี 2556 พบว่า ททบ.5 ยังมีเรตติ้งที่ดีเพราะถือเป็นช่องทางเลือกของผู้ผลิตทั้งรายเล็ก รายใหญ่มาเช่าเวลาออกอากาศ เช่น เวิร์คพอยท์ บริษัท เอ็กแซ็กท์
จำกัด (แกรมมี่) เป็นต้น แต่ปี 2557 บริษัทผู้ผลิตคอนเทนต์รายใหญ่ก็ทยอยถอนรายการออกเพื่อหันไปผลิตรายการป้อนให้ช่องตัวเอง ทำให้คอนเทนต์แม่เหล็กของ ททบ.5 ทั้ง ละคร เกมโชว์ วาไรตี้ลดลงเรื่อย ๆ และเหลือเพียงผู้ผลิตขนาดกลางและเล็กเท่านั้นที่ยังผลิตรายการให้ ทำให้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ททบ.5 ปรับตัวมาต่อเนื่องด้วยการเพิ่มสัดส่วนการผลิตคอนเทนต์เองมากขึ้น และพยายามดึงผู้ผลิตเข้ามาร่วมทำรายการ แต่ด้วยโมเดลหารายได้ที่เน้นเช่าเวลาออกอากาศจึงไม่จูงใจผู้ผลิตเพราะเรตติ้งของช่องลดลง ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาผ่านทีวีก็ลดลงเรื่อย ๆ และกระจุกตัวอยู่เฉพาะช่องที่มีเรตติ้งท็อป 5 หรือท็อป 10 เท่านั้น