ผู้ผลิตสารคดีปรับตัวลุยตปท. แท็กทีมตั้งสมาคมส่งคอนเทนต์ปั้นรายได้

ผู้ผลิตสารคดีไทย 7 บริษัทแท็กทีมตั้งสมาคมผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดี เพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรม พร้อมดึงงานซื้อขายสารคดีระดับโลก “Asia Side of the Doc” มาจัดในไทย หวังดันไทยขึ้นฮับอุตฯสารคดีแห่งเอเชีย ฟากทีวีบูรพาเพิ่มดีกรีขนคอนเทนต์ขายยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง ต่อเนื่อง

นายชนวัฒน์ วาจานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ผู้ผลิตรายการทีวีและสารคดี กล่าวว่า ตลาดสารคดีต่างประเทศมีมูลค่าสูงกว่าไทยหลายเท่าตัวและมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะยุโรป และอเมริกา ด้วยโอกาสที่เกิดขึ้นล่าสุดผู้ผลิตสารคดีในไทยได้รวมตัวกันตั้งสมาคมผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดี (Thailand Documentary Filmmakers Association) ขึ้น ประกอบด้วย 7 บริษัท ได้แก่ ทีวีบรูพา, ไทยด็อกคิวเมนทารี่, ด็อกคิวเมเนีย, ดี-ด็อกคิวเมนทารี่, ป่าใหญ่ ครีเอชั่น, โกบอลมีเดีย อินเตอร์เนชั่นแนล และ 20-20 เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพวงการสารคดีไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก หวังเพิ่มรายได้จากการส่งออกสารคดี

ขณะเดียวกันพยายามผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์สารคดีของภูมิภาคเอเชีย จึงได้ดึงงานซื้อขายสารคดีครบวงจรที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกมากว่า 20 ปี ภายใต้ชื่อ “Asia Side of the Doc” มาจัดที่ไทยอีกครั้ง ในวันที่ 30 ม.ค-2 ก.พ. 2561 หลังเริ่มจัดครั้งแรกเมื่อต้นปี 2560 คาดว่างานนี้จะมีผู้ผลิตสารคดี ผู้จัดจำหน่าย ผู้ซื้อ รวมถึงนักลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 รายจาก 40 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงาน

ในส่วนทิศทางทีวีบูรพา จากนี้ไปจะเดินหน้ารุกธุรกิจบิสซิเนสดีเวลอปเมนต์มากขึ้น ทั้งขายสารคดีไปต่างประเทศและขยายธุรกิจใหม่ต่อเนื่อง โดยการขายคอนเทนต์สารคดีไปต่างประเทศนั้นมีแนวทางหลากหลาย ทั้งหาผู้ร่วมทุน นำไปออกอากาศร่วมกับพันธมิตร ล่าสุดเตรียมนำฟอร์แมต ?”หลงเทศกาลโลก” ไปผลิตร่วมกับช่อง Astro ในประเทศแถบตะวันออกกลางด้วย

ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้นำสารคดีไปออกอากาศในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี

นอกจากนี้ จะเพิ่มดีกรีการขยายธุรกิจสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรให้มากขึ้น โดยเปิดกว้างสำหรับลูกค้า (สินค้า) ที่สนใจจะให้บริษัทสร้างแบรนด์ ให้ในฐานะครีเอทีฟเอเยนซี่ ซึ่งเร็ว ๆ นี้เตรียมเซ็นสัญญากับลูกค้าแบรนด์อินเตอร์เพิ่มอีก 1 ราย

“หลังปรับโครงสร้างใหม่ เพื่อบาลานซ์ความเสี่ยงทางธุรกิจเมื่อปี 2558 ทำให้ปัจจุบันบริษัทมี 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ผลิตคอนเทนต์, การบริหารเวลาและขายโฆษณา, อีเวนต์, การสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร ทำหน้าที่คล้ายกับเอเยนซี่ ทั้งผลิตคอนเทนต์ หาเวลาออนแอร์โฆษณา จัดอีเวนต์ ตามด้วยสื่อดิจิทัล เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูบ เป็นต้น และบิสซิเนสดีเวลอปเมนต์ เช่น การขายฟอร์แมตรายการไปต่างประเทศ ซึ่งทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น สะท้อนจากรายได้ 8 เดือนเป็นไปตามแผนที่วางไว้ 140 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้ 160-170 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน”

นายชนวัฒน์กล่าวว่า กลยุทธ์หลัก ๆ จากนี้ไปคือ เน้นการต่อยอดธุรกิจจากความเชี่ยวชาญของทีวีบูรพา เมื่อเชี่ยวชาญตลาดสารคดี เราก็จะเอาสารคดีไปขายในตลาดโลก เพื่อสร้างรายได้ให้แก่บริษัท คาดว่าปีหน้าสัดส่วนรายได้จากกลุ่มบิสซิเนสดีเวลอปเมนต์จะเพิ่มเป็น 15% ของรายได้รวม จากปีนี้ที่มีสัดส่วน 5-10% เท่านั้น

สำหรับธุรกิจอื่น ๆ นั้น ก็ยังคงเดินหน้าต่อเนื่องทั้งการผลิตรายการทีวีและสารคดีให้แก่ช่องฟรีทีวีต่าง ๆ แต่จะเน้นการจับมือกับพันธมิตร เพื่อผลิตรายการร่วมกัน ในลักษณะของการร่วมพัฒนารายการและถือลิขสิทธิ์ร่วมกับ เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ ปัจจุบันมี 3 รายการ ได้แก่ คนค้นฅน กบนอกกะลา และคนมันส์ พันธุ์อาสา ก็ยังออกอากาศช่อง 9 ตามเดิม


อย่างไรก็ตาม คาดว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะทำให้รายได้ปี 2561 เติบโต 15-20%