“บิวตี้” รุกขยายฐานไทย-เทศ แตกไลน์สุขภาพ-ความงาม

“บิวตี้” ชู 3 กลยุทธ์ ขับเคลื่อนธุรกิจ เน้นเพิ่มกำไร เพิ่มยอด ตปท. แตกไลน์สินค้าอุปโภค ขยายฐานลูกค้าเจาะตลาดสุขภาพและความงาม หวังเสริมแกร่งรายได้ เติบโต 20%

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านบิวตี้ บุฟเฟต์ ระบุว่า ภาพรวมธุรกิจเครื่องสำอางปี 2563 คาดว่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับความงาม สุขภาพ และผิวพรรณต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้นตามมา ทำให้บริษัทได้วางทิศทางการดำเนินธุรกิจเพื่อรับกับโอกาสดังกล่าว โดยเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ภายใต้นโยบาย International Beauty & Health Business ที่จะยกระดับแบรนด์สินค้าภายใต้การจำหน่ายของบริษัทเข้าสู่การเป็นแบรนด์ด้านความงามและสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมี 3 กลยุทธ์หลักที่จะมาขับเคลื่อน ได้แก่ การเพิ่มความสามารถการทำกำไร โดยมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนกำไร จากช่องทางจัดจำหน่ายต่างประเทศและบริหารจัดการต้นทุนช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศให้มีประสิทธิภาพ

การขยายตลาดต่างประเทศ จากปัจจุบันที่บริษัทได้เข้าไปจำหน่ายแล้วใน 16 ประเทศ จะเพิ่มความเข้มข้นและเน้นการพัฒนาร่วมกันกับคู่ค้า เช่น ในเวียดนาม อินโดนีเซีย พม่า อินเดีย ฟิลิปปินส์ ทั้งในรูปแบบของตัวแทนจำหน่าย ดิสทริบิวเตอร์ ช็อปไลเซนส์ ช็อปอินช็อปและเคาน์เตอร์เซล

ขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะศึกษาการสร้างฐานธุรกิจในจีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขยายตลาด ความสะดวกในการพัฒนาสินค้าใหม่ และการบริหารจัดการ เนื่องจากจีนเป็นตลาดที่มีโอกาสทางธุรกิจสูง พร้อมกับการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจากช่องทางจำหน่ายร้านค้าทั่วไป เช่น คอนวีเนี่ยนสโตร์ โมเดิร์นเทรดต่าง ๆ และช่องทางออนไลน์ที่เป็นอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ยังเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่ ๆ เข้าไปจำหน่ายในช่องทาง cross border e-Commerce อย่างต่อเนื่อง

โดยในปี 2562 บริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายแล้วจำนวน 10 แพลตฟอร์ม และในปีนี้มีแผนเจรจาเพิ่มจำนวนแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง

ADVERTISMENT

ส่วนกลยุทธ์สุดท้าย การขยายตลาดกลุ่มสินค้าอุปโภค และสร้างความแข็งแกร่งในช่องทางค้าปลีก เพื่อเสริมทัพธุรกิจในประเทศให้เติบโต มีฐานลูกค้าที่หลากหลายและครอบคลุม โดยมีแผนจะพัฒนาสินค้าด้านสุขภาพร่วมกับผู้ผลิตสินค้าที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมกับมุ่งเน้นเพิ่มช่องทางการตลาดที่หลากหลาย เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นช่องทางร้านค้าปลีก ที่จะปรับปรุงและพัฒนาร้านให้สามารถเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ โดยเน้นการทำการตลาดแบบโลคอลสโตร์มาร์เก็ตติ้ง และสร้างโมเดลการขายสินค้าที่เป็นสินค้ามัลติแบรนด์ เข้ามาจำหน่ายในร้านบิวตี้ บุฟเฟต์ เพื่อจำหน่ายสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุม โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 311 สาขา

ADVERTISMENT

ส่วนช่องทางอีคอมเมิร์ซ จะเดินหน้ารุกตลาดออนไลน์ ด้วยกลยุทธ์ O2O (online to offline) และการจับมือกับพันธมิตร รวมถึงพัฒนาระบบให้สามารถรองรับพฤติกรรมการจับจ่ายผ่านมือถือของผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยผลักดันให้บริษัทมีรายได้เติบโตก้าวกระโดด

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ออกมาเพื่อขับเคลื่อนยอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นโปรดักต์ฮีโร่ โดยจะเน้นสินค้าที่เป็นนวัตกรรมตามเทรนด์แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

ทั้งนี้ คาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะสนับสนุนให้บริษัทมีรายได้เติบโตจากปีก่อนหน้า 20% พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิ 15%