สตรีมมิ่งเปลี่ยนทิศ แข่งดูฟรี…ขอมีโฆษณา

Digital Service

ในช่วง 2 ปีนี้ บริการสตรีมมิ่งแบบไม่คิดค่าบริการ แต่มีโฆษณากำลังผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น “พีค็อก” (Peacock) ของ “เอ็นบีซียูนิเวอร์แซล” (NBCUniversal) หนึ่งในยักษ์วงการสื่อของสหรัฐ และ “ควิบิ” (Quibi) แพลตฟอร์มภาพยนตร์สั้นของ “เจฟฟรีย์ แคตเซนเบิร์ก”

อดีตประธานของวอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอ หลังจาก “ซินแคล บอร์ดคาสติ้ง กรุ๊ป” รายใหญ่ของวงการอีกรายเปิดตัว”สเตอร์” (STIRR) ส่วนอเมซอนเริ่มทดลอง IMDbTV ในยุโรป ขณะที่แพลตฟอร์มวิดีโอแบบมีโฆษณา “ทูบิ” (Tubi) มีผู้ใช้กว่า 20 ล้านคนต่อเดือน

และยังมีอีกหลากรายกำลังพัฒนาบริการแนวนี้ เช่น ฮูลู (Hulu), เวียคอม (Viacom) แม้แต่ “เอชบีโอ แมกซ์” (HBO Max) ก็มีแนวโน้มว่าจะมีสมาชิกแบบฟรีแต่มีโฆษณาด้วยเช่นกัน

ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของสตรีมมิ่งแบบเสียค่าสมาชิกรายเดือนที่มีมากจนผู้บริโภคไม่สามารถจ่ายไหว

จากผลสำรวจของเดอะเทรดเดสและยูกอฟ พบว่า ชาวอเมริกันถึง 75% ไม่ต้องการจ่ายค่าสตรีมมิ่งเกินกว่า 30 เหรียญสหรัฐต่อเดือน ลำพังเพียงแค่ “เน็ตฟลิกซ์” รายเดียวก็ต้องจ่ายค่าเดือนถึง 13 เหรียญสหรัฐแล้ว รวมถึงวงการโฆษณาในสหรัฐเองยังจับตามองแพลตฟอร์มดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ในฐานะช่องทางที่จะมาชดเชยการหดตัวของฐานผู้ชมฟรีทีวีและเคเบิลทีวี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ยักษ์วงการสื่ออย่างเอ็นบีซียูนิเวอร์แซลเตรียมเปิดตัวบริการสตรีมมิ่ง “พีค็อก” รวมถึงระบบขายและวัดผลโฆษณาของตนเองในชื่อ “วัน แพลตฟอร์ม” ชูจุดขายการทำงานแบบครอสแพลตฟอร์มทั้งสตรีมมิ่งและทีวีปกติของเครือที่มีฐานผู้ชมอายุ 18 ปีขึ้นไป กว่า 211 ล้านคน

“ลินดา ยัคคาริโน” ประธานฝ่ายขายและลูกค้าสัมพันธ์ บริษัทเอ็นบีซียูนิเวอร์แซล กล่าวว่า วงการทีวีในปัจจุบันเต็มไปด้วยบริการสตรีมมิ่งแบบบอกรับสมาชิกรายเดือนซึ่งไม่มีโฆษณา ขณะเดียวกัน การโฆษณาบนเฟซบุ๊กหรือยูทูบมีความเสี่ยงมากขึ้นหลังโฆษณาของหลายแบรนด์ไปปรากฏในเพจ-วิดีโอของกลุ่มก่อการร้ายหรือกลุ่มเหยียดผิว ทำให้เกิดช่องว่างสำหรับบริการสตรีมมิ่งแบบฟรีแต่มีโฆษณา รับดีมานด์จากแบรนด์สินค้า-บริการที่ต้องการสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านโฆษณาในรูปแบบวิดีโอ บนช่องทางออนไลน์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

ด้วยเหตุนี้ รายได้หลักของพีค็อกจะมาจากโฆษณา โดยโมเดลสมาชิกมีทั้งแบบฟรีและพรีเมี่ยม ราคา 4.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน จะมีโฆษณาทั้งคู่ แต่สมาชิกพรีเมี่ยมจะได้ชมคอนเทนต์มากกว่าและเร็วกว่า ส่วนผู้ที่ไม่ต้องการชมโฆษณาเลยสามารถเลือกจ่ายเพิ่มเป็น 9.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือนได้

“พีค็อก” จะเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณารายใหญ่ที่สุด ด้วยคอนเทนต์จากช่องฟรีทีวี, ช่องเคเบิล และสตูดิโอดัง อาทิ ยูนิเวอร์แซล พิกเจอร์ส,ดรีมเวิร์กส แอนิเมชั่น ฯลฯ รวมไปถึงการถ่ายทอดกีฬาและคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟรวมกว่า 1.5 หมื่นชั่วโมง”

ขณะที่คู่แข่งอย่าง “ทูบิ” ซึ่ง “ฟาฮัด มาสซูดิ” ซีอีโอของบริษัท กล่าวว่า ในความเป็นจริงผู้ชมไม่สามารถแบกค่าสมาชิกสตรีมมิ่งทุกรายในตลาดได้ ดังนั้น หากมีแพลตฟอร์มฟรีที่สามารถเสิร์ฟคอนเทนต์ได้ตรงใจ แม้จะมีโฆษณาผู้ชมก็จะหันมาใช้บริการ เพราะผู้ชมต้องการคอนเทนต์มากขึ้นแต่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม

เช่นเดียวกับ “มิเชล คาสซัน” ซีอีโอของมีเดียลิ้งค์ บริษัทที่ปรึกษาการโฆษณา ฉายภาพว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเรตติ้งของช่องทีวีลดลงอย่างต่อเนื่อง ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันไปชมคอนเทนต์ผ่านสตรีมมิ่งกัน ทำให้แบรนด์สินค้า-บริการต้องหาทางตามไปหาผู้บริโภคบนสตรีมมิ่งด้วย จึงเป็นไปได้มากว่าสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณาจะสามารถดึงผู้ลงโฆษณาจากทีวีให้ย้ายมาหาและใช้เป็นแหล่งรายได้หลักได้


ต้องรอดูกันว่า บริการสตรีมมิ่งแบบฟรีแต่มีโฆษณา จะประสบความสำเร็จได้ตามที่บรรดาผู้ให้บริการคาดหวังกันไว้หรือไม่