เอาต์ดอร์เฟสติวัล หงอย ไร้แววผู้จัดหน้าใหม่…สปอนเซอร์หายาก

หนาวนี้มีเหงาแน่สำหรับเอาต์ดอร์เฟสติวัลปลายปี เพราะบรรยากาศโดยรวมปีนี้ไม่คึกคักเหมือน 2-3 ปีก่อน ที่เคยมีงานไม่ต่ำกว่า 20 งาน ซึ่งจากการสำรวจเว็บไซต์จำหน่ายบัตรหลายราย เช่น ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทิกเก็ตเมล่อน The Concert เป็นต้น ระหว่างเดือนตุลาคมปีนี้ถึงกุมภาพันธ์ปี 2563 พบว่ามีเพียง 10 กว่างานเท่านั้นที่กระจายกันอยู่ในแต่ละจังหวัดรอบ ๆ กรุงเทพฯ

หากไล่ไทม์ไลน์ตั้งแต่เดือนตุลาคม พบว่ามี 1 งานเท่านั้นและกระจุกตัวอยู่ที่เดือนพฤศจิกายนถึง 6 งาน เช่น เทศกาลความรักริมทะเล ชลบุรี, เนินมะปราง เฟสติวัล 2019 พิษณุโลก, ซีซั่น ออฟ เลิฟ ซอง ปีที่ 10 ราชบุรี เป็นต้น ข้ามมาเดือนธันวาคมก็มีอีก 6 งาน โดยไฮไลต์อยู่ที่ 3 งานใหญ่ คือ บิ๊กเมาน์เท่น นครราชสีมา ต่อด้วย Overcoat Music Festival 2019 เพชรบูรณ์ และ Wonderfruit Festival 2019 พัทยา ขณะเดียวกัน ก็มีงานบางส่วนที่ไหลยาวข้ามไปปี 2563 รวม 3 งาน ได้แก่ “เราไปกัน 2020 Music Festival” เพชรบูรณ์ ตามด้วยภูเขาทอง ราชบุรี และ UnKonscious Beach Festival 2020 ภูเก็ต

อย่างไรก็ตาม งานส่วนใหญ่ที่จะเกิดขึ้นปลายปีนี้ก็จะเป็นงานที่จัดต่อเนื่องมาหลายปีของผู้จัดเจ้าเดิม ๆ เช่น แกรมมี่ บริษัท มีเดีย แรพ บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ เป็นต้น

แหล่งข่าวจากบริษัทผู้จัดเอาต์ดอร์เฟสติวัล กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมเอาต์ดอร์เฟสติวัลปีนี้ไม่ได้คึกคักเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันหลาย ๆ ปีก่อนที่มีผู้จัดหน้าใหม่ ๆ กระโดดเข้ามาสร้างสีสันให้ตลาด เพราะโจทย์ยากขึ้น โดยเฉพาะการหาผู้สนับสนุนเอาต์ดอร์เฟสติวัล (sponsor) โดยปีนี้เหลือเพียงผู้จัดรายเดิม ๆ ที่จัดต่อเนื่องประจำทุกปีอยู่แล้ว เช่น ซีซั่น ออฟ เลิฟ ซอง หรือโอเวอร์โค้ต มิวสิค เฟสติวัลที่จัดเป็นปีที่ 10 แล้ว และบิ๊กเมาน์เทนของค่ายแกรมมี่

“ในแง่สปอนเซอร์ก็ถือว่ายากขึ้นทุก ๆ ปี โดยเฉพาะปีนี้ที่เศรษฐกิจโดยรวมไม่ดี สินค้าหลายรายตัดลดงบฯในส่วนนี้ลง เหลือเพียงผู้สนับสนุนรายเดิม ๆ คือ กลุ่มเครื่องดื่มเท่านั้นที่ยังเป็นสปอนเซอร์รายหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ก็สนับสนุนเฉพาะเวทีที่เคยทำงานร่วมกันมาแล้ว”

สอดรับกับ “ญาณกร อภิราชกมล” กรรมการบริหาร บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด ผู้จัดเอาต์ดอร์เฟสติวัล เช่น เสม็ดอินเลิฟ ซีซั่น ออฟ เลิฟ ซอง เป็นต้น กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สปอนเซอร์ (สินค้า) ที่สนับสนุนเอาต์ดอร์เฟสติวัลเปลี่ยนพฤติกรรมไปค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้การตัดสินใจใช้งบฯยากขึ้นและมีเงื่อนไขมากขึ้น เช่น ลูกค้า (สินค้า) จะพิจารณาด้วยว่า แต่ละงานสามารถทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง หรือฐานผู้ชมของเอาต์ดอร์เฟสติวัลตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์หรือไม่ เป็นต้น ด้วยโจทย์ที่ยากขึ้นปีนี้จึงเหลือเพียงผู้เล่นรายเดิม ๆ ไม่มีผู้จัดรายใหม่เพิ่มเข้ามาเหมือนปีก่อน ๆ ทำให้ในแง่จำนวนงานเอาต์ดอร์เฟสติวัลก็ไม่คึกคักเหมือนปีก่อน ๆ

ในส่วนซีซั่น ออฟ เลิฟ ซองถือว่ายังเดินหน้าต่อได้ เพราะจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 10 จึงมีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว ปัจจุบันขายบัตรไปแล้วกว่า 75% ของจำนวนบัตรทั้งหมด และคาดว่าปีนี้จะมีผู้เข้าร่วมงาน 20,000 คนตามแผนที่วางไว้ ขณะที่ในแง่สปอนเซอร์ก็ยังได้รับการสนับสนุนจากรายเดิม ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่องดื่มช้าง โก๋แก่ เป็นต้น รวมถึงยังได้สปอนเซอร์กลุ่มใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ไล่ยุงและกำจัดแมลงในบ้านเรือน คายาริ เป็นต้น

เช่นเดียวกับผู้จัดรายเดิมที่จัดงานต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 10 อย่างโอเวอร์ โค้ท มิวสิค เฟสติวัล โดย “จันทร์ศรีษร มณีฉาย” กรรมการบริหาร บริษัท มีเดีย แรพ จำกัด ผู้จัดงานโอเวอร์ โค้ท มิวสิค เฟสติวัล ก็เชื่อมั่นว่าปีนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 20,000 คนตามแผนที่วางไว้ ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อน โดยขณะนี้ได้ขายบัตรไปเกือบหมดแล้ว สำหรับไฮไลต์ปีนี้ก็อยู่ที่ศิลปินซึ่งจะมีศิลปินเข้าร่วมคอนเสิร์ตกว่า 16 วง เริ่มตั้งแต่ 13.00 น.เป็นต้นไปของวันที่ 7 ธ.ค. และจะไปจบลงในเวลา 06.00 น.ของวันที่ 8 ธ.ค.

ฟากรายใหญ่อย่างแกรมมี่ นอกจากมีงานใหญ่ประจำปีอย่างบิ๊กเมาน์เทน ซึ่งปักธงแน่นบนพื้นที่นครราชสีมาแล้ว ก็พยายามขยายสู่พื้นที่อื่น ๆ ด้วย โดยปีนี้ร่วมกับ Zaap Party จัดเทศกาลดนตรีใหม่ขึ้นกับช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น พรีเซนต์ “เชียงใหญ่เฟส” หวังปั้นเป็นเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ จะจัดที่เชียงใหม่รวม 2 วัน 2 คืน (วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 23-24 พฤศจิกายน 2562) ด้วย บนพื้นที่ถึง 15 ไร่ ที่สามารถรองรับผู้เข้าร่วมงานได้ถึง 40,000 คน


แม้สมรภูมิเอาต์ดอร์เฟสติวัลปีนี้จะออกอาการเหงา ๆ ด้วยจำนวนงานลดลง เพราะไม่มีผู้จัดรายใหม่เข้ามาสร้างสีสัน จากปัญหาเศรษฐกิจทำให้สปอนเซอร์ก็ตัดงบฯในส่วนนี้ลงเรื่อย ๆ แต่ผู้เล่นรายเดิมก็ยังเดินหน้าต่อได้เพราะมีฐานแฟนประจำอยู่ ปีนี้จึงกลายเป็นสนามแข่งของตัวจริง