“สปอร์ตมอลล์” ซุ่มทดสอบสแตนอโลนไซส์เล็ก หวังเจาะย่านชานเมือง

นางสาววิภา อัมพุช ผู้จัดการใหญ่ Specialty Retail Development บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ตลาดสินค้ากีฬามีแนวโน้มเติบโตประมาณ 6% เป็น 3.18 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติที่ 10% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อ อย่างไรก็ตามคาดว่าปี 2563 จะมีดีมานด์สูงขึ้นจนผลักดันให้กลับมาเติบโตได้ถึง 10% สะท้อนจากการเพิ่มกำลังผลิตล่วงหน้าของหลายแบรนด์ รวมกับปัจจัยบวกอีกหลายด้าน อาทิ การขยายฐานลูกค้าของแบรนด์ต่างๆ และเทรนด์สุขภาพที่แรงขึ้นต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันสภาพตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะความหลากหลายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นทั้งเชิงพื้นที่อยู่อาศัย, อายุ, เพศ, ไลฟสไตล์ ฯลฯ หลังความตื่นตัวด้านสุขภาพทำให้คนทุกกลุ่มหันมาสนใจการออกกำลังกาย-เล่นกีฬา

เพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลง และสร้างความได้เปรียบ รวมถึงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาด ตั้งแต่เดือนพ.ย.นี้ได้เริ่มแผนปรับโฉมร้านและกลยุทธ์การตลาดของสปอร์ตมอลล์ (Sport mall) ใหม่ทั้งหมด และหนึ่งในไฮไลท์คือ “โมเดลสแตนอโลน” สำหรับรุกชิงดีมานด์ลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ ที่เครือเดอะมอลล์ยังไม่มีสาขา

โดยนายสุนทร สุรีย์เหลืองขจร ผู้จัดการทั่วไปบริหารสินค้าสปอร์ตมอลล์ อธิบายว่า โมเดลสแตนอโลน นี้มีจะพื้นที่ร้านประมาณ 1,000 ตร.ม. หรือแค่ 1 ใน 3 ถึง 1 ใน 5 ของสาขาปกติที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการหาทำเลย่านชุมชน ส่วนไลน์อัพสินค้าจะเน้นรุ่นที่เป็นสปอร์ตแฟชั่นอย่าง สนีกเกอร์รุ่นเอ๊กคลูซีฟ, เสื้อยืด, กระเป๋าเป้, หมวก ฯลฯ รวมถึงเพิ่มแอคเซสซอรี่และสินค้าไลฟ์สไตล์ต่างๆ อาทิ อุปกรณ์ทำความสะอาดรองเท้า, กล่องเก็บรองเท้า, ชุดดูแลผมและหนวดเครา จากหลากหลายแบรนด์ เช่น ACBA, Another sport story, Selektiv, le coq sportif และอื่นๆ

ซึ่งขณะนี้ได้ทดลองโมเดลนี้ในชื่อ #SNEAKER OFFICE ด้วยรูปแบบช้อปอินช้อปขนาด 170 ตร.ม.ที่สปอร์ตมอลล์สาขาสยามพารากอน พร้อมหาทำเลสำหรับขยายสาขาในพื้นที่กทม.ซึ่งยังมีช่องว่างอีกมาก เช่นย่านบางใหญ่ ทั้งนี้อาจจะเปิดบริการภายในปี 2563-2565
“ปัจจุบันลูกค้าที่ต้องการสินค้ากีฬากระจายตัวอยู่ในทุกพื้นที่ ดังนั้นจึงต้องนำร้านค้าเข้าไปหาลูกค้า”