สตรีตฟู้ด 2.7 แสนล้านโตแรง CRG พ่วงร้านดังส่งถึงบ้าน

ตลาดร้านอาหารสตรีตฟู้ด 2.7 แสนล้านมาแรง “ซีอาร์จี” เล็งผุดโซลูชั่น “คลาวด์คิทเช่น” รวมศูนย์ครัวร้านดังทุกพื้นที่ ทั้งโจ๊กกองปราบ หมูทอดประมวลไว้ที่เดียว สั่งง่ายผ่านแอป “ฟู้ด ฮันต์” รับเทรนด์ดีลิเวอรี่ พร้อมผุดแบรนด์ร้านตามสั่ง “อร่อยดี” บุกตลาด พร้อมเดินหน้าขยายสาขาทั่วประเทศ ตั้งเป้า 3 ปีเปิด 300 สาขา

นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลเรสเตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี ผู้ให้บริการธุรกิจร้านอาหารเครือข่าย (food chain industry) ทั้ง 12 แบรนด์ เช่น เคเอฟซี มิสเตอร์โดนัท เปปเปอร์ลันช์ อร่อยดี เป็นต้น กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจร้านอาหารสตรีตฟู้ดในไทยมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี หรือมีมูลค่าประมาณ 2.7 แสนล้านบาท เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการรับประทานอาหารที่เข้าถึงง่าย สะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากตลาดดีลิเวอรี่ที่เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% ต่อปี และถือเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจร้านอาหารสตรีตฟู้ด และธุรกิจบริการจัดส่งร้านอาหารมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม กระแสดีลิเวอรี่ยังได้เข้ามาดิสรัปต์กลุ่มธุรกิจร้านอาหารรายใหญ่ ๆ แล้ว ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวพัฒนาช่องทางจำหน่ายดีลิเวอรี่มากขึ้น และต้องคำนึงถึงต้นทุนในการขยายสาขาในพื้นที่ที่ทราฟฟิกต่ำ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเมนูอาหารให้สอดรับกับการส่งดีลิเวอรี่ จากแนวทางดังกล่าว ส่งผลให้ซีอาร์จีมองเห็นโอกาสในการรุกตลาดอาหารกลุ่มสตรีตฟู้ด โดยมีแผนพัฒนาครัวกลางฟอร์แมต “คลาวด์คิทเช่น” (Cloud Kitchen) โดยจะรวบรวมเมนูทั้งของร้านอร่อยดี และร้านอาหารแบรนด์ดังของผู้ประกอบการรายย่อย

อื่น ๆ อีกกว่า 10 แบรนด์ เช่น โจ๊กกองปราบ, หมูทอดประมวล เข้ามาอยู่รวมกัน และผู้บริโภคสามารถสั่งอาหารทั้งหมดผ่านแอปพลิเคชั่น “ฟู้ด ฮันต์” (Food Hunt) ที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ผู้บริโภคแบบวันสต็อปเซอร์วิส ทั้งด้านความหลากหลาย ความสะดวกสบาย และข้อจำกัดด้านเวลา

“หลังจากที่สร้างฟอร์แมต คลาวด์คิทเช่นแล้ว เป้าหมายต่อไป จะต่อยอดไปเป็นโมเดล “ไฮบริดคิทเช่น” ผ่านช่องทางจำหน่าย 4 รูปแบบ ได้แก่ สั่งอาหารนั่งทานที่ร้าน สั่งซื้อกลับบ้าน หรือสั่งล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์แล้วมารับเองที่หน้าร้าน และดีลิเวอรี่ ซึ่งปัจจุบันช่องทางดีลิเวอรี่ของทุก ๆ แบรนด์ในเครือซีอาร์จี (ยกเว้นเคเอฟซี) มียอดขายประมาณ 300 ล้านบาท แบ่งเป็น โทร.สั่ง 30% และสั่งผ่านแอปพลิเคชั่น 70%”

ขณะเดียวกันก็ได้ปั้นแบรนด์ร้านอาหารตามสั่ง “อร่อยดี” ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 แบรนด์ ที่บริษัทได้พัฒนาขึ้น ได้แก่ ไทยเทอเรส, อร่อยดี, สุกี้เฮ้าส์, ซอฟแอร์ และเกาลูน แบรนด์ใหม่ซึ่งจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้

สำหรับ “อร่อยดี” ชูคอนเซ็ปต์ “อร่อยดี ตามสั่งจานเด็ด” เป็นร้านอาหารที่นำเสนอเมนูอาหารที่หลากหลาย เช่น เมนูกะเพรา วางราคาเริ่มต้น 69 บาท โดยทดลองมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจของแบรนด์อร่อยดีจากนี้ไป จะเน้นขยายสาขาหลายรูปแบบ ทั้งลงทุนเองและขายแฟรนไชส์ คาดว่าจะเริ่มได้ต้นปี”63 อีกทั้งยังจับมือพันธมิตรเปิดร้านในทำเลต่าง ๆ ให้ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล เช่น สถานีบริการน้ำมัน, ธุรกิจค้าส่ง, คอนวีเนียนสโตร์ และสำนักงานออฟฟิศ เป็นต้น เพื่อขยายฐานผู้บริโภคให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์

ทั้งนี้ ปัจจุบันอร่อยดีมี 12 สาขา และสิ้นปีจะมี 15 สาขา โดยตั้งเป้าหมายว่าอีก 3 ปีจากนี้จะเปิดให้ครบ 300 สาขา และคาดว่าแบรนด์อร่อยดีจะสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 2,000 ล้านบาท