A&W ทุ่มเปิดโมเดลไซซ์เล็ก ผนึกเซเว่นฯเจาะคนรุ่นใหม่

“เอแอนด์ดับบลิว” ปรับกระบวนผนึกร้านเซเว่นฯ ทดลองโมเดลสาขาไซซ์เล็ก “ช็อปอินช็อป” ขนเมนูดั้งเดิม “รูตเบียร์-วาฟเฟิล” รับพฤติกรรมรีบเร่ง โดดลุยฟู้ดดีลิเวอรี่มัดใจคนรุ่นใหม่ พร้อมเร่งปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ เตรียมเปิดอีก 15 สาขา ตั้งเป้าสร้างยอดขายรวมในปี 2563 เติบโต 20-25% เผยตัดใจปิด 3 สาขาในสถานีรถไฟใต้ติน

นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON ผู้รับสิทธิ์บริหารร้าน A&W ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดร้านอาหารคิวเอสอาร์ (Quick Service Res-taurant) มีแนวโน้มการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง และตลาดมีการแข่งขันสูงจากผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ จำนวนร้านที่เพิ่มขึ้นทั้งในแง่ของการเพิ่มเมนูใหม่ การทำโปรโมชั่นในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อดึงลูกค้า และเนื่องจากเอแอนด์ดับบลิวเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมานาน ลูกค้าส่วนใหญ่จะมีอายุ 35 ปีขึ้นไป จึงมีแผนจะปรับภาพลักษณ์แบรนด์ A&W ให้ทันสมัยและสอดรับกับความต้องการของคนรุ่นใหม่มากขึ้น

ล่าสุดเอแอนด์ดับบลิวได้ปรับกลยุทธ์รูปแบบการบริการ รวมถึงโมเดลร้านด้วยการเปิดตัวร้านรูปแบบใหม่ “ช็อปอินช็อป” เป็นร้านไซซ์เล็ก ขนาด 8-9 ตร.ม. ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขานวมินทร์ ซอย 3 (ABAC บางนา) เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ โดยมีการนำเมนูดั้งเดิมของร้าน เช่น รูตเบียร์ วาฟเฟิล เคอลี่ฟลายส์ ไก่ทอด และเมนูใหม่ ๆ

จากนี้ไปมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 10-15 สาขา เน้นสาขาใกล้สถานศึกษา สำนักงาน ในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงการเปิดสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพ มีการจับมือกับพันธมิตรในทุก ๆ รูปแบบ ทั้งสถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า และคอมมิวนิตี้มอลล์ มีแผนจะขยายสาขาตามหัวเมืองหลัก อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น ปัจจุบันร้าน A&W มีประมาณ 25 สาขา แบ่งเป็นร้านในปั๊มน้ำมัน 50% และที่เหลืออยู่ในศูนย์การค้า

“การนำร้านขนาดเล็ก ๆ เข้าไปเปิดตามห้างหรือศูนย์การค้า อาจจะได้พื้นที่หรือทำเลที่ไม่เหมาะสม และอาจทำให้ไม่คุ้มกับค่าเช่า เราจึงต้องมองหาโมเดลใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ ที่สำคัญค่าเช่าพื้นที่ในร้านเซเว่นฯจะไม่แพงเหมือนกับห้างหรือศูนย์การค้า”

นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดบริการดีลิเวอรี่ในพื้นที่ 5-8 กม.จากที่ตั้งสาขาผ่านแพลตฟอร์มแกร็บฟู้ด เป็นการเพิ่มพื้นที่ให้การบริการและรายได้ ควบคู่กับการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ จากปัจจุบันที่มีรายได้จากช่องทางดีลิเวอรี่ประมาณ 10% ของยอดขายรวม และขณะนี้ได้เร่งพัฒนาระบบโอเปอเรชั่นต่าง ๆ เพื่อให้บริการกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับภาพรวมธุรกิจของ A&W มีรายได้รวม 9 เดือนประมาณ 150 ล้านบาท ลดลง 15% เนื่องจากที่ผ่านมาได้ปิดสาขาที่มีรายได้น้อยและไม่ทำกำไรประมาณ 13 สาขา หนึ่งในนั้นเป็นโมเดล A&W express ที่เปิดในพื้นที่ค้าปลีกเมโทรมอลล์ รถไฟฟ้าใต้ดิน 3 สาขา ได้แก่ สุขุมวิท พระราม 9 เพชรบุรี ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2561 เนื่องจากมีรายได้น้อยและไม่ทำกำไร รถไฟฟ้าใต้ดิน แม้ในแง่ทราฟฟิกในแต่ละวันจะมีเป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาอย่างหนึ่งก็คือ คนส่วนใหญ่จะรีบเร่งและไม่หยุดแวะซื้อของในร้าน

ขณะเดียวกัน ต้้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายสาขาเพิ่ม โดยเน้นเปิดตามสถานีบริการน้ำมันเป็นหลัก และมีรายได้เฉลี่ยต่อสาขาไม่น้อย และมีบางสาขาอาจจะขาดทุนเล็กน้อย แต่ก็ยังปรับตัวได้เนื่องจากมีกลยุทธ์การตลาดในเรื่องการปรับต้นทุน และปรับค่าใช้จ่ายส่วนต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นออก

“จากแนวทางต่าง ๆ ดังกล่าว คาดว่าจะช่วยให้ยอดขายของสาขาเดิมจะเติบโตประมาณ 5% และจะส่งผลให้รายได้รวมของ A&W ในสิ้นปี 2563 เติบโตขึ้น 20-25%” นายเชิดศักดิ์กล่าว