ตลาดมือสองสะพัดพันล้าน จีนตื่นฟองสบู่สนีกเกอร์

วิกฤตฟองสบู่เป็นสถานการณ์ที่ผู้คนเก็งกำไรสินค้าหนึ่ง ๆ จนราคาพุ่งสูงต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ตามจำนวนครั้งที่สินค้าเปลี่ยนมือคล้ายการพองตัวของฟองสบู่ จนเกิดการกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อซื้อสินค้าไว้เก็งกำไร และสุดท้ายเมื่อผู้คนเริ่มรู้สึกตัวว่าราคานั้นเกินกว่ามูลค่าแท้จริงและไม่มีใครสามารถซื้อสินค้านั้นต่อจากตนได้แล้วจะเข้าสู่สภาวะฟองสบู่แตก โดยที่ผ่านมามีสินทรัพย์หลายชนิดถูกนำมาเก็งกำไรจนเกิดภาวะฟองสบู่ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ที่ดิน-ที่อยู่อาศัย ทอง แม้แต่ดอกทิวลิปและทาสก็เคยมีมาแล้ว

ล่าสุด รองเท้าผ้าใบ หรือ “สนีกเกอร์” เป็นสินค้าตัวล่าสุดที่กำลังเข้าสู่วังวนการเกิดภาวะฟองสบู่ หลังบรรดาผู้ชื่นชอบสนีกเกอร์หรือสนีกเกอร์เฮด และนักเก็งกำไรต่างทุ่มเม็ดเงินทั้งซื้อขายและประมูลสนีกเกอร์รุ่นต่าง ๆ รวมถึงยังมีแอปพลิเคชั่นผุดขึ้นมาอำนวยความสะดวกในการเก็งกำไร จนราคาพุ่งสูงไปจากราคาเปิดอย่างรวดเร็วราวกับเป็นตลาดหุ้น ร้อนถึงธนาคารกลางของจีนต้องแจ้งเตือนไปยังสถาบันการเงินถึงความเสี่ยงในเรื่องนี้

สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งได้รายงานถึงสภาวะฟองสบู่รองเท้าสนีกเกอร์ในประเทศจีน ซึ่งบริษัทวิจัยไอมีเดียประเมินว่า ตลาดสนีกเกอร์มือสองในแดนมังกรมีมูลค่าเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐแล้ว และมีแนวโน้มเติบโต 35% ต่อปี หลังกระแสสตรีตแฟชั่นและการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีสนีกเกอร์เฮดหน้าใหม่กำลังซื้อสูงเพิ่มจำนวนขึ้น ซึ่งคนกลุ่มนี้ยินดีทุ่มเม็ดเงินแบบไม่อั้นเพื่อให้ได้รองเท้ารุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นมาครอบครอง

ขณะเดียวกันยังมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลายสิบแห่งผุดขึ้นมาอำนวยความสะดวกในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสนีกเกอร์โดยเฉพาะ ด้วยฟังก์ชั่นอย่างการอัพเดตราคาแบบเรียลไทม์ แสดงกราฟราคาย้อนหลังและอื่น ๆ ไปจนถึงการให้สินเชื่อ โดยบางแพลตฟอร์มยังอนุญาตให้ซื้อขาย “สิทธิ์” การเป็นเจ้าของสนีกเกอร์ได้ โดยไม่ต้องส่งสินค้าให้จริง ๆ กันอีกด้วย

เรียกได้ว่าขณะนี้การซื้อขายสนีกเกอร์มือสองในจีนแทบไม่ต่างกับการเทรดหุ้น โดยสนีกเกอร์มือสองสามารถขายออกไปได้ด้วยราคาตั้งแต่ 2-4 เท่าของราคาหน้าร้าน ตัวอย่าง เช่น ไนกี้รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น Undefeated Nike Kobe 4 Protros ซึ่งมีราคาหน้าร้าน 1,399 หยวน มีผู้รับซื้อถึง 4,000 หยวน

โดย Poizon เป็นหนึ่งในแอปพลิเคชั่นยอดนิยม ด้วยฟังก์ชั่นแสดงราคาต่ำสุดและประวัติการซื้อขายที่ผ่านมาของรองเท้า ช่วยให้ผู้ซื้อคาดการณ์แนวโน้มราคาได้ง่ายขึ้น จนเป็นที่นิยมของนักสะสมและนักเก็งกำไรจำนวนกว่า 1.4 ล้านแอ็กเคานต์ และผลักดันให้มูลค่ากิจการของ “เซี่ยงไฮ้ ซีฉวน อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี” สตาร์ตอัพผู้พัฒนาและบริหารแอปนี้พุ่งขึ้นไปแตะ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเข้าไปอยู่ในกลุ่มสตาร์ตอัพระดับยูนิคอร์น

สอดคล้องกับรายงานของสื่อฮ่องกงที่เปิดเผยประวัติการซื้อขายของผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม Poizon รายหนึ่ง ซึ่งในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาสามารถทำกำไรจากการซื้อขายสนีกเกอร์มือสองได้ถึง 1 ล้านหยวน โดยแหล่งข่าวรายนี้ยังระบุอีกว่า อัตรากำไรเฉลี่ยในการซื้อขายแต่ละครั้งอยู่ในระดับเลข 1-2 หลัก แต่บางครั้งอาจสูงได้ถึง 400% เนื่องจากมีนักสะสมหน้าใหม่และนักเก็งกำไรเข้ามาในตลาดจำนวนมาก

ความร้อนแรงนี้ทำให้กลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางของจีนต้องส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังสถาบันการเงินแต่ละแห่งให้จับตาดูการหมุนเวียนของเม็ดเงินและการให้สินเชื่อที่เกี่ยวกับการซื้อขายสนีกเกอร์มือสองอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหายหากเกิดฟองสบู่แตก


เรื่องนี้นอกจากจะสะท้อนถึงการเติบโตของตลาดสนีกเกอร์มือสองแล้ว ยังส่งสัญญาณเตือนไปยังสถาบันการเงินและนักเก็งกำไรในหลายประเทศถึงสภาพฟองสบู่ของตลาดสนีกเกอร์มือสองอีกด้วย