ค่ายหนังแห่พึ่งออนไลน์ รุกสตรีมมิ่งชนโรง…แก้พิษโควิด

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน ทั้งการใช้ชีวิต การทำธุรกิจของภาคที่เปลี่ยนไป

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่งที่่ผ่านมาพยายามต้านทานกระแสดิสรัปต์จากบริการสตรีมมิ่งและวิดีโอออนดีมานด์มาโดยตลอด

แม้ว่าบริการสตรีมมิ่งภาพยนตร์จะได้รับความนิยมไปทั่วโลก และเติบโตอย่างรวดเร็วตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จนมีมูลค่ากว่า 4.26 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2562 และมีแนวโน้มเติบโตอีกปีละ 20% ระหว่างปี 2563-2570 ที่ผ่านมาบรรดาผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่ในฮอลลีวูดยังเน้นฉายภาพยนตร์ของตนผ่านโรงภาพยนตร์ก่อนเป็นระยะเวลาหนึ่ง เช่น 90 วัน แล้วจึงอนุญาตให้เผยแพร่ผ่านออนไลน์

ล่าสุดสำนักข่าว “ซีเอ็นบีซี” รายงานว่า ผู้ผลิตภาพยนตร์ในอเมริกาหลายรายมีท่าที “ผ่อนปรน” นโยบายสตรีมมิ่งมากขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากสถานการณ์ที่ไวรัสกำลังระบาดทำให้โรงภาพยนตร์หลายแห่งต้องปิดชั่วคราวหรือจำกัดจำนวนผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นการประกาศสตรีมมิ่งภาพยนตร์แบบชนโรง หรือปล่อยคอนเทนต์ให้ผู้ชมดูผ่านออนไลน์เร็วกว่ากำหนดการเดิม เป็นต้น

“ยูนิเวอร์แซล” ประกาศว่า ภาพยนตร์ “โทรลล์ส เวิลด์ ทัวร์” ซึ่งจะเข้าโรงในวันที่ 10 เมษายนนี้ จะเปิดให้รับชมได้พร้อมกันทั้งในโรงภาพยนตร์ และการเช่าออนไลน์ นอกจากนี้ ภาพยนตร์ที่กำลังฉายในโรงอย่าง The Invisible Man, The Hunt และ Emma จะเปิดให้เช่าผ่านออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมเป็นต้นไป ในราคา 19.99 เหรียญสหรัฐ เร็วกว่าปกติที่จะต้องรอ 90 วันหลังภาพยนตร์เข้าโรง

“เจฟ เชล” ซีอีโอของยูนิเวอร์แซล กล่าวว่า บริษัทจะจับตาสถานการณ์การระบาดและความเคลื่อนไหวของธุรกิจโรงภาพยนตร์ทั่วโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ในแต่ละตลาดให้เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวนี้เป็นเพียงขั้นทดลองของ “ยูนิเวอร์แซล” ในภาพยนตร์ระดับกลาง-แมส เนื่องจาก “โทรลล์ส เวิลด์ ทัวร์” ทุนสร้าง 120 ล้านเหรียญสหรัฐ และ “The Invisible Man” ทุนสร้าง 7 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วน “Emma” ทุนสร้าง 14 ล้านเหรียญสหรัฐจะเปิดให้ชมผ่านออนไลน์

แต่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทุนสร้างกว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่าง “ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส” ภาค 9 ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในพฤษภาคมปีนี้ กลับถูกเลื่อนออกไปเป็นเมษายน ปี 2564 แทน

“พอล เดอการาเบเดียน” นักวิเคราะห์อาวุโสของบริษัทวิจัยคอมสกอร์ อธิบายว่า ช่วงเวลานี้ธุรกิจต้องใช้ความสร้างสรรค์และความกล้า เพื่อสร้างและทดลองกลยุทธ์ใหม่ ๆ รับมือซึ่งวิดีโอออนดีมานด์เป็นทางออกที่วินวินทั้งผู้ผลิตและผู้ชม

ขณะเดียวกัน ยักษ์ใหญ่ของวงการอย่าง “วอลต์ ดิสนีย์” ได้เปิดให้ผู้ชมได้ดูภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่อง เช่น สตาร์ วอร์ส และโฟรเซ่น ภาค 2 บนแพลตฟอร์มดิสนีย์ พลัสก่อนกำหนดเดิม โดยโฟรเซ่น ภาค 2 จะเปิดให้สมาชิกในอเมริการับชมผ่านทางดิสนีย์ พลัส ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ซึ่งนับว่าเร็วกว่ากำหนดเดิมถึง 3 เดือน

นอกจากนี้ ยักษ์วงการภาพยนตร์ยังอนุญาตให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ อาทิ กูเกิล, ไอทูนส์, อเมซอน และวูดู ขายภาพยนตร์ “สตาร์ วอร์ส : กำเนิดใหม่สกายวอล์กเกอร์” ในรูปแบบดิจิทัลได้ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม หรือเร็วกว่ากำหนดการเดิมเกือบ 1 สัปดาห์

“บ็อบ ชาแพ็ก” ซีอีโอของเดอะ ดิสนีย์ คอมปะนี ระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็ก ๆ ที่ต้องเก็บตัวอยู่ในที่พักช่วงไวรัสระบาด


อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้จะเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวหรือถาวรนั้นยังต้องจับตา เพราะรายได้จากตั๋วยังสูงกว่ายอดขายแผ่นอยู่มาก เช่น “โทรลล์ส” ภาคแรกมียอดขายตั๋ว 344 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนยอดแผ่นมีเพียง 70 ล้านเหรียญสหรัฐ