“อ๊อตเทริ” สปีดรุกร้านตลาดสะดวกซัก ผนึกยักษ์ค้าปลีก เซเว่นอีเลฟเว่น-เทสโก้ โลตัส ปูพรมสาขาแฟรนไชส์ เจรจาดีเวลอปเปอร์เปิดสาขาในโครงการ พร้อมเพิ่มน้ำหนักธุรกิจโซลูชั่นร้านสะดวกซัก เล็งใช้ปั๊มน้ำมันเป็นหัวหอกบุกต่างจังหวัด ตั้งเป้าสิ้นปีสาขาทะลุ 250 แห่ง กวาดรายได้นิ่ม ๆ เฉียด ๆ 500 ล้าน
นายกวิน นิทัศนจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค-เน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารเชนร้านสะดวกซัก “อ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย” (Otteri wash and dry) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากแนวโน้มของธุรกิจร้านสะดวกซักที่ยังเติบโตต่อเนื่อง ปี 2563 นี้ บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 250 สาขา เป็นแฟรนไชส์ประมาณ 80% และลงทุนเอง 20% จากปี 2562 ที่มีประมาณ 200 สาขา โดยใช้จุดแข็งของระบบแฟรนไชส์และการบริการที่มีความพร้อม ด้วยการมุ่งขยายสาขาเข้าไปในค้าปลีกไฮเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ นอกจากนี้ ยังมีการเจรจากับบริษัทพัฒนาอสังหาทรัพย์เพื่อเข้าไปเปิดสาขาในโครงการด้วย
ล่าสุดมีแผนจะเปิดให้บริการในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นอีก 3 สาขา ภายในเดือนมกราคมนี้ จากเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ได้เริ่มทดลองเปิดสาขาในเซเว่นอีเลฟเว่น ย่านปิ่นเกล้า
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
(ใกล้ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี) นอกจากนี้ เตรียมจะเปิดสาขาในเทสโก้ โลตัส ทั้งโมเดลที่เป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตและเอ็กซ์เพรส, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ด้วยรูปแบบของการเช่าพื้นที่ ซึ่งบางแห่งอาจจะเปิดให้บริการภายในศูนย์ หรือเปิดให้บริการในบริเวณพื้นที่ด้านนอกศูนย์ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของทำเลในแต่ละสาขา
สำหรับการลงทุนเบื้องต้นสำหรับร้านแฟรนไชส์ แบ่งเป็นร้านไซซ์ M พื้นที่ 40-60 ตร.ม. (ติดตั้งเครื่องได้ 5-6 เครื่อง) และ L พื้นที่ 60 ตร.ม.ขึ้นไป (ติดตั้งเครื่องได้ประมาณ 10-12 เครื่อง) ใช้งบฯลงทุน 2.2 และ 3 ล้านบาท ตามลำดับ แบ่งชำระ 3 ปี ค่ารอยัลตี้ฟี ตั้งแต่ปีที่ 4 อีก 86,000 บาทต่อปี และ 110,000 บาทต่อปี ตามลำดับ ภายในร้านจะมีเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า เครื่องแลกเหรียญ และเครื่องขายน้ำยาซักผ้า รวมทั้งมีการวางระบบออนไลน์เพื่อตรวจสอบการทำงานของเครื่องและยอดขาย
นายกวินกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ บริษัทยังมองว่าสถานีบริการน้ำมันต่าง ๆ ก็เป็นทำเลที่มีศักยภาพสำหรับการรุกตลาดในต่างจังหวัด ซึ่งที่ผ่านมามีเจ้าของปั๊มน้ำมันหลายรายที่สนใจและติดต่อเข้ามาเช่นกัน และขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาโมเดลแฟรนไชส์ร้านขนาดใหญ่พิเศษ หรือประมาณ 200 ตร.ม.ขึ้นไป สามารถติดตั้งเครื่องซัก-อบผ้าได้ 40-50 เครื่อง ใช้งบฯลงทุน 5 ล้านบาท เพื่อรองรับดีมานด์ในบางพื้นที่ซึ่งผู้ใช้งานหลัก ๆ เป็นกลุ่มครอบครัว
นอกจากการขายแฟรนไชส์ร้านซักผ้าดังกล่าว จากนี้ไปบริษัทจะเร่งขยายธุรกิจขายโซลูชั่นร้านสะดวกซัก ซึ่งจะเป็นการขายเครื่องซัก-อบผ้าแบบขายขาด พร้อมออปชั่นเสริมด้านบริการต่าง ๆ เพื่อรองรับผู้ที่ต้องการเปิดร้านสะดวกซักอิสระในแบรนด์ของตนเอง วางเป้าการขายประมาณ 40-50 สาขา เฉลี่ยสาขาละ 10 เครื่อง จากปี 2562 มีเพียง 4-5 สาขา
“ที่ผ่านมาบริษัทโฟกัสการทำตลาดแฟรนไชส์อ๊อตเทริเป็นหลัก ทำให้ธุรกิจฝั่งนี้ไม่ทำรายได้มากนัก แต่ปัจจุบันอ๊อตเทริลงตัวแล้วจึงสามารถกลับมาเร่งทำตลาดเพื่อเพิ่มรายได้ในส่วนนี้”
นายกวินกล่าวด้วยว่า ปีนี้บริษัทจะใช้งบฯการตลาด 14 ล้านบาท เพื่อโปรโมตแฟรนไชส์และธุรกิจโซลูชั่น โดยเดินหน้าสร้างการรับรู้ผ่านออนไลน์-โซเชียลเน็ตเวิร์ก รวมถึงการอินฟลูเอนเซอร์ ก่อนจะเริ่มใช้บิลบอร์ดในช่วงไตรมาส 2 เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง พร้อมกับเดินหน้าจับมือพันธมิตรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ซักผ้าและธุรกิจอื่น ๆ อาทิ ไฮยีน (ไอ.พี.เทรดดิ้ง) คอมฟอร์ท (ยูนิลีเวอร์) เพื่อจัดกิจกรรมการตลาด-โปรโมชั่นร่วมกัน
“จากแนวทางการรุกตลาดดังกล่าว คาดว่าจะทำให้ปีนี้ บริษัทมีรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดด หรือมีรายได้รวมประมาณ 470 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2562 ที่มีรายได้ประมาณ 260 ล้านบาท” นายกวินกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน อ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย มีสาขาประมาณ 190-200 สาขา แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 74 สาขา ปริมณฑล 32 สาขา ภาคกลาง 6 สาขา ภาคตะวันออก 31 สาขา ภาคอีสาน 11 สาขา ภาคเหนือ 25 สาขา และภาคใต้ 13 สาขา
