“ฟอร์เดย์” ขายตรงญี่ปุ่นบุก ผนึก CEO บีอีซีฯตั้งบริษัทขายอาหารเสริม

“ไบรอัน” หัวเรือใหญ่บีอีซี-เทโร ควักทุนส่วนตัวผนึก “ฟอร์เดย์” ขายตรงยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ตั้ง บ.ร่วมทุนรุกตลาดในไทย ก่อนพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ ชูอาหารเสริม-สกินแคร์เจาะตลาด พร้อมรุกประชาสัมพันธ์ออนไลน์ สร้างการรับรู้ต่อเนื่อง ก่อนเตรียมอินเซนทีฟ ดึงตัวแทนขายเพิ่ม 3.5 หมื่นคน ปั๊มยอดขายแตะ 3,500 ล้าน ภายในระยะ 3 ปี

นายไบรอัน แอล มาร์การ์ ประธานกรรมการ บริษัท ฟอร์เดย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ทำธุรกิจบันเทิงมากว่า 20 ปี ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ล่าสุดได้ลงทุนในนามส่วนตัว เปิดตัวธุรกิจขายตรง โดยเข้าไปจับมือกับบริษัท ฟอร์เดย์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นเบอร์ 3 ของธุรกิจขายตรงในญี่ปุ่น ตั้งบริษัทร่วมทุน “ฟอร์เดย์ (ประเทศไทย)” ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ถือหุ้น 50 : 50 เพื่อรองรับกับโอกาสที่ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและขายตรงที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบันธุรกิจขายตรงถือว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่องทางขายและช่องทางการกระจายสินค้าที่สะดวกมากขึ้น รวมถึงจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยมีตัวเลขเพิ่มขึ้นทุกปี และคนกลุ่มนี้ต้องดูแลเรื่องสุขภาพมากขึ้น โดยสินค้าของบริษัทจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ได้”

โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยมีประมาณ 11 เอสเคยู แบ่งเป็นกลุ่มสกินแคร์ และอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์จะผลิตที่ญี่ปุ่นและนำเข้ามาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในไทย และจะนำโนว์ฮาวทั้งหมดจากญี่ปุ่นเข้ามาใช้ ผ่านกลยุทธ์หลักของฟอร์เดย์คือการให้ความสำคัญในการพัฒนาสินค้า-นวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ ดูแลนักธุรกิจ และจ่ายค่าผลตอบแทนตามที่กฎหมายกำหนด ราคาขายและผลตอบแทนต้องอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน รวมไปถึงการเตรียมทริปท่องเที่ยว หรือค่าคอมมิสชั่นต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงผลักดันในการขาย พร้อมเตรียมเทรนนิ่งนักธุรกิจทั้งด้านการขายและต้องเพิ่มศักยภาพความรวดเร็วในด้านการบริการและการจัดส่งสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง

ควบคู่ไปกับการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก โดยจะเน้นสื่อสารผ่านคอนเทนต์แนะนำผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างการรับรู้ส่งต่อไปถึงผู้บริโภค แรกเริ่มของการทำธุรกิจอาจยังไม่ต้องใช้พรีเซ็นเตอร์เนื่องจากมีต้นทุนสูง แต่ในอนาคตถ้าสินค้าได้รับการตอบรับดี คาดว่าจะมีแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ที่ทดลองใช้สินค้าจริง และสนใจเข้ามาร่วมสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ได้เช่นกัน

คาดว่าภายในระยะ 3 ปี ฟอร์เดย์ ประเทศไทยจะมีสมาชิกประมาณ 35,000 คน และสามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 3,500 ล้านบาท โดยยอดขายหลัก ๆ จะมาจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฟอร์เดย์ ดีเอ็น คอลลาเจน จำหน่ายในราคา 3,000 บาท และฟอร์เดย์ มูซ่า เอสเซ้นส์ ดริ้งค์ สโนว์วี่ จำหน่ายราคา 2,000 บาท

สำหรับฟอร์เดย์ (ประเทศญี่ปุ่น) ก่อตั้งเมื่อปี 2540 เป็นบริษัทที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและบำรุงผิว มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 2 กลุ่ม ได้แก่ อาหารเสริมและสกินแคร์ มีสินค้า 54 เอสเคยู และมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิว คอลลาเจน เป็นโปรดักต์ไฮไลต์ โดยปี 2562 ที่ผ่านมา ฟอร์เดย์ในญี่ปุ่นมีรายได้กว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ

ด้านนางสาวเคอิโกะ วาดะ ประธานบริษัท ฟอร์เดย์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดขายตรงในญี่ปุ่นมูลค่า 640,000 ล้านเยน มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จะมีเพียงปี 2562 ที่ผ่านมารายได้รวมของบริษัทลดลง 4% เนื่องภาวะเศรษฐกิจบวกกับมีการปรับปรุงระบบเทรนนิ่งสมาชิก ทำให้หยุดรับตัวแทนขายไปนานกว่า 3 เดือน เป็นปัจจัยที่ทำให้ยอดขายลดลง

อย่างไรก็ตาม มองว่าจุดแข็งของบริษัทที่ให้ความสำคัญในการผลิตทั้งเรื่องคุณภาพและนวัตกรรมต่าง ๆ ยังมีโอกาสที่จะสร้างการเติบโต รวมถึงการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคต่อเนื่อง ทั้งในญี่ปุ่นที่มีสมาชิกกว่า 280,000 คน และประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชีย ได้แก่ ไต้หวัน ฮ่องกง เวียดนาม และล่าสุดในไทย