“ฟู้ดดีลิเวอรี่” สุดฮอต นาทีทอง “ถุง-โฟม” คืนชีพ

ฟู้ดดีลิเวอรี่สุดฮอต นาทีทองถุง-โฟม คืนชีพ
File Photo (Photo by Drew Angerer/Getty Images)

นาทีนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่า “ฟู้ดดีลิเวอรี่” เป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเวลานี้

ไม่เพียงเฉพาะปัจจัยจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชอบความสะดวกสบายและพึ่งพาเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้นจะทำให้บริการนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว

การแพร่ระบาดของไวรัสร้ายโควิด-19 ที่เกิดขึ้นและทำให้ต้องบริษัทห้างร้านต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานราชการ ที่ต้องประกาศใช้มาตรการ work from home หรือการรณรงค์ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคร้ายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งเป็น “ตัวเร่ง” ให้บริการนี้เป็นที่ต้องการมากขึ้นหลายเท่าตัว

นอกจากดีมานด์จากฝั่งผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นอย่างมากมายแล้ว ทางด้านผู้ประกอบการร้านอาหารไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารชื่อดังที่เปิดตามศูนย์การค้า ร้านฟาสต์ฟู้ด ร้านอาหารสำเร็จรูป ร้านอาหารซีฟู้ด รวมไปถึงร้านอร่อยริมทาง ร้านอาหาร อาหารพื้นเมืองชื่อดัง ฯลฯ ต่างก็ต้องมีบริการดีลิเวอรี่ไว้ร้องรับ เพื่อเสิร์ฟเมนูโปรดให้ลูกค้าได้อิ่มอร่อยชนิดถึงหัวบันไดบ้าน

แต่อีกด้านหนึ่งกลับพบว่า ผลพวงจากปริมาณการสั่งอาหารผ่านบริการดีลิเวอรี่ที่มีมากขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงนี้ เท่ากับเป็นการเพิ่มปริมาณ “ถุงพลาสติก-กล่องโฟม-ถุงก๊อบแก๊บ” เข้ามาในระบบโดยไม่ทันระวัง

จากเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ตีปี๊บและรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก “1 มกรา บอกลาถุง (พลาสติก)” และดึงเอาบรรดาผู้ประกอบการค้าปลีกทั่วสารทิศมาเป็นตัวนำร่อง และทำแคมเปญรณรงค์ ด้วยการไม่แจกถุงพลาสติกให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้า

ว่ากันว่า ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกลงได้อย่างมหาศาล และช่วยเซฟค่าใช้จ่ายให้ร้านค้าปลีกที่เข้าร่วมโครงการได้ไม่น้อย

ล่าสุด แหล่งข่าวจากบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ สะท้อนภาพที่เกิดขึ้นว่า ผลพวงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และภาครัฐได้ออกมาตรการมาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยประกาศให้ผู้ประกอบการร้านอาหารในศูนย์การค้า ร้านอาหารในโรงแรม รวมถึงร้านอาหารทั่ว ๆ ไป สามารถเปิดการขายได้ แต่กำหนดให้ลูกค้าซื้อกลับไปกินที่บ้าน ไม่สามารถนั่งรับประทานในร้านได้ ทำให้ร้านอาหารต่าง ๆ ใช้ถุงพลาสติก-กล่องโฟม-แก้วพลาสติก ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

พร้อมกันนี้ แหล่งข่าวรายนี้ยังได้ยกตัวอย่างว่า หากสั่งเมนูข้าว+ผัดกะเพรา+ไข่ดาว 1 กล่อง อย่างน้อยจะต้องมีพลาสติกเข้ามาเกี่ยวข้อง 3-4 ชิ้น เริ่มจากกล่องโฟม 1 กล่อง พลาสติกที่ใช้รองข้าว 1 ถุง ถัดมาถุงที่ใช้ใส่ผัดกะเพราแยกมาอีก 1 ถุง และถุงน้ำปลาพริกอีก 1 ชิ้น นี่ยังไม่นับรวมถึงช้อน-ส้อม พลาสติก และถุงพลาสติก ที่ร้านเพิ่มมาให้ หรือบางร้านอาจจะใช้บรรจุภัณฑ์ หรือกล่องชนิดที่ย่อยสลายได้ และมีช่องแยกอาหารเป็นสัดส่วน แต่ฝาปิดก็ยังเป็นพลาสติกใส

หรือกรณีที่เป็นอาหารที่ต้องใช้กระดาษห่อ กระดาษที่ร้านอาหารหลาย ๆ แห่งนำมาใช้ในการห่ออาหาร มีจำนวนไม่น้อยที่เป็นกระดาษเคลือบพลาสติก ซึ่งก็จะเกิดปัญหากับสิ่งแวดล้อมตามมา เพราะกระดาษย่อยสลายได้ แต่พลาสติกไม่ย่อยสลาย

นี่ยังไม่นับรวมไปถึงการสั่งเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ต้องใช้แก้วพลาสติก-หลอดดูดพลาสติกที่จะตามมาอีกมากมาย

วันนี้ร้านอาหารตั้งแต่ปากซอยยันท้ายซอย ร้านอาหารตามสั่ง ร้านอาหารชื่อดัง ฯลฯ ล้วนยังใช้ถุงพลาสติกและกล่องโฟมเป็นส่วนใหญ่

แน่นอนว่า เหตุผลหนึ่งที่ร้านค้าต่าง ๆ ยังใช้ถุงพลาสติก หรือกล่องโฟมใส่อาหารให้ลูกค้าอยู่ ส่วนหนึ่งมาจากราคาโฟม-ถุงพลาสติกถูกกว่าบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้

หากสถานการณ์โควิด-19 ยังลากยาวไป ตัวเลขการใช้โฟม-ถุงพลาสติกก็จะเพิ่มขึ้นอีกมากมายมหาศาล

แหล่งข่าวจากวงการค้าปลีกรายใหญ่ แสดงความเห็นในรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมา ประชาชนเริ่มตื่นตัวมากขึ้นในเรื่องของการลดถุงพลาสติก-กล่องโฟม ขณะเดียวกันก็หันมาใช้ถุงผ้า การนำแก้วส่วนตัวไปซื้อเครื่องดื่ม เพื่อลดแถ้วพลาสติก หรือหลาย ๆ คนก็เรียกร้องหาบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้จากร้านค้า และมีร้านอาหารหลาย ๆ แห่งก็พร้อมใจหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ทดแทน

“ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา จากกระแสการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก ทำให้ร้านอาหาร ภัตตาคาร จำนวนมากในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น นครราชสีมา ฯลฯ ลดการใช้กล่องโฟม ลดการใช้ถุงพลาสติก และหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้แทน แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้น เพราะมีเสียงเรียกร้องจากผู้บริโภค ต่างจากร้านค้าร้านอาหารในต่างจังหวัด และระดับอำเภอ ที่ภาพการใช้กล่องโฟม-ถุงพลาสติกยังลดลงน้อย และส่วนใหญ่ยังใช้กล่องโฟมและถุงพลาสติกอยู่”

จากนี้ไปคงเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะต้องหันกลับมามองเรื่องนี้อีกครั้งและจะแก้โจทย์เฉพาะหน้านี้อย่างไร

เช่นเดียวกับผู้ประกอบการร้านอาหารต่าง ๆ ที่จะต้องใส่ใจกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง