ไม่รอให้ถูกดิสรัปต์ “โออิชิ” จัดทัพรับเมกะเทรนด์

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกธุรกิจ “ดิสรัปชั่น” อาจเป็นวิกฤตสำหรับใครหลายคน แต่ไม่ใช่สำหรับองค์กรที่เตรียมพร้อม และมีการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์การแข่งขัน เทรนด์ของตลาด และความต้องการของผู้บริโภค

“โออิชิ” บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในองค์กรที่มองว่า ดิสรัปชั่น คือ โอกาสที่จะจัดทัพให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น พัฒนาศักยภาพที่มีอยู่ และหานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเข้าไปตอบโจทย์ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ดีขึ้นกว่าเดิม

“นงนุช บูรณะเศรษฐกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุถึงแนวทางการดำเนินงานของปีนี้ว่า นอกจาก 5 เสาหลักที่สอดคล้องไปกับไดเร็กชั่นของบริษัทแม่อย่างไทยเบฟ ซึ่งได้แก่ growth การสร้างการเติบโตโดยพัฒนานวัตกรรม เพิ่มแบรนด์พอร์ตโฟลิโอ diversity การมีความหลากหลายของสินค้า และตลาด brand การสร้างแบรนดิ้งที่แข็งแกร่ง เข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้บริโภค reach การกระจายสินค้า เพื่อเข้าไปในทุกที่ที่ลูกค้ามีความต้องการ และ professionalism ความเป็นมืออาชีพของบุคลากร เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างเต็มที่

“โออิชิ” ยังมองไปถึง 3 เมกะเทรนด์ ที่จะมาช่วยเสริมให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ไม่หวั่นการถูกดิสรัปต์ ทั้งกลุ่มเครื่องดื่ม ร้านอาหาร และอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวจะกลายเป็นโจทย์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในปีนี้ และปีต่อ ๆ ไปด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น “health & wellness” การให้ความสำคัญด้านสุขภาพและสุขอนามัยของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาสูตรอาหารและเครื่องดื่ม

เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ใส่ใจกับสุขภาพ “sustainability” ความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการลดความสูญเสียของอาหาร การให้ข้อมูลผ่านฉลากโภชนาการ การลดการใช้ การนำกลับมาใช้ซ้ำ และการนำกลับมาใช้ใหม่ “digital adoption” การปรับตัวรับเทคโนโลยีและดิจิทัล เช่น การสร้างแพลตฟอร์มลอยัลตี้โปรแกรมของตัวเองขึ้นมา การพัฒนาแอปพลิเคชั่นสั่งอาหาร การพัฒนาระบบที่รองรับการจ่ายเงินแบบไร้เงินสด ฯลฯ

“ต้องยอมรับว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การดำเนินธุรกิจถูก disrupt จากการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ผู้บริโภคให้ความสำคัญด้านสุขภาพ ความสะดวกสบาย ความพรีเมี่ยม ทั้งยังตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงเป็นความท้าทายของโออิชิ กรุ๊ป ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น ที่จะต้องก้าวตามให้ทัน พร้อมพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ให้สอดรับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค”

สำหรับกลุ่มเครื่องดื่ม “เจษฎากร โคชส์” รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่ง ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดชาเขียว ผ่านการขยายฐานผู้ดื่ม โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น ผ่านแพลตฟอร์มเกมอย่าง ROV ตลอดจนการเข้าไปเพิ่มฐานลูกค้าพรีเมี่ยม เพื่อรับกับเทรนด์สุขภาพ โดยล่าสุดได้เปิดตัวโออิชิ โกลด์ เกียวคุโระ จุดเด่นคือเป็นหนึ่งในชาที่หายาก และให้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ทำจากยอดอ่อนใบชาแท้นำเข้าจากไร่ชารางวัลจักรพรรดิ ประเทศญี่ปุ่น และที่สำคัญ การขยายตลาดส่งออก จากเดิมส่งออกเพียง 13 ประเทศ ปัจจุบันสามารถขยายการส่งออกได้ถึง 33 ประเทศทั่วโลก

ขณะที่กลุ่มร้านอาหาร “ไพศาล อ่าวสถาพร” รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีแผนสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ ผ่านการดำเนินงานเชิงรุกอย่างรอบด้าน ได้แก่ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเมนูใหม่ ๆ การสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่เหมาะสม น่าสนใจ และการขยายสาขาต่อเนื่อง เพื่อเข้าถึงและขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับพัฒนาช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์

ขณะเดียวกันก็จะมีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นของโออิชิ ให้มีความทันสมัยตามเทรนด์ของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเร็ว ๆ นี้จะเห็นภาพของการปรับร้านโออิชิแกรนด์ โออิชิ อีทเทอเรียม และชาบูชิ รวมถึงการเพิ่มประสบการณ์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ ผ่านคอนเซ็ปต์ใหม่ ๆ เช่น การนำเทคโนโลยี IOT มาใช้ภายในร้าน การสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อบอกข้อมูลของผลิตภัณฑ์ ฯลฯ ตลอดจนการ spin-off ของแบรนด์ใหม่ ๆ เช่น “โอโยกิ” (OYOKI) ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ที่เป็นร้านขนมหวานแบรนด์แรกของโออิชิ “โฮว ยู” (HOU YUU) และ “ซากาเอะ” (SAKAE) ที่จะมาจับกลุ่มลูกค้าระดับบนมากขึ้น

และอีกกลุ่มที่จะมีการเพิ่มโฟกัสการทำตลาดมากขึ้นจากนี้ก็คือ อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทาน ซึ่งได้ทำการปรับโครงสร้างเพื่อสร้างแบรนด์ให้ชัดเจนมากขึ้น และรวบซับแบรนด์ต่าง ๆ สื่อสารภายใต้แบรนด์เดียว คือ “โออิชิ อีทโตะ”

“เมขลา เนติโพธิ์” รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง พร้อมทาน ได้เข้ามามีบทบาทกับวิถีชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของคนในชุมชนเมืองมากขึ้น เนื่องจากสินค้าในกลุ่มนี้มีคุณภาพ มีความสะดวกในการบริโภค และมีความหลากหลายของประเภทอาหาร บริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และโอกาสทางการตลาดที่เปิดกว้าง

จึงมีแผนที่จะเข้าไปสร้างแบรนด์ และการสื่อสารของโออิชิ อีทโตะ ให้แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและโดดเด่น ทั้งรูปแบบ รสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และแพ็กเกจจิ้ง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย โดยเข้าไปอยู่ในช่องทางจัดจำหน่ายหลักอย่างร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงกลุ่มฟู้ดเซอร์วิส ด้วยการซินเนอร์ยี่ระหว่างพันธมิตรกลุ่มธุรกิจในเครือไทยเบฟ รวมทั้งขยายสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทั้งอาเซียนและสหภาพยุโรป

เพื่อผลักดันให้โออิชิมีการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมา (1 ต.ค. 61-30 ก.ย. 62) มีรายได้ 13,631 ล้านบาท เติบโต 8.2% รวมถึงกำไรที่สามารถทำได้ถึง 1,229 ล้านบาท เติบโตขึ้น 21% ตอกย้ำการเป็นผู้นำอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นอย่างแท้จริง