“คาราบาว” เปิดศึกส่งเครื่องดื่มวิตามินซีเขย่า”โอสถสภา”

ชูกำลัง 3.5 หมื่นล้าน ระทึกปัจจัยเศรษฐกิจ “คาราบาว” เดินหน้าโค่นบัลลังก์ M-150 งัดบิ๊กดาต้าเสริมทัพอีเวนต์ออนกราวด์ ไล่ปิดจุดอ่อน-โฟกัสพื้นที่เป้าหมาย ก่อนเร่งตุนยอดต่างประเทศชดเชย พร้อมแจ้งเกิดเครื่องดื่มใหม่ “วู้ดดี้ ซี+ ล็อค” ควงพิธีกรชื่อดัง “วู้ดดี้” ปลุกเครื่องดื่มวิตามินซี ชูกลยุทธ์แบรนด์แคแร็กเตอร์ ตามรอยน้าแอ๊ด พร้อมต่อยอดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเพิ่มอีก 3-5 รายการ ดันรายได้เติบโต 25%

นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และปัจจัยต่าง ๆ ในปีนี้ คาดว่าจะส่งผลตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่าประมาณ 35,000 ล้านบาท ไม่มีการเติบโต ส่วนจะติดลบหรือไม่ต้องรอพิจารณาสภาพตลาดที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกไปก่อน อย่างไรก็ตาม คาราบาวยังคงเดินหน้าตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ คือการเป็นผู้นำตลาดให้ได้ในปีนี้

โดยเตรียมที่จะใช้งบฯการตลาดอีก 500-600 ล้านบาท เน้นหนักไปในการทำกิจกรรมออนกราวด์ ร่วมกับทีมสาวบาวแดงที่ปัจจุบันมีอยู่ 500 ทีม เพื่อเข้าถึงลูกค้าในเชิงลึก ระดับชุมชนมากขึ้น และจะมีการนำเทคโนโลยีบิ๊กดาต้าเข้ามาปรับใช้ เพื่อวิเคราะห์หาจุดอ่อน

จุดแข็งในแต่ละโลเกชั่น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการลงพื้นที่มากขึ้น ปัจจุบันคาราบาวเป็นผู้นำแล้วในภาคกลาง ซึ่งเป็นภาคที่มีอัตราการบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังสูงที่สุดในประเทศ และเริ่มทำได้ดีขึ้นในกรุงเทพฯและภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง ส่วนมาร์เก็ตแชร์ล่าสุดอยู่ที่ 24-25%

พร้อมกับการเร่งทำตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในแถบซีแอลเอ็มวี ที่มีการตอบรับกับสินค้าในระดับดีมาก ขณะที่ตลาดในสหราชอาณาจักร ยังคงใช้แพลตฟอร์มเดินหน้าสร้างแบรนด์ และใช้เป็นสปริงบอร์ดในการขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรปอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันได้เข้าไปจำหน่ายในยุโรปแล้วมากกว่า 10 ประเทศ

ขณะที่จีนมีการปรับการทำตลาดใหม่ โดยใช้ success model จากประเทศไทย อย่างสาวบาวแดงกว่า 1,000 ทีม ที่จะเข้าไปทำกิจกรรมออนกราวด์ ทดลองชิม ทำโปรโมชั่น ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ เพื่อทำให้ผู้บริโภคได้ทดลองสินค้า และมีประสบการณ์กับแบรนด์ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และช่วงตรุษจีนที่เป็นช่วงวันหยุดยาวของภาคธุรกิจ แต่สถานการณ์ในปัจจุบันพบว่าหลายพื้นที่เริ่มกลับมาออร์เดอร์อีกครั้ง และบริษัทจะเริ่มจัดส่งในเดือนเมษายนนี้กว่า 70 ตู้คอนเทนเนอร์

นายเสถียรระบุต่อไปอีกว่า ในปีนี้นอกจากเครื่องดื่มชูกำลังที่จะเดินหน้าทำตลาดอย่างเต็มที่แล้ว บริษัทยังได้เปิดตัวแคทิกอรี่ใหม่ “เครื่องดื่มวิตามินซี” ภายใต้แบรนด์ “Woody C+ Lock” (วู้ดดี้ ซี+ ล็อค) โดยการจับมือกับวู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา พิธีกรชื่อดัง ร่วมทุนกันจัดตั้งบริษัทใหม่ “เอ วู้ดดี้ ดริงค์ จำกัด” ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท คาราบาวถือหุ้นในสัดส่วน 85% และคุณวู้ดดี้ 15% โดยบริษัทดังกล่าวจะมีหน้าที่ในการทำมาร์เก็ตติ้ง การส่งเสริมการตลาดต่าง ๆ ส่วนในด้านของการผลิตและการกระจายสินค้า คาราบาวและบริษัทในเครือจะเป็นผู้รับผิดชอบ

เพื่อรับกับโอกาสที่ตลาดดังกล่าวมีการขยายตัวสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมาตลาดมูลค่า 5,000-6,000 ล้านบาทเติบโตถึง 40-50% จากกระแสการตื่นตัวด้านสุขภาพของผู้บริโภค อีกทั้งสินค้าดังกล่าวยังมีโอกาสการบริโภคที่หลากหลาย สามารถบริโภคได้ทั้งวัยรุ่น ผู้หญิง ผู้ชาย พนักงานออฟฟิศ ผู้ที่ออกกำลังกาย คนทั่วไป ฯลฯ

สำหรับการลงทุนในปีแรก จะใช้งบฯการตลาด 200 ล้านบาท เพื่อสร้างกระแสการรับรู้ และการทดลองผลิตภัณฑ์ ครอบคลุมสื่อทุกช่องทาง ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ บีโลว์เดอะไลน์ และอะโบฟเดอะไลน์ ตลอดจนช่องทางของวู้ดดี้ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะสร้างความเชื่อมั่น การรับรู้ความแตกต่างของสินค้า กับโปรดักต์อื่น ๆ ในตลาดเช่น การใช้นวัตกรรม C+ Lock การเลือกใช้ขวดสีเขียวซึ่งมีคุณสมบัติช่วยคงคุณค่าวิตามินซีในขวดไม่ให้สลายไปจากการโดนแสงแดด พร้อมด้วยการใช้ก๊าซไนโตรเจนและระบบฝาล็อกชนิดพิเศษ เพื่อล็อกวิตามินไม่ให้สูญเสียประโยชน์เมื่อสัมผัสกับอากาศภายนอก เริ่มวางขายแล้วในราคาขวดละ 15 บาท ครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้งร้านสะดวกซื้อ อาทิ ซีเจ เอ็กซ์เพรส, เซเว่นอีเลฟเว่น และร้านค้าทั่วไปทั่วประเทศ

“สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจต้องมาให้ถูกที่ ถูกเวลา และถูกจังหวะ เรามีเครื่องดื่มนี้เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว แต่รอจังหวะที่เหมาะสม เมื่อได้พูดคุยกับคุณวู้ดดี้ คุยกันชั่วโมงเดียวก็ตกลงเลย เพราะเรามองว่าโปรดักต์กับแบรนด์แคแร็กเตอร์ของทั้งคู่มันไปด้วยกันและมีพลังมาก เหมือนกับที่เราทำแบรนด์คาราบาวกับน้าแอ๊ด ก็อาศัยแบรนด์แคแร็กเตอร์กับสินค้าที่มันไปด้วยกัน”

สำหรับวู้ดดี้ ซี+ ล็อค ได้ตั้งเป้าหมายในปีแรกไว้ที่ 100 ล้านขวด และขึ้นเป็นผู้นำในตลาดภายในสิ้นปีนี้ ส่วนภาพรวมการเติบโตของคาราบาว ตั้งเป้าไว้ที่ 25% โดยหลัก ๆ จะมาจากการเติบโตของรายได้ในต่างประเทศ และการเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่

ส่วนรายได้ของบริษัทในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 14,933 ล้านบาท เติบโต 3.5% โดยหลัก ๆ มาจากธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังในต่างประเทศมีการเติบโต 9% ช่วยชดเชยธุรกิจในประเทศที่ลดลง 4% นำโดยกลุ่มซีแอลเอ็มวี ที่มีรายได้รวมกัน 5,901 ล้านบาท จีน 494 ล้านบาท สหราชอาณาจักร 30 ล้านบาท และประเทศอื่น ๆ รวมกัน 633 ล้านบาท