มาสก์-เจลล้างมือ ตลาดใหม่…อนาคตไกล

กลายเป็นสินค้าที่มีความต้องการอย่างมากมายมหาศาล จนถึงขนาดว่าสินค้า “ขาดตลาด” และเป็นของหายากเลยทีเดียว สำหรับหน้ากากอนามัยและเจล-แอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ ซึ่งเป็นผลพวงของความตื่นตระหนกหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสอู่ฮั่น และไทยก็เป็นประเทศในอันดับต้น ๆ ที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด

ช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากประเทศไทยจะประสบปัญหากับมลพิษทางอากาศ “ฝุ่นพีเอ็ม 2.5” อย่างหนักแล้ว การแพร่ระบาดของไวรัสอู่ฮั่น ยังทำให้ความต้องการหน้ากากอนามัยมีมากขึ้นหลายเท่าตัว จนทำให้สินค้าขาดตลาดชั่วคราว ช่องทางจำหน่ายต่าง ๆ ทั้งร้านขายยา-ร้านสะดวกซื้อ ต้องปิดป้ายแจ้งว่า “สินค้าหมด”

แหล่งข่าวจากบริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายหน้ากากอนามัยรายใหญ่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากมีกระแสไวรัสสายพันธุ์ใหม่ระบาด ทำให้หน้ากากอนามัยมีความต้องการมากขึ้นหลายเท่าตัว โรงงานก็ผลิตเต็มกำลัง และทยอยส่งให้ลูกค้าตามออร์เดอร์ ซึ่งที่เกิดปัญหาของขาดตลาด ส่วนหนึ่งมาจาก ที่ผ่านมาออร์เดอร์ที่เข้ามาไม่สม่ำเสมอ บางช่วงมีมาก บางช่วงมีน้อย จึงทำให้คาดการณ์ความต้องการตลาดที่แท้จริงไม่ได้ แต่หน้ากากอนามัยบางรุ่น โดยเฉพาะรุุ่นที่มีคุณสมบัติในการป้องกันฝุ่นพีเอ็ม 2.5 และเชื้อโรคได้นั้น ส่วนใหญ่ยังต้องนำเข้าจากสหรัฐ ญี่ปุ่น ฯลฯ แต่ก็ยังไม่พอกับความต้องการ สินค้ายังขาดตลาดอยู่”ของที่เข้ามา เราก็ส่งลูกค้า ส่งร้านค้าหมด และยังมียอดที่ติดค้างร้านอยู่อีกเป็นจำนวนมาก”

เช่นเดียวกับเจล-แอลกอฮอล์ล้างมือ จากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่า นอกจากร้านขายยา ร้านจำหน่ายสินค้าสุขภาพและความงาม ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งหลาย ๆ แห่งต่างปิดป้ายแจ้งว่า “สินค้าหมด” แล้ว จากการสอบถามพนักงานยังพบว่า ยังมีลูกค้าจำนวนมากที่ทยอยมาถามหาเจล-แอลกอฮอล์ทั้งวันไม่เพียงเฉพาะเจล-แอลกอฮอล์ทำความสะอาดของค่ายต่าง ๆ ดังกล่าวที่ถูกกวาดซื้อไปเกลี้ยงเชลฟ์แล้ว จากการสำรวจยังพบว่า สินค้าของหลาย ๆ แบรนด์ที่ผลิตสินค้าออกมาจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นเดทตอล เบตาดีน คิเรอิ รวมถึงสินค้าเฮาส์แบรนด์ของร้านขายยาเอ็กซ์ต้า (ของซีพี ออลล์) ก็ถูกกว้านซื้อไปหมดเช่นกัน

แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการร้านขายยารายใหญ่รายหนึ่ง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้เท่าที่ได้พูดคุยกับผู้ผลิตเจล-แอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเกร๊ทเตอร์ฟาร์ม่า, ศิริบัญชา, สหแพทย์เภสัช ต่างก็เร่งผลิตสินค้าเพิ่มเพื่อป้อนตลาดอย่างเต็มที่ และทยอยส่งให้ลูกค้าเป็นระยะ ๆ

นายสุนันท์ พูนธนกิจ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร องค์การสุรา กรมสรรพสามิต เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้องค์การสุรากำลังเร่งการผลิตเจล-แอลกอฮอล์ทำความสะอาด ออกมาป้อนตลาดอย่างเต็มที่ โดยสินค้าขององค์การสุราจะมีทั้งเจล แอลกอฮอล์ และสเปรย์แอลกอฮอล์ ซึ่งคาดว่าปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้จะมีสินค้าเข้ามาในตลาดอีกประมาณ 7-8 หมื่นชิ้น ซึ่งก่อนหน้าจะมีการแพร่ระบาดไวรัสอู่ฮั่น องค์การสุรามีสต๊อกสินค้าอยู่ประมาณ 8 หมื่นชิ้น แต่พอมีกระแสการแพร่ระบาดเกิดขึ้น ปรากฏว่าสินค้าที่มีอยู่ขายหมดภายใน 3 วัน

“จริง ๆ แล้ว องค์การสุราเพิ่งจะเพิ่มผลิตแอลกอฮอล์เพื่อการสาธารณสุขเข้ามาทำตลาดเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และตอนนี้คนเริ่มรู้จักสินค้าของเราแล้ว และเนื่องจากองค์การสุรานั้นเป็นหน่วยงานรัฐ จึงไม่เน้นการแสวงหากำไร เน้นการกระจายให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้” รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารย้ำ

แหล่งข่าวจากวงการอุปกรณ์และวัสดุทางการแพทย์รายหนึ่ง แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า จากนี้ไปคาดว่าดีมานด์ของสินค้ากลุ่มนี้จะยังมีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และอาจจะกล่าวได้ว่าดีมานด์ของตลาดหน้ากากอนามัยและเจล-แอลกอฮอล์ล้างมือ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้สินค้ากลุ่มนี้โตอย่างก้าวกระโดดในวันข้างหน้า นอกจากการเพิ่มกำลังการผลิตของค่ายใหญ่ ล่าสุดก็เริ่มเห็นผู้ประกอบการรายเล็กจำนวนหนึ่งที่กระโดดเข้ามาในตลาดด้วย

“ที่ผ่านมา ตลาดนี้จะขึ้น ๆ ลง ๆ เพราะคนไทยจะไม่นิยมใช้เจล-แอลกอฮอล์ล้างมือเหมือนในต่างประเทศที่มีการใช้เจล-แอลกอฮอล์จนเป็นนิสัย แต่คนไทยจะมาเป็นพัก ๆ

หลังจากไวรัสหายไปคนก็จะไม่ใช้ จึงไม่สามารถคำนวณและคาดการณ์ดีมานด์ของตลาดได้ และไม่มีใครผลิตสต๊อกสินค้าไว้มาก ๆ รอให้มีดีมานด์ก่อนแล้วจึงผลิตตามออกมา”

ที่สำคัญ จากนี้ไปหน่วยงานภาครัฐจะต้องเข้ามาควบคุมหรือดูแลในเรื่องมาตรฐานของสินค้ากลุ่มนี้ด้วย เหมือนในต่างประเทศจะต้องเป็นสินค้าที่มีการรับรองมาตรฐาน

ความตื่นตัวและดีมานด์ของตลาดที่เกิดขึ้นในวันนี้ น่าจะเป็นสัญญาณที่สะท้อนภาพของตลาดในวันข้างหน้าได้เป็นอย่างดี