องค์การเภสัชฯ เพิ่มกำลังการผลิตยา 5 รายการ มั่นใจเพียงพอใช้รักษาโรคโควิด-19

องค์การเภสัชกรรม เพิ่มกำลังการผลิตและสำรองยาที่ผลิตเอง 5 รายการ สำหรับให้ผู้ป่วยโควิด-19 ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง และไม่กระทบต่อผู้ป่วยเดิมที่ใช้ยาเหล่านี้อยู่ ด้านยาฟาวิพิราเวียร์จากญี่ปุ่นมีกำหนดส่งมอบเพิ่มอีก 1 แสนเม็ด ปลายเดือนเมษายนนี้

ดร.ภญ.มุกดาวรรณ ประกอบไวทยกิจ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขมีแนวทางการใช้ยาต้านไวรัส สำหรับใช้รักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด -19 และได้กำหนดให้มียาจำเป็นสำหรับใช้ในการรักษาจำนวน 7 รายการ สำหรับใช้ร่วมกันในการรักษาโรคติดเชื้อโควิด -19 ให้มีเพียงพอสำหรับใช้ในการรักษาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

โดยเป็นยาที่องค์การเภสัชกรรมได้ดำเนินการผลิตยาขึ้นเอง จำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย (1.) ยาคลอโรควิน รักษาโรคมาลาเรีย สำรองไว้ จำนวน 1.8 ล้านเม็ด (2.) ยาต้านไวรัสเอดส์สูตรผสม โลพินาเวียร์ และ ริโทรนาเวียร์ ( Lopinavir / Ritonavir) สำรองไว้ จำนวน 30.6 ล้านเม็ด (3.) ยาต้านไวรัสเอดส์ดารุนาเวียร์ (Darunavir) สำรองไว้จำนวน 1.9 ล้านเม็ด (4.) ยาต้านไวรัสเอดส์ริโทรนาเวียร์ (Ritonavir) สำรองไว้จำนวน 1.9 ล้านเม็ด (5.)ยาอะซิโธรมัยซิน (Azithromycin) ยาปฏิชีวนะใช้รักษาอาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย สำรองไว้จำนวน 3.4 ล้านเม็ด

ส่วนยาอีก 2 รายการองค์การฯ ได้จัดซื้อมา คือ (6.).ยาฟาวิพิราเวียร์ ( Favipiravir ) ซึ่งเป็นยาสำคัญสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด -19 ที่มีการจัดซื้อจากแหล่งผลิตอยู่ 2 แหล่งหลัก คือญี่ปุ่นเจ้าของสิทธิบัตร และจีนซึ่งได้รับใบอนุญาตจากญี่ปุ่น โดยองค์การฯได้มีการจัดหาไปแล้ว 140,000 เม็ด กรมควบคุมโรคจัดหา 47,000 เม็ด รวมเป็น 187,000 เม็ด และจะมีการส่งมอบที่จัดซื้อจากญี่ปุ่นเพิ่มอีก 103,860 เม็ด ในปลายเดือนเมษายนนี้ สำหรับ (7.) ยาไฮดรอกซีคลอโรควิน องค์การฯได้ดำเนินการจัดซื้อไปแล้วจากผู้ผลิตในประเทศ จำนวน 1.09 ล้านเม็ด

ยาทั้ง 5 รายการที่องค์การฯ ผลิตเองนั้น เป็นการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อใช้สำหรับรักษาผู้ติดเชื้อโควิด -19 ซึ่งยามีเพียงพอและไม่กระทบต่อผู้ป่วยที่ใช้ยาเหล่านี้อยู่เดิม

“อย่างไรก็ตามขอเตือนว่ายาเหล่านี้เป็นยาที่ใช้เฉพาะโรค เป็นยาอันตราย การสั่งใช้ต้องเป็นไปตามการสั่งของแพทย์เท่านั้น ประชาชนห้ามซื้อมากินเองเด็ดขาด เนื่องจากยาทุกชนิดมีทั้งคุณประโยชน์และโทษ ” ดร.ภญ.มุกดาวรรณ กล่าว