รุกฆาตร้านอาหาร 4 แสนล้าน CRG เพิ่มพอร์ตจีน-อีสาน/ผุดสาขาไม่ยั้ง

ร้านอาหาร

“ซีอาร์จี” เคลื่อนทัพรุกสมรภูมิร้านอาหาร 4 แสนล้าน ประกาศเดินหน้าเพิ่มพอร์ตอาหารจีน-ไทยอีสาน ส้มตำ-อาหารสุขภาพ พร้อมเดินหน้าขยายสาขาแบรนด์เดิมไม่ยั้ง มุ่งเจาะศูนย์การค้า ตามแนวเส้นรถไฟฟ้า อาคารสำนักงาน สถานีบริการน้ำมัน โรงพยาบาล ควบคู่เปิดร้านโมเดลใหม่ พ็อปอัพสโตร์-ฟู้ดทรัก-ไดรฟ์ทรู หวังเพิ่มช่องทางและโอกาสกาารขาย แย้มไต๋อนาคตเตรียมขายแฟรนไชส์ร้านอาหารตามสั่ง “อร่อยดี” พร้อมปูพรม “สุกี้เฮ้าส์” ปูพรมย่านออฟฟิศ สถานีบริการน้ำมัน เจาะตลาดแมส พร้อมส่งสินค้าเมนูใหม่ อัดโปรโมชั่นจูงใจลูกค้าต่อเนื่อง

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาการเติบโตของตลาดร้านอาหารมูลค่า 4 แสนล้านยังคงแข่งขันกันอย่างรุนแรง จากการเข้ามาของผู้เล่นหน้าใหม่ทั้งทุนไทยและต่างประเทศ แต่อีกด้านหนึ่งก็มีหลายแบรนด์ที่กระโดดเข้ามาเป็นระยะ ๆ แต่อีกด้านหนึ่งก็มีภาพของการทยอยปิดตัวและออกจากตลาดไปอย่างเงียบ ๆ จากสภาพตลาดที่มีการแข่งขันสูง เนื่องจากตลาดมีการแข่งขันสูง

เพิ่มพอร์ตฯอาหารจีน-ไทยอีสาน

นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารเครือข่าย ในเครือเซ็นทรัล อาทิ มิสเตอร์โดนัท, อานตี้ แอนส์, เปปเปอร์ ลันช์ ฯลฯ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนการดำเนินธุรกิจร้านอาหารในเครือเซ็นทรัลจากนี้ไปว่า บริษัทจะให้ความสำคัญในการขยายพอร์ตธุรกิจร้านอาหารให้ครอบคลุมในทุก ๆ เซ็กเมนต์ ทั้งในรูปแบบการรับสิทธิบริหารแฟรนไชส์ และมองไปถึงการร่วมทุนหรือซื้อกิจการ รวมทั้งพัฒนาแบรนด์ขึ้นมาเอง ถือว่าเป็นไปได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ซึ่งจากเดิมจะมีบทบาทเป็นเพียงผู้รับสิทธิบริหารแฟรนไชส์เท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อความหลากหลายและเพิ่มโอกาสการขายให้มากขึ้น จากปัจจุบันซีอาร์จีมีธุรกิจอาหารหลากหลายกลุ่ม อาทิ อาหารญี่ปุ่น โดนัท ไอศกรีม เป็นต้น

นายณัฐกล่าวว่า สำหรับกลุ่มอาหารที่ยังไม่มีในพอร์ตโฟลิโอตอนนี้ หลัก ๆ จะเป็นอาหารจีน อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ใช้ชื่อว่า “เกาลูน” เป็นร้านอาหารจีนประเภทติ่มซำ ขนมจีบ ซาลาเปา โดยเริ่มทดลองสาขาแรกที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และมีแผนจะเพิ่มจำนวนสาขาให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผนจะมองหาแบรนด์ร้านอาหารจีนประเภทอื่น ๆ เข้ามาเพิ่ม โดยเฉพาะประเภทที่ได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาด เช่นเดียวกับอาหารไทยอีสาน-ส้มตำ รวมถึงอาหารเพื่อสุขภาพที่จะสามารถสอดรับเทรนด์คนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

“3 เซ็กเมนต์นี้เป็นตลาดที่น่าสนใจ และกำลังมองหาโอกาสเข้าไปเจาะผู้บริโภคกลุ่มนี้ ซึ่งหากพาร์ตเนอร์รายไหนสนใจก็สามารถเข้ามาเจรจาร่วมทุนกันได้ ซึ่งจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลา ทำให้บริษัทต้องปรับแผนตามสถานการณ์และต้องระมัดระวังเรื่องการลงทุนมากขึ้น”

เดินหน้าขยายสาขาแบรนด์เดิม

นายณัฐกล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกัน บริษัทจะเน้นการขยายฐานผู้บริโภคให้ได้อย่างครอบคลุม ทั้งตลาดแมสและตลาดพรีเมี่ยม พร้อมให้ความสำคัญในการขยายสาขาแบรนด์ร้านอาหารต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเคเอฟซี, มิสเตอร์โดนัท, โอโตยะ, อานตี้ แอนส์ และเปปเปอร์ ลันช์ เน้นขยายธุรกิจไปยังศูนย์การค้าตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ตลอดจนค้าปลีกประเภทอื่น ๆ อาทิ อาคารสำนักงาน สถานีบริการน้ำมัน โรงพยาบาล ฯลฯ รวมถึงการเปิดร้านรูปแบบใหม่ ๆ เช่น พ็อปอัพสโตร์, ฟู้ดทรัก และไดรฟ์ทรู ในทำเลที่มีการขยายตัวของชุมชนเมือง ควบคู่กับการพัฒนาสินค้าและโปรโมชั่นใหม่ ๆ

ล่าสุดมิสเตอร์โดนัทมีแคมเปญ “คนหลายใจ จัดไปหลายดอก” ซื้อโดนัทกุหลาบ 12 ชิ้น รับฟรี 4 ชิ้น ตั้งแต่วันนี้-15 ก.พ. 2563 เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์

ส่วนร้านที่พัฒนาแบรนด์ขึ้นมาเองเมื่อปีที่ผ่านมา เช่น ร้านอร่อยดี ที่เป็นคอนเซ็ปต์ร้านอาหารตามสั่ง ชูราคาที่เข้าถึงง่าย ราคาเริ่มต้น 59 บาท เพื่อเจาะตลาดแมส ปัจจุบันมีทั้งหมด 15 สาขา

แต่ละสาขาสามารถสร้างยอดขายได้ 8 แสน-1.2 ล้านบาทต่อเดือน และภายในปีนี้จะขยายเพิ่มอีก 35 สาขา จะเน้นเปิดในพื้นที่ย่านออฟฟิศ สำนักงาน สถานีบริการน้ำมัน และชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น เป็นร้านที่ลงทุนเองทั้งหมด ซึ่งในอนาคตหากสามารถควบคุมมาตรฐาน ทั้งเรื่องรสชาติ ต้นทุน และคืนทุนได้เร็ว ในอนาคตบริษัทมีแผนจะเปิดขายแฟรนไซส์ด้วย ส่วน “ร้านสุกี้เฮ้าส์” ที่เป็นร้านสุกี้ราคาไม่แพง มีคอนเซ็ปต์ ร้านสุกี้สไตล์โฮมเมด มาพร้อมประสบการณ์ใหม่ ให้ทุกมื้ออร่อยสนุกกว่าที่เคย เน้นบรรยากาศสนุกเพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดร้านสุกี้เน้นจับกลุ่มแมส จากนี้ไปจะเน้นเปิดตามย่านชุมชนต่าง ๆ ให้มากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปีที่ผ่านมาซีอาร์จีได้พัฒนาช่องทางขายดีลิเวอรี่ที่เติบโต 10-15% ต่อปี และจะเพิ่มเมนูใหม่ ๆ ส่งเฉพาะช่องทางดีลิเวอรี่ เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค รวมถึงพัฒนาครัวกลาง “คลาวด์คิตเช่น” รวมเมนูร้านอร่อยดี และร้านอาหารแบรนด์ดังกว่า 10 แบรนด์ และให้บริการผ่านแอป “ฟู้ด ฮันท์” โดยเป้าหมายต่อไปจะต่อยอดการสร้าง “ไฮบริดคิตเช่น” มีช่องทางจำหน่าย 4 รูปแบบ ได้แก่ สั่งอาหารนั่งทานที่ร้าน สั่งซื้อกลับบ้าน หรือสั่งล่วงหน้าทางออนไลน์แล้วมารับเองที่หน้าร้าน และดีลิเวอรี่

นอกจากนี้ ปีที่ผ่านมายังได้เปิดตัวอานตี้ แอนส์ ฟู้ดทรัก และมิสเตอร์โดนัท ฟู้ดทรักที่ถูกออกแบบให้ทันสมัยเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และเพิ่มโอกาสทางการขาย และทำรายได้นอกศูนย์การค้า โดยฟู้ดทรักดังกล่าวจะตระเวนไปอาคารสำนักงาน งานอีเวนต์ งานแสดงสินค้าต่าง ๆ

คาดตลาดรวมยังโต 3-5%

นายณัฐกล่าวต่อว่า ในปี 2563 ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่โดยส่วนตัวยังมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจร้านอาหารที่มีมูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตโดยเฉลี่ย 3-5% ต่อปี ปัจจัยหลักมาจากการที่ผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ กระโดดเข้ามาในตลาดมากขึ้น และตลาดมีการแข่งขันสูง ซึ่งการทำธุรกิจร้านอาหารไม่ใช่จะมีเพียงเงินลงทุนก็ทำได้ แต่ต้องวางแผนบริหารจัดการทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย ต้นทุน พนักงาน ต้องวางแผนอย่างรัดกุม และกลยุทธ์สำคัญที่ธุรกิจร้านอาหารต้องทำ คือ ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม และคัดเลือกทำเลการขยายสาขาที่การแข่งขันยังไม่รุนแรง รวมถึงอัตราค่าเช่าที่ยังไม่สูงมาก ควบคู่กับการจัดโปรโมชั่นดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้านได้ ตลอดจนการใช้เครื่องมือดิจิทัลเข้ามาช่วยสร้างความสะดวกและรวดเร็ว เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

ปัจจุบันซีอาร์จีมีแบรนด์ร้านอาหารในเครือ 14 แบรนด์ รวมกว่า 1,037 สาขา ได้แก่ มิสเตอร์โดนัท, เคเอฟซี, อานตี้ แอนส์, เปปเปอร์ ลันช์, ชาบูตง, โคล สโตน ครีมเมอรี่, เดอะ เทอเรส, โยชิโนยะ, โอโตยะ, เทนยะ, คัตสึยะ, อร่อยดี, สุกี้เฮ้าส์ และเกาลูน