นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันทีวีที่สูงขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้บริษัทต้องปรับตัวเองต่อเนื่อง โดยทิศทางธุรกิจจากนี้จะเน้นการครอสคอนเทนต์เข้าไปในทุกแพลตฟอร์มทั้งฟรีทีวี จอคอมพิวเตอร์ โมบาย เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่
“ด้วยเทคโนโลยีที่ขยายตัวขึ้นและเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคไป ทำให้หลายๆธุรกิจถูกดิสรัปชั่น ขณะที่โมโนเลือกที่จะดิสรัปต์ตัวเองก่อน ด้วยการส่งคอนเทนต์เข้าไปในทุกแพลตฟอร์มทุกจอ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
สำหรับโมโนเทคโนโลยีฯ แบ่งธุรกิจเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ ทีวี ที่มีสัดส่วนรายได้สูงถึง 80% ของรายได้รวมบริษัท ซึ่งทิศทางจากนี้จะให้น้ำหนักกับรายได้ก้อนนี้มากขึ้น โดยปี 2563 เตรียมปรับขึ้นราคาโฆษณายกช่องเฉลี่ย 80-100% จากเดิม ทำให้ราคาโฆษณาเฉลี่ยทั้งช่องในปี 2563 จะเพิ่มเป็น 80,000 บาทต่อนาที จากปัจจุบันอยู่ที่ 35,000 บาทต่อนาที ซึ่งจะทำให้รายได้จากธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นด้วย
นายปฐมพงศ์บอกว่า หลังคืนช่องทีวี ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญของบริษัท เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา ช่องโมโน29 ก็พิสูจน์แล้วว่า เราไม่ได้มาเล่นๆ เพราะเรตติ้งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 2 ปี ขณะที่จากนี้ก็จะเติมคอนเทนต์ทั้งไทยและต่างประเทศให้เข้มข้นขึ้น เพื่อเพิ่มเรตติ้งต่อ
ธุรกิจที่ 2 คือ วิดีโอออนดีมานด์ “โมโนแม็กซ์” จะใช้งบลงทุนอีก 1,000-1,500 ล้านบาทสำหรับซื้อคอนเทนต์ เพื่อออกอากาศทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงร่วมกับพันธมิตรในไทยและต่างประเทศผลิตคอนเทนต์ด้วย เพื่อขยายฐานสมาชิก คาดว่าปีนี้จะมีสมาชิก 50,000 ราย และอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะขยับเป็น 200,000 ราย
ส่วนธุรกิจที่ 3 คือ ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต 3BB จะเดินหน้าบริการทีวีผ่านอินเตอร์เน็ต (Iptv) ต่อ ตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มฐานสมาชิกเป็น 1.5 ล้านราย ต่อด้วยธุรกิจที่ 4 อีเวนต์ โดยปี 2563 ก็จะจัดอีเวนต์ต่อเนื่อง คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 15 งาน และสุดท้ายการผลิตคอนเทนต์ จะผลิตคอนเทนต์ไทยต่อเนื่อง เพื่ออกอากาศในทุกช่อง แบ่งเป็นภาพยนตร์ 12 เรื่อง ละคร ซีรี่ย์อีก 6 เรื่อง
นายปฐมพงศ์ตั้งเป้าหมายว่า ด้วยแนวทางที่วางไว้ จะผลักดันให้อีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทจะมีรายได้รวมแตะ 5,000 ล้านบาท จากปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวม 3,500 ล้านบาท
