ต้านความแรงบิวตี้รีเทลไม่ไหว “ลอรีอัล-เอลก้า” เปลี่ยนเกมชิงสนามรบใหม่

“เคาน์เตอร์แบรนด์” ปรับสูตรชิงกำลังซื้อ ยอมใจความแรง “ร้านมัลติแบรนด์โลคอล” ผุดช็อปอินช็อปแยกเปิดนอกห้าง “อีฟแอนด์บอย” เนื้อหอม “เอลก้า-ลอรีอัล” ยกทัพแบรนด์ในเครือ ปักหมุดชิงพื้นที่ขายใหม่ ขยายฐานลูกค้าวัยรุ่น เน้นกลุ่มราคาเข้าถึงง่าย-Best Seller พร้อมโปรโมชั่นสารพัดยั่วใจ

ที่ผ่านมา เครื่องสำอาง “เคาน์เตอร์แบรนด์” ล้วนมีช่องทางการขายผ่านห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเป็นหลัก เพื่อให้สอดคล้องไปกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่พรีเมี่ยม หรูหรา แต่เมื่อยุคสมัยและพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนไป โดยเฉพาะร้านค้าปลีกที่มีโมเดลใหม่ ๆ ขึ้นมารับกับความต้องการของนักช็อป ไม่เพียงร้านสเปเชียลตี้สโตร์ที่เน้นกลุ่มสินค้าความงามและสุขภาพ แต่ยังรวมถึงร้านเครื่องสำอางมัลติแบรนด์รูปแบบต่าง ๆ ไปจนถึงร้านค้าออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซ ทำให้ “เคาน์เตอร์แบรนด์” ต้องผันตัวมารุกช่องทาง นอกห้างและศูนย์การค้ามากขึ้น เพื่อที่จะไม่หลุดกระแสความสนใจของคนรุ่นใหม่ และสร้างโอกาสการขายเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

เทรนด์นักช็อปเปลี่ยน

แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการเครื่องสำอางฉายภาพเทรนด์ดังกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า พฤติกรรมนักช็อปปัจจุบันเปลี่ยนไป เปิดกว้างมากขึ้นสำหรับทดลองเครื่องสำอางแบรนด์ใหม่ ๆ ทำให้ตลาดเครื่องสำอางยังเติบโตต่อเนื่อง แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอการเติบโตลงก็ตาม ขณะเดียวกันช่องทางการซื้อสินค้าของนักช็อปดังกล่าวก็เปลี่ยนตามไปด้วย ชอบที่จะซื้อสินค้าจากร้านสุขภาพความงามมากขึ้น

“ร้านอีฟแอนด์บอย เป็นตัวอย่างที่เห็นภาพชัด ซึ่งได้รับความนิยมและมีแบรนด์เครื่องสำอางให้เลือกจำนวนมาก ตั้งแต่กลุ่มแมสไปจนถึงไฮเอนด์ จากเดิมที่ตัวเลือกของการช็อปเครื่องสำอางมีอยู่ในห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก ศูนย์การค้าและห้างต่างต้องการที่จะดึงเข้ามาเป็นแม่เหล็กดึงลูกค้า ขณะเดียวกับเคาน์เตอร์แบรนด์ก็เข้ามารุกช่องทางนี้มากขึ้น”

ลอรีอัล-เอลก้า ยกทัพบุก

ผู้บริหารระดับสูงขยายความว่า เมื่อช่องทางการซื้อสินค้าของผู้บริโภคเปลี่ยน ปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตลาด คือ เครื่องสำอางที่เคาน์เตอร์แบรนด์ ที่มีจุดขายอยู่ในศูนย์การค้าหลาย ๆ แบรนด์เริ่มเข้าไปเปิดช็อปในร้านค้าปลีกความงามเพิ่มขึ้น เนื่องจากจุดเด่นของร้านที่มีความหลากหลาย มีแบรนด์ให้เลือกจำนวนมาก ซึ่งตอบโจทย์พฤติกรรมนักช็อปกลุ่มนี้ โดยเข้าไปเปิดในรูปแบบเคาน์เตอร์ หรือช็อปอินช็อป (Shop In Shop) โดยมีผู้เล่นที่มาจาก 2 บริษัทหลักในตลาดดังกล่าว คือ เครือลอรีอัล และเครือเอลก้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันในช่องทางร้านอีฟแอนด์บอย มีผู้เล่นหลักที่มาจาก 2 ค่ายใหญ่ในตลาดเครื่องสำอาง คือ กลุ่มบริษัทลอรีอัล ผู้นำเข้าแบรนด์ ชูอุเอมุระ, ไบโอเธิร์ม, ลังโคม, เออเบิน

ดีเคย์ ฯลฯ และกลุ่มบริษัทเอลก้า ผู้นำเข้าแบรนด์เอสเต้ ลอเดอร์, แม็ค, คลีนิกข์ ฯลฯ ได้นำแบรนด์ในเครือเข้ามาเปิดในรูปแบบช็อปอินช็อป มีพนักงาน (BA) จากบริษัทประจำอยู่ ณ จุดขาย คอยให้คำแนะนำสินค้าและบริการโดยขณะนี้เคาน์เตอร์แบรนด์ต่าง ๆ ได้ทยอยเปิดเคาน์เตอร์แบบช็อปอินช็อปในสาขาหลัก เช่น สยามสแควร์วัน มีแบรนด์ที่เข้าไปเปิด อาทิ แม็ค, คลีนิกข์, บ๊อบบี้ บราวน์, เอสเต้ ลอเดอร์, ชูอุเอมูระ เป็นต้น ตลอดจนสาขาที่เพิ่งรีโนเวต และเปิดใหม่ เช่น เดอะมอลล์ บางกะปิ และขอนแก่น อาทิ เอสเต้ ลอเดอร์, คลีนิกข์, ไบโอเธิร์ม ฯลฯ พร้อมกับเตรียมนำแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง อาทิ ลังโคม ซีเค เบเนฟิต ฯลฯ

ดูดลูกค้าใหม่เพียบ

นายหิรัญ ตันมิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีฟแอนด์บอย จำกัด ผู้บริหารร้านความงามมัลติแบรนด์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เคาน์เตอร์แบรนด์ต้องการที่จะหาช่องทางใหม่ ๆ ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ ซึ่งช่องทางของร้านเองมีความแข็งแกร่งในกลุ่มของฐานลูกค้าวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ จากการมีวาไรตี้ของสินค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมเครื่องสำอางตั้งแต่กลุ่มแมส ไปจนถึงกลุ่มลักเซอรี่ ในราคาที่คุ้มค่า และมีการทำโปรโมชั่นหมุนเวียนอยู่ตลอด

โดยสินค้าที่เข้ามาจำหน่ายในอีฟแอนด์บอยก็จะเน้นไปที่กลุ่มขายดี เบสิก ที่มีระดับราคาเข้าถึงง่าย สีสันฉูดฉาด และเอ็กซ์คลูซีฟโปรดักต์ ขณะที่ไลน์อัพสินค้าที่ขายในห้างก็จะให้น้ำหนักกับสินค้ากลุ่มที่พรีเมี่ยม เน้นนวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ ๆ

เอ็กซ์คลูซีฟอีฟแอนด์บอย

นางสาววิลาสินี ภาณุรัตน์ ผู้จัดการทั่วไปผลิตภัณฑ์นิกซ์ โปรเฟสชั่นแนล เมคอัพ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ด้วยแนวโน้มที่เกิดขึ้น ทำให้นิกซ์ได้ขยายช่องทางขายเพิ่มขึ้น โดยเข้าไปเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ตเนอร์กับอีฟแอนด์บอย นำแบรนด์เข้าไปเปิดในลักษณะช็อปอินช็อปที่อีฟแอนด์บอยทุกสาขา ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค

“ผู้บริโภคอยู่ไหน เราก็จะขยายช่องทางขายไปตรงนั้น ตอนนี้ลูกค้านิยมซื้อเครื่องสำอางที่อีฟแอนด์บอย เราก็ต้องตามลูกค้าไป แต่ถ้าลูกค้าเปลี่ยนช่องทางช็อป เราก็ต้องเปลี่ยนตาม ปัจจุบันแบ่งช่องทางขาย 3 โมเดล ได้แก่ ร้านบูทีค ที่มีแบรนด์นิกซ์เพียงแบรนด์เดียว 8 สาขา และปีหน้าจะเปิดอีก 16 สาขา ตามด้วยช็อปอินช็อปเปิดทั้งในศูนย์การค้า และอีฟแอนด์บอยทุกสาขา และล่าสุดเปิด นิกซ์ แฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในเอเชีย ที่สยามสแควร์วัน”

นอกจากนี้ในแบรนด์อื่น ๆ ในเครือของลอรีอัล โดยเฉพาะกลุ่มลักเซอรี่ก็เตรียมที่จะขยายในช่องทางร้านอีฟแอนด์บอยเพิ่มเติมด้วย หลังจากกลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักต์ที่เป็นแมสแบรนด์ ทั้งเมย์เบลลีน ลอรีอัล การ์นิเย่ ได้เข้าไปจำหน่ายในอีฟแอนด์บอยหมดแล้ว ซึ่งนิกซ์ถือเป็นแบรนด์สุดท้ายที่เข้าไปเปิดช่องทางดังกล่าว