ปรากฏการณ์ที่ผู้บริโภคแห่ตุนสินค้าจำเป็นอย่างอาหารแห้ง, กระดาษชำระ, น้ำดื่ม ฯลฯ จนชั้นวางในร้านค้าต่าง ๆ ว่างเปล่านั้น เป็นสิ่งที่เห็นได้บ่อยในช่วงภัยพิบัติ ซึ่งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปีนี้ทำให้เกิดการแห่ซื้อสินค้าเพื่อกักตุนในหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐ แม้แต่ในไทยเองสินค้าบางชนิดเริ่มหายไปจากชั้นวางแล้ว
โดยข้อมูลจาก บริษัทวิจัยนีลเส็น และห้างค้าปลีกคอสต์โค (Costco) ระบุว่า ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ยอดขายเจลล้างมือ, หน้ากากอนามัย, น้ำดื่มบรรจุขวด, อุปกรณ์ปฐมพยาบาล, วิตามินรวม, เครื่องดื่มชูกำลัง, ยาสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงของแห้งอย่างผลไม้ตากแห้ง, ถั่วอบ และขนมปังเพรตเซล เพิ่มขึ้นมากจนผิดปกติ เพื่อรับมือกับปัญหานี้ สถาบันการตลาดผลิตภัณฑ์อาหาร หรือเอฟเอ็มไอ (Food Marketing Institute-FMI) สมาคมการค้ารายใหญ่ในสหรัฐซึ่งมีสมาชิกเป็นร้านค้าปลีกอาหารกว่า 4 หมื่นราย และร้านยาอีก 2.5 หมื่นราย ได้เผยแพร่เอกสารคำแนะนำความยาว 16 หน้าสำหรับผู้ค้าปลีกเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าขาดแคลน ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลต่าง ๆ อาทิ การคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงสินค้าที่คาดว่าจะมีดีมานด์สูงขึ้น และแนวทางการรับมือของร้านค้า-ร้านอาหาร
โดยตามเอกสารนั้นประเมินว่าในช่วงเดือนแรก ๆ ของการระบาด ความถี่ในการมาซื้อสินค้าของลูกค้าแต่ละรายจะลดลง
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
แต่ยอดใช้จ่ายต่อครั้งจะสูงขึ้นอย่างมากแทน เพราะผู้บริโภคไม่ต้องการออกจากบ้านบ่อยโดยไม่จำเป็น ส่วนสินค้าที่จะมีดีมานด์สูงจะเป็นกลุ่มอุปกรณ์รักษาความสะอาด อย่างถุงมือ หน้ากาก และน้ำยาฆ่าเชื้อ ไปจนถึงอาหารพร้อมทาน
นอกจากสินค้าแล้ว บริการและการตกแต่งร้านจะต้องปรับเปลี่ยนด้วย เนื่องจากผู้บริโภคใส่ใจเรื่องความสะอาด และที่มาของสินค้ามากขึ้น รวมถึงหลีกเลี่ยงร้านที่เสี่ยง โดยผู้ค้าอาจติดป้ายระบุแหล่งผลิตสินค้าให้ชัดเจนเพื่อเน้นว่าไม่ได้มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หรืออาจจัดชั้นรวมเฉพาะสินค้าผลิตในประเทศ ติดตั้งสื่อให้ข้อมูลสุขภาพ-อัพเดตสถานการณ์การระบาดเพื่อลดความแตกตื่น เปิดบริการรับสั่งสินค้าทางโทรศัพท์หรือออนไลน์ เช่น คลิกแอนคอลเลกต์ ดีลิเวอรี่ เพิ่มจุดคิดเงินแบบบริการตนเอง ให้พนักงานแผนกอาหารสวมถุงมือและหน้ากาก จัดพนักงานทำความสะอาดในจุดสำคัญต่าง ๆ เป็นต้น
“คาราล กิโรทรา” ศาสตราจารย์ภาควิชาธุรกิจของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ เปิดเผยกับสำนักข่าว “ซีเอ็นบีซี” ว่า การให้ข้อมูลและสร้างความเชื่อมั่นว่าร้านจะมีสินค้าเพียงพอ พร้อมการเริ่มนโยบายจำกัดการซื้อต่อคนแต่เนิ่น ๆ เป็นกุญแจสำคัญสำหรับรับมือการแห่ซื้อสินค้า ส่วนร้านเชนใหญ่ควรเร่งนำเข้าสินค้าในช่วงที่ยังมีโอกาส และจัดสรรสินค้าให้ร้านสาขา พร้อมสำรองสต๊อกส่วนกลางเอาไว้ เนื่องจากโรคระบาดส่งผลกระทบกับประเทศผู้ผลิตสินค้าด้วย
สอดคล้องกับความเห็นของ “ดัก เบเกอร์” รองประธาน ฝ่ายอุตสาหกรรมสัมพันธ์ของเอฟเอ็มไอ อธิบายว่า การจะรับมือปรากฏการณ์แห่ซื้อสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ผู้ค้าปลีกจะต้องพยายามทำความเข้าใจและคาดการณ์พฤติกรรม-ดีมานด์ของผู้บริโภคล่วงหน้า เพื่อนำมาปรับการบริหารสต๊อกสินค้าให้เหมาะสม
ตัวอย่างเช่นดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์เกิดจากผู้บริโภคที่ได้รับข่าวการระบาด เริ่มซื้อสินค้าสำหรับการป้องกันและการเตรียมพร้อมรับมือการแพร่ระบาด และจากนี้หลายพื้นที่จะเริ่มขยับไปสู่ขั้นต่อไป คือ การซื้อสินค้าจำเป็น อย่างอาหารกระป๋อง ผลไม้แช่แข็ง และผักสด
จากนี้ต้องลุ้นกันว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะลุกลามไปมากแค่ไหน หรือจะหยุดลงเมื่อเข้าหน้าร้อนตามที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้