ยาวได้อีก…ผ่อน 41 เดือน ซิงเกอร์ ปลุกแรงซื้อรากหญ้า

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

10 เดือนของปีงบประมาณ 2560 (เดือนตุลาคม 2559-ตุลาคม 2560) คลังจัดเก็บรายได้ต่ำกว่า 3.1% ผลจากการบริโภคยังกระจุกตัวอยู่ในเฉพาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ขนส่ง โรงแรมและร้านอาหารเท่านั้น ขณะที่การบริโภคในกลุ่มอื่น ๆ ที่ต้องพึ่งพิงกำลังซื้อภายในประเทศยังทรงตัวสะท้อนจากกำลังซื้อภายในประเทศที่ไม่เติบโต ราชาเงินผ่อน “ซิงเกอร์” ซึ่งมีฐานลูกค้าหลักเป็นคนต่างจังหวัด สะท้อนภาพกำลังซื้อในประเทศที่ยังคงมีปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวที่ได้ขยับตัวครั้งใหม่อีกครั้งเพื่อพลิกฟื้นกำลังซื้อ

“ประสงค์ แข็งกิจ” ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ซิงเกอร์ ไทยแลนด์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเช่า-ซื้อ กล่าวว่า แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวมจะไม่เติบโต แต่บริษัทยังสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสนใจซื้อสินค้าเงินผ่อนเพิ่มขึ้นที่ยังมีต่อเนื่อง โดยธุรกิจได้ปรับตัวให้สอดรับความต้องการที่เกิดขึ้น ด้วยการยืดระยะเวลาการผ่อนสินค้าให้ยาวขึ้น จากเดิมระยะเวลาผ่อนสูงสุดอยู่ที่ 31 เดือน เป็น 39-41 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อให้ยอดการผ่อนต่องวดลดลงแต่ระยะเวลาผ่อนต่อเดือนเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันจะสร้างโอกาสทางการขายให้เพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มีระดับราคา 30,000 บาท เช่น กลุ่มตู้แช่เครื่องดื่ม เป็นต้น เพราะดาวน์ต่ำและผ่อนน้อย ผ่อนยาวขึ้น ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้กลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมในการผ่อนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือออนไลน์ ตู้แช่ และตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญ ปัจจุบันแบ่งสินค้า 4 กลุ่มได้แก่ ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ เช่น ตู้แช่แข็ง ตู้แช่เครื่องดื่ม ตู้แช่ไวน์ ตู้แช่เบียร์ ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือออนไลน์ ตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญ เป็นต้น ผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มครัวเรือน เช่น จักรเย็บผ้า โทรทัศน์ ตู้เย็น เป็นต้น กลุ่มโมบายและสินค้าฝากขายจากแบรนด์อื่น ๆ

นอกจากนี้ เดินหน้าขยายการขายสินค้าให้กับโครงการประชารัฐมากขึ้น หลังหมู่บ้านในโครงการประชารัฐเริ่มจะได้รับเงินสนับสนุนเพื่อซื้อสินค้าไปอำนวยความสะดวกคนในหมู่บ้าน คาดว่าจะทำให้ยอดขายสินค้าประเภทตู้เติมน้ำมัน ตู้หยอดเหรียญเครื่องซักผ้า และตู้เติมเงิน ขยายตัวมากขึ้น

“ประสงค์” กล่าวต่อว่า ซิงเกอร์ถือเป็นบริษัทเช่าซื้อที่ใหญ่ที่สุดในไทย ซึ่งฐานลูกค้าหลัก คือ คนต่างจังหวัด

ดังนั้นแนวทางการสื่อสารหลัก ๆ จะเน้นการสื่อสารผ่านพนักงานขาย ปัจจุบันมีพนักงานขาย 15,000 คน มีร้านค้าเครือข่าย 186 สาขา และร้านสาขาย่อยอีกเกือบ 300 ร้านกระจายอยู่ตามชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งข้อดี คือ สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงและกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้ทันที ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ซิงเกอร์ประสบความสำเร็จ

สำหรับภาพรวมธุรกิจอีก 2-3 เดือนหลังจากนี้ คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างพนักงานขาย ด้วยการแยกงาน ทำให้พนักงานขายสามารถขายสินค้าได้อย่างเต็มที่ โดยให้พนักงานขาย ทำหน้าที่ขายสินค้าอย่างเดียว และเปลี่ยนให้ลูกค้าชำระเงินผ่าน เซเว่นอีเลฟเว่น, ธนาคาร, ออนไลน์บนมือถือ, ตู้เติมเงินของซิงเกอร์แทน จากเดิมที่พนักงานขาย 1 คนทำหน้าที่ทั้งขายสินค้าและเก็บเงิน

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่า แนวทางที่วางไว้จะทำให้บริษัทมีการเติบโต 2 หลักตามแผนที่วางไว้ เมื่อเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคลดลง จากปัญหาเศรษฐกิจ การซื้อสินค้าเงินผ่อน ก็ได้รับความนิยมขึ้น ขณะที่ราชาเงินผ่อนอย่าง ซิงเกอร์ ก็ขยับไว เพื่อสร้างโอกาสทางการขายใหม่ ๆ ท่ามกลางเศรษฐกิจไม่เอื้อ