“เพซ” ยืนยัน “ดีน แอนด์ เดลูก้า” ในไทย-เอเชียไม่กระทบ แม้ธุรกิจในอเมริกายื่นล้มละลาย

หลังจากมีข่าวการยื่นล้มละลาย และเข้าแผนฟื้นฟูกิจการในสหรัฐของ ดีน แอนด์ เดลูก้า ไปในช่วงก่อนหน้านี้ ล่าสุด “เพซ ดีเวลอปเมนท์” ได้ออกมาชี้แจง พร้อมกับย้ำว่าการทำแผนฟื้นฟูกิจการนั้น ทำเฉพาะในสหรัฐเท่านั้น เนื่องจากผลการดำเนินงานในประเทศอื่นทั่วโลก ยังคงมีการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในไทย ญี่ปุ่น และเอเชีย

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ล่าสุด ทางบริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า อเมริกา ได้ยื่นขอฟื้นฟูกิจการในสหรัฐอเมริกา หรือที่เรียกว่า Chapter 11 โดยการขออำนาจศาลคุ้มครองการทวงหนี้จากเจ้าหนี้ และเปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถกลับมาฟื้นตัว และดำเนินธุรกิจต่อไปได้ในอนาคต

โดยการเข้าแผนฟื้นฟูกิจการหรือ Chapter 11 นี้ ทำเฉพาะที่อเมริกาเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของทุกสาขาอื่นๆ ของดีน แอนด์ เดลูก้า ที่มีในประเทศไทยและในเอเชีย เนื่องจากเป็นบริษัทที่แยกกันอย่างชัดเจน

“โดยลำดับถัดไป หลังจากการเข้าแผนฟื้นฟู บริษัทจะทำงานร่วมกับศาลฟื้นฟูกิจการของอเมริกา เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจและประเมินความสามารถการดำเนินงานของดีนแอนด์ เดลูก้า อเมริกา ในอนาคต เพื่อเป็นรากฐานในการทำธุรกิจต่อไปในสหรัฐอเมริกา เนื่องจาก แบรนด์ดีน แอนด์ เดลูก้า ยังนับได้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าแบรนด์ที่สูง และยังเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า โดยบริษัทมั่นใจว่าแบรนด์จะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้หลังจากการเข้าแผนฟื้นฟูนี้”

นายสรพจน์ ย้ำว่า การเดินหน้าเข้า Chapter 11 ในครั้งนี้ ทำเฉพาะดีน แอนด์ เดลูก้าที่อเมริกาเท่านั้น และไม่มีผลกระทบกับการดำเนินงานของร้านในประเทศไทยและประเทศอื่นๆทั่วโลก ซึ่งแบรนด์ ดีน แอนด์ เดลูก้า ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในประเทศไทย ญี่ปุ่น และเอเชีย

สำหรับ ดีน แอนด์ เดลูก้า ทั่วโลก ในปัจจุบันมีทั้งหมด 75 แห่ง ใน 11 ประเทศ ประกอบด้วยประเทศญี่ปุ่น ไทย ฮ่องกง เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเก๊า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต บาร์เรน และ ที่ฮาวายในอเมริกา

โดยร้านดีน แอนด์ เดลูก้า ในประเทศไทยปัจจุบันมีทั้งหมด 14 สาขา โดยมีสาขาที่เปิดเพิ่ม คือ สาขาตึกสำนักงานสามย่านมิตรทาวน์ ตึกสำนักงานใหญ่ธนาคารทหารไทย สาขาภูเก็ตโบ้ตลากูน สาขาภูเก็ตโอลด์ทาวน์ และล่าสุด สาขาศูนย์การเรียนรู้เคนซิงตัน ราชพฤกษ์ ซึ่ง 3 สาขาหลังนี้ เป็นการขยายกิจการผ่านการดำเนินงานของแฟรนไชส์

​