ยังคงเดินหน้าเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” ที่มีธุรกิจในความดูแลหลายบียู (business units) ไม่ว่ากูร์เมต์ มาร์เก็ต, เพาเวอร์ มอลล์, สปอร์ต มอลล์ และบีเทรนด์
ล่าสุดแต่ละบียูล้วนมีความเคลื่อนไหวในการขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น ด้วยการทลายข้อจำกัดของเดอะมอลล์ที่มีสาขาน้อย และแต่ละบียูไม่สามารถสปีดการขยายสาขาได้ด้วยกลยุทธ์ที่เปิดกว้างและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ด้วยการจับมือกับพันธมิตรเจ้าของพื้นที่ขนานใหญ่ และนำบียูที่มีศักยภาพออกไปเติมเต็มและเสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน เป็นโมเดลใหม่ในการสร้างการเติบโตจากนอกห้าง โดยที่ไม่ต้องรอการเปิดสาขาของเดอะมอลล์เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
“ชัยรัตน์ เพชรดากูล” ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกัน ก็เป็นตลาดที่การแข่งขันสูงโดยเฉพาะการแข่งในเรื่องของราคาและความหลากหลายของสินค้า โดยหากสังเกตจะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ได้ขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
- WorkVenture เปิดอันดับพนักงานบริษัท Top 50 จบจากที่ไหนมากที่สุด
สำหรับกูร์เมต์ มาร์เก็ต ที่ผ่านมาเน้นการเปิดในศูนย์การค้าเดอะมอลล์เท่านั้น แต่ด้วยข้อจำกัดในแง่ของเดอะมอลล์ที่มีสาขาไม่มากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง จึงต้องปรับตัวเพื่อรับการแข่งขันและสร้างการเติบโตในอนาคตด้วยการนำกูร์เมต์ มาร์เก็ตไปเปิดพื้นที่ของพันธมิตร อาทิ ดีไซน์ วิลเลจ พุทธมณฑลสาย 2 (กูร์เมต์ ซูเปอร์มาร์เก็ต) บนพื้นที่ 2,700 ตารางเมตร เปิดเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา, พีเพิล พาร์ค อ่อนนุช ในฟอร์แมต (กูร์เมต์ ซูเปอร์มาร์เก็ต) บนพื้นที่ 1,600 ตารางเมตร และ 3 โครงการ I”m Chinatown เยาวราช (กูร์เมต์ ไทย) ขนาดพื้นที่ 140 ตารางเมตร ตกแต่งในคอนเซ็ปต์ไทยวินเทจ ชูจุดเด่นคือมีสินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยม สินค้าโอท็อป เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังได้เปิดกูร์เมต์ ทูโก ที่เป็นคอนวีเนี่ยนฟู้ด สถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว และในอนาคตจะเริ่มขยายไปในโรงพยาบาลและอาคารสำนักงาน หรือแหล่งชุมชนขนาดใหญ่
พร้อมกันนี้ ยังเตรียมงบฯลงทุนไว้ 300-400 ล้านบาท เพื่อขยายสาขากูร์เมต์ มาร์เก็ตทั้ง 3 ฟอร์แมต นอกห้างเดอะมอลล์ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯอย่างน้อยปีละ 5 สาขา โดยในปี 2563 มีพื้นที่อยู่ระหว่างตกลงเซ็นสัญญาแล้ว 3 แห่ง ส่วนอีก 2 แห่งอยู่ระหว่างหาทำเลที่เหมาะสม
สิ้นปีนี้กูร์เมต์ มาร์เก็ตจะมี 16 สาขา เป็นสาขาในเดอะมอลล์ 10 สาขา และนอกเดอะมอลล์ 6 สาขา ได้แก่ เทอร์มินอล 21, เดอะ พรอมานาด, ซีดีซี, MRT ลาดพร้าว, ดีไซน์ วิลเลจ พุทธมณฑลสาย 2 และพีเพิล พาร์ค อ่อนนุช ไปในทิศทางเดียวกับ “สปอร์ตมอลล์” ร้านสินค้ากีฬาของเดอะมอลล์ ซึ่ง “สุนทร สุรีย์เหลืองขจร” ผู้จัดการทั่วไปบริหารสินค้าสปอร์ตมอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า มีแผนนำร้านสปอร์ตมอลล์ออกไปโตนอกห้างภายใน 1-3 ปีนี้เช่นกัน โดยสาขาดังกล่าวจะมีพื้นที่ขนาดเล็กเพียง 1,000 ตร.ม. หรือเพียง 1 ใน 5 ของสาขาในห้างสรรพสินค้า เพื่อความคล่องตัวในการหาทำเลและการลงทุน พร้อมไลน์อัพสินค้าที่คัดมาให้เข้ากับดีมานด์ลูกค้าในพื้นที่นั้น ๆ ปัจจุบันได้เลือกทำเลไว้แล้ว สาขาแรกจะเป็นย่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ที่เป็นช่องว่างของเครือเดอะมอลล์
“ปัจจุบันเทรนด์การดูแลรักษาสุขภาพทำให้ผู้บริโภคในหลากหลายพื้นที่หันมาให้ความสนใจออกกำลังกายและเล่นกีฬามากขึ้น เราจึงต้องนำร้านค้าเข้าไปหาลูกค้าแทนที่จะเป็นฝ่ายรอให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาเรา”
โดยก่อนหน้านี้ “เพาเวอร์ มอลล์” อีกหนึ่งบียูของเดอะมอลล์ก็มีความเคลื่อนไหวดังกล่าว และถือเป็นบียูแรกของเดอะมอลล์ที่เป็นหัวหอกในเรื่องนี้ โดยออกไปเปิดสาขานอกห้างเครือเดอะมอลล์ด้วยการจับมือกับ “เอสบี เฟอร์นิเจอร์ กรุ๊ป” เปิดร้านเพาเวอร์ มอลล์ในพื้นที่ของเอสบีดีไซน์สแควร์ สาขาเดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ เมื่อปี 2560 บนพื้นที่ 1,200 ตารางเมตร ด้วยงบฯลงทุน 40-50 ล้านบาท
ล่าสุด “จักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล” Chief Business Officer-Specialty Business บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด อธิบายว่า การขยายสาขาของเพาเวอร์ มอลล์นอกสาขาเดอะ มอลล์ กลยุทธ์หลักจะเน้นจับมือกับผู้ประกอบการที่มีแนวธุรกิจและลูกค้าใกล้เคียงกันเพื่อเสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน ขณะเดียวกัน ก็จะมีการทำแคมเปญการตลาดร่วมกันเป็นระยะ ๆเช่น รับส่วนลดซื้อเฟอร์นิเจอร์เมื่อซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเช่นเดียวกับไลน์อัพสินค้าที่เน้นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับบนและไซซ์ใหญ่ทั้งทีวีจอ 50 นิ้วขึ้นไป, ตู้เย็นขนาดใหญ่, เครื่องซักผ้าฝาหน้าไซซ์ใหญ่ และเครื่องครัวขนาดเล็กที่เน้นจุดขายด้านดีไซน์ ซึ่งสอดคล้องกับฐานลูกค้าของเอสบีฯสาขานี้ซึ่งเป็นครอบครัวระดับบน-ไฮเอนด์ เพื่อสร้างจุดขายโซลูชั่นแต่งบ้านแบบครบวงจรทั้งเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
“ส่วนสาขานอกห้างแห่งที่ 2 ของเพาเวอร์ มอลล์ อาจจะยังต้องใช้เวลาเลือกทำเลและพันธมิตรที่มีฐานลูกค้าสอดคล้องกัน ช่วงนี้จึงขอโฟกัสกับสาขาแรกนี้ก่อน” นายจักรกฤษณ์กล่าว
เชื่อว่าปีหน้าทั้ง 3 บียู ซึ่งทำรายได้ให้กลุ่มในอันดับต้น ๆ ของเดอะมอลล์ จะเพิ่มความเข้มข้นในการสร้างการเติบโตนอกห้างมากยิ่งขึ้น
