แฟมิลี่มาร์ทปูพรมขยายสาขา เพิ่มน้ำหนักแฟรนไชส์-ลั่นทะลุ 3 พันปี”64

“แฟมิลี่มาร์ท” เขย่าตลาดร้านสะดวกซื้ออีกรอบ เพิ่มสปีดขยายสาขา พร้อมชู “แฟรนไชส์” ตัวช่วย เผยเงื่อนไขลงทุน 2 รูปแบบ 1.2 ล้าน/4.9 ล้าน ตั้งเป้าทะลุ 3,000 สาขาภายในปี 2564 จับมือยักษ์อสังหาฯผุดสาขาใต้คอนโดฯหรู พร้อมทยอยเสริมบริการใหม่ไม่ยั้ง “อาหาร-กาแฟ-ซักผ้าหยอดเหรียญ-รับส่งพัสดุ” รับไลฟ์สไตล์คนเมือง


หลังจากได้ทุ่มงบประมาณในการวางระบบหลังบ้านลงตัว ทั้งบุคลากร ระบบไอที การปรับเงื่อนไขรูปแบบแฟรนไชส์ ที่ผ่านมา “แฟมิลี่มาร์ท” ร้านสะดวกซื้อในเครือเซ็นทรัล ได้ประกาศจะเดินหน้าขยายสาขาเชิงรุก ด้วยการตั้งเป้าการเพิ่มจำนวนสาขาอย่างก้าวกระโดด จากปีละประมาณ 50 สาขา เป็น 100 สาขา พร้อมกับการเริ่มเปิดขายแฟรนไชส์ให้กับนักลงทุนที่สนใจตั้งแต่ช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา ล่าสุด”แฟมิลี่มาร์ท” ได้มีความเคลื่อนไหวในการเร่งขยายสาขาแฟรนไชส์ด้วยการติดประกาศเชิญชวนการเข้ามาเป็นแฟรนไชส์ไว้ตามสาขาต่าง ๆ อาทิ สาขาสีลม (สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง) สาขาอาคารสำนักงานเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เป็นต้น

ชูแฟรนไชส์ขยายสาขา

แหล่งข่าวจากบริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด ผู้บริหารร้านแฟมิลี่มาร์ทในเครือเซ็นทรัล เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากนี้ไปบริษัทยังมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2564 แฟมิลี่มาร์ทจะมีสาขาทั่วประเทศประมาณ 3,000 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขารวมประมาณ 1,200 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว นอกจากการลงทุนเพื่อเปิดสาขาเองแล้ว บริษัทยังให้น้ำหนักกับการเชิญชวนนักลงทุนที่สนใจให้หันมาลงทุนเปิดร้านเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ก็ยังจะมุ่งพัฒนาโมเดลการให้บริการ-สินค้าในร้านให้สอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการทยอยรีโนเวตสาขาเดิมที่มีอยู่ให้เป็นโมเดลใหม่ ๆ เป็นระยะ ๆ

แหล่งข่าวกล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้เริ่้มเปิดขายแฟรนไชส์เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้มีจำนวนร้านที่เป็นของแฟรนไชซีคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% ของสาขาทั้งหมด และจากนี้ไปบริษัทก็จะพยายามเพิ่มสัดส่วนนี้ให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าจะมีสัดส่วนร้านของแฟรนไชส์ให้มาอยู่ที่ระดับ 30-35%

“ที่ผ่านมาบริษัทได้มีเงื่อนไขการลงทุนสำหรับการเป็นแฟรนไชส์เพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการลงทุนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การขยายสาขาเป็นไปได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

เงื่อนไขลงทุน 1.2 ล้าน/4.9 ล้าน

แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า สำหรับเงื่อนไขแฟรนไชส์ของแฟมิลี่มาร์ท เบื้องต้นต้องมีคุณสมบัติหลัก ๆ อาทิ ผู้ที่เป็นแฟรนไชส์จะต้องมีอายุ 23-51 ปี เพื่อจะได้มีการพัฒนาแบรนด์ร่วมกับบริษัทในระยะยาว ต้องจดทะเบียนตั้งบริษัทเป็นนิติบุคคล และแฟรนไชส์มีอายุสัญญา 9 ปี โดยบริษัทจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาในการสำรวจตลาด ติดต่อหน่วยราชการ ออกแบบก่อสร้าง ให้ความช่วยเหลือในการออกแบบร้านให้ได้ตามแบบมาตรฐาน ให้คำปรึกษาการปรับปรุงร้าน ให้ยืมอุปกรณ์เครื่องมือ และเครื่องใช้ภายในร้าน รวมถึงการอบรมระบบต่าง ๆ ของร้านสาขา การติดตั้งเครื่องบันทึกเงินสดและเครื่องคอมพิวเตอร์ พัฒนาระบบต่าง ๆ ที่ใช้กับร้านสาขา

ทั้งนี้ แฟรนไชส์ของแฟมิลี่มาร์ทมี 2 รูปแบบ โดยรูปแบบที่ 1 ใช้งบฯลงทุน 1.2 ล้านบาท รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้ว แบ่งเป็นค่าสต๊อกสินค้า เงินสำรองทอน ค้ำประกันสัญญา เป็นต้น บริษัทจัดหาทำเลที่ตั้งให้โดยพิจารณาแล้วว่ามีความเหมาะสม รูปแบบนี้จะมีการแบ่งรายได้ 60 : 40 (แฟรนไชส์)

ส่วนรูปแบบที่ 2 ใช้งบฯลงทุน 4.9 ล้านบาท รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการตกแต่ง ซ่อมแซมอาคาร และอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้ว พื้นที่ประมาณ 100-150 ตร.ม. รวมพื้นที่สต๊อกสินค้า ผู้รับสิทธิ์ต้องมีอาคารสถานที่เป็นของตนเอง โดยบริษัทพิจารณาแล้วว่ามีความเหมาะสม แบ่งรายได้ 70 : 30 (แฟรนไชส์) นอกจากการลงทุนเปิดร้านแล้ว บริษัทยังเปิดกว้างให้นักลงทุนสามารถซื้อสาขาที่มีอยู่เดิมของบริษัทได้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการปิดป้ายประกาศเชิญชวนการลงทุนเป็นแฟรนไชส์ที่ปิดประกาศไว้ตามสาขาต่าง ๆ แล้ว ในเว็บไซต์แฟมิลี่มาร์ทยังมีข้อมูลให้ผู้ที่สนใจลงทุนได้ศึกษา อาทิ ขั้นตอนการดำเนินงาน รูปแบบแฟรนไชส์ บริการที่แฟมิลี่มาร์ทมีให้ พร้อมเปิดรับให้ผู้ที่มีสถานที่อยู่แล้วเสนอตัวเข้ามาด้วย

เสริมบริการรับไลฟ์สไตล์คนเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาแฟมิลี่มาร์ทยังจับมือกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ด้วยการเปิดร้านสะดวกซื้อแพลตฟอร์มใหม่ “one stop shopping destination” ในทุกโครงการ XT ของแสนสิริ อาทิ XT เอกมัย, XT ห้วยขวาง และ XT พญาไท นอกจากสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไปแล้ว สาขาดังกล่าวยังมีอาหาร เครื่องดื่ม เมนูพร้อมทานและกาแฟสด Arigato พร้อมพื้นที่ open space สำหรับพบปะสังสรรค์หรือทำงานร่วมกัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ตลอด 24 ชั่วโมง

ล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แฟมิลี่มาร์ทยังได้เปิดตัวบริการสะดวกซัก “เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ” สำหรับการรองรับไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ ด้วยการจับมือกับธุรกิจสะดวกซัก 24 ชั่วโมง 3 ค่าย ได้แก่ Clean Pro Express (คลีนโปรเอ็กซเพรส), The M Soul Laundromate (เดอะ เอ็ม โซล ลอนโดรเมท) และ Otteri wash & dry (อ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย) นำร่องเปิดให้บริการที่แฟมิลี่มาร์ท 4 สาขา ในกรุงเทพฯและพัทยา ได้แก่ ประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11, รามอินทรา ซอย 34, พัทยาสราญชล ซอย 2, นาจอมเทียน ซอย 2

จากก่อนหน้านี้ที่แฟมิลี่มาร์ท ได้ประกาศชูคอนเซ็ปต์ “Food Destination” โดยมีเมนูอาหารญี่ปุ่นอย่าง “โอเด้ง” อาหารประเภทต้มของญี่ปุ่น ที่มีวัตถุดิบหลากหลาย ทั้งเนื้อ ผัก และของทอด ซึ่งได้ปรับสูตรน้ำซุปใหม่ และเพิ่มน้ำซุปสูตรต้มยำน้ำข้นเข้ามา พร้อมปั้นแคแร็กเตอร์ “ฮานะโอเด้ง” (HANA ODEN) สำหรับโปรโมตอาหารโอเด้ง เจาะกลุ่มตลาด Gen Y รวมถึงอาหารอื่น เช่น ข้าวกล่องปรุงสด ไก่ทอด ข้าวปั้น เครื่องดื่มเกล็ดน้ำแข็ง รวมถึงร้านกาแฟสด Coffee Arigato นับเป็นการย้ำภาพแบรนด์ญี่ปุ่นอีกขั้น หลังจากที่ได้ทยอยปรับโฉมสาขาเป็นสไตล์เรียบหรูแบบญี่ปุ่น พร้อมคอนเซ็ปต์ Fresh Fun and Friendly ใช้โทนสีขาว-ดำ เพิ่มมุมนั่งทานอาหารในร้าน รวมถึงการเพิ่มบริการรับส่งพัสดุผ่านเคอรี่ เอ็กซ์เพรสทุกสาขา ไปจนถึงการจับมือแอปพลิเคชั่นโกไบค์ เพื่อให้บริการดีลิเวอรี่สินค้าในร้าน จัดส่งสินค้าใน 4 พื้นที่หลัก คือ สีลม สาทร สุขุมวิท และรัชดาภิเษก