“ชาร์ป” แก้เกมเร่งทำตลาดทีวีไม่รอโอลิมปิก

ตลาดทีวี
ภาพประกอบข่าว

“ชาร์ป” เขย่าแผนรับมือโควิด-โอลิมปิกเลื่อน เร่งทำตลาดทีวีแต่ไก่โห่ หวังชิงดีมานด์อยู่บ้านหยุดเชื้อฯ พร้อมปรับแคมเปญชะลอธีมโอลิมปิก หันชูไอโอที-4K-คุณภาพญี่ปุ่น หวังจูงใจลูกค้า ก่อนสำรองงบฯรอลุยช่วงฟื้นตัว ด้านแอร์โยกงบฯบุกออนไลน์เต็มสูบ ทั้งโปรโมชั่นผ่อน 0% ไลฟ์สดขายสินค้า หวังกระตุ้นยอดช่วงไฮซีซั่น มั่นใจยอดขายปีนี้ยังเติบโตระดับเลข 2 หลักตามเป้า

นางรวิวรรณ มฤคพิทักษ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้บริษัทได้เตรียมวางแผนและกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะนำมาใช้หลังจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย โดยในกลุ่มภาพและเสียงที่เป็นเซ็กเมนท์ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ซึ่งเดิมผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างคาดหวังว่าจะเป็นปัจจัยหนุนหลักของตลาดภาพและเสียงในปีนี้ ถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2564 แทน ทำให้ผู้บริโภคขาดแรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อทีวีเครื่องใหม่

ปัจจัยดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ดีมานด์ทีวีจะลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม เช่นเดียวกับมูลค่าตลาดที่ลดลงจากปัจจัยการแข่งขันที่แต่ละค่ายเน้นเรื่องราคา

“อย่างไรก็ตาม ตลาดภาพทีวียังมีโอกาส ในด้านจำนวนเครื่องที่จะเติบโตเล็กน้อย เนื่องจากราคาเฉลี่ยที่ลดลง ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น รวมถึงการใช้เวลาในที่พักอาศัยนานขึ้น ช่วยหนุนดีมานด์ได้ โดยเทรนด์หลักที่ผู้บริโภคให้ความสนใจยังเป็นทีวีความละเอียด 4K จอใหญ่ 50 นิ้วขึ้นไป และฟังก์ชั่นสมาร์ทต่าง ๆ ส่วนความละเอียด 8K ยังคงเป็นกลุ่มนิชอยู่”

นางรวิวรรณกล่าวว่า จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์การทำตลาดเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ด้วยการเริ่มทำตลาดเร็วขึ้นคือ ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นไป จากแผนเดิมที่จะเริ่มพร้อมการเปิดตัวสินค้าใหม่ช่วงก่อนแข่งขันโอลิมปิกประมาณเดือนมิถุนายน ด้วยการจัดโปรโมชั่นส่วนลดและขยายระยะเวลารับประกันสินค้าจาก 1 ปี เป็น 2-3 ปี ทั้งนี้ เพื่อชิงดีมานด์ช่วงที่ผู้บริโภคต้องทำงานที่บ้าน หรือใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น ตามมาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ

เช่นเดียวกับกลยุทธ์การทำตลาด และ พอร์ตโฟลิโอสินค้า ที่จะเน้นชูฟังก์ชั่นไอโอที (IOT) ความละเอียด 4K และคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น หรือเจแปนควอลิตี้เข้มข้นมากขึ้น รวมถึงปรับการใช้งบฯ ด้วยการดึงงบฯส่วนหนึ่งมาใช้ในช่วงนี้ก่อน และสำรองส่วนที่เหลือไว้รอสถานการณ์ นอกจากนี้อาจชะลอการใช้ธีมโอลิมปิกในแคมเปญการตลาดออกไปก่อนด้วย พร้อมเจรจากับคู่ค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงปรับขั้นตอนการทำงานและวางแผนต่าง ๆ ให้รวดเร็วและอัพเดตสถานการณ์ถี่ขึ้นจากรายสัปดาห์เป็นรายวัน เพื่อให้พร้อมเดินหน้าทำตลาดได้เต็มที่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ 6 รุ่น ซึ่งเป็นการอัพเดตเล็กน้อยจากปีที่แล้ว เช่น เพิ่มฟังก์ชั่น และปรับดีไซน์ให้ทันสมัยขึ้น เป็นต้น

นางรวิวรรณกล่าวว่า นอกจากนี้สำหรับกลุ่มแอร์ บริษัทได้ปรับแผนไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อรับมือกับแนวโน้มการหดตัวของตลาดเนื่องจากสภาพกำลังซื้อและการปิดโมเดิร์นเทรด ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มงบฯการตลาดไปใช้กับออนไลน์ถึง 90% ของทั้งหมด ทั้งเพื่ออัพเกรดแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้ทันสมัยก่อนจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ การสื่อสารสร้างการรับรู้เน้นชูจุดแข็งด้านสุขภาพ อย่างระบบฟอกอากาศพลาสม่าคลัสเตอร์ ไปจนถึงการช่วยคู่ค้ากระตุ้นการขายในช่วงเดือนเมษายนที่เป็นไฮซีซั่นในด้านต่าง ๆ เช่น เพิ่มโปรโมชั่นผ่อน 0% ให้ผ่อนได้ยาวขึ้น แถมเครื่องดูดฝุ่น เพิ่มความเร็วของบริการหลังการขายเป็นภายใน 48 ชั่วโมง เป็นต้น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า

นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้พนักงานขายที่เดิมประจำในโมเดิร์นเทรด หันมาขายสินค้าผ่านการไลฟ์สดบนโซเชียลของแต่ละคน ตามเทรนด์นิยมในวงการออนไลน์ รวมถึงเพิ่มโอกาสขายและสร้างรายได้ในช่วงนี้

“สถานการณ์ที่ไม่ปกติในปีนี้ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องพึ่งกลยุทธ์ที่แปลกใหม่ และรวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์สด การสื่อสารแบบเรียลไทม์ผ่านแชต หรือแม้แต่การโทรศัพท์สั่งสินค้าก็ถูกนำมาใช้มากขึ้น”

นางรวิวรรณกล่าวต่อไปว่า ส่วนสินค้ากลุ่มอื่น ๆ ในพอร์ตได้มีการปรับตัวให้เข้ากับดีมานด์ เช่น แคมเปญ “อยู่บ้านอุ่นใจ ไปกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชาร์ป” ซึ่งเน้นโปรโมตสินค้าที่เข้าช่วงที่ผู้บริโภคต้องอยู่บ้าน เช่น ไมโครเวฟชาร์ป เครื่องซักผ้า ตู้เย็นและตู้แช่ ส่วนฝั่งธุรกิจลูกค้าองค์กร หันเน้นทำตลาดโซลูชั่นสำหรับประชุมทางไกล เพื่อตอบโจทย์มาตรการเวิร์กฟอร์มโฮมของธุรกิจและหน่วยงานต่าง ๆ

“การปรับแผนการตลาด รวมถึงใช้ความได้เปรียบของการมีโรงงานในไทย ช่วยให้สามารถปรับพอร์ตสินค้าให้เข้ากับสถานการณ์นี้ จะช่วยให้ยอดขายรวมของบริษัทในปีนี้เติบโตในระดับเลข 2 หลัก แม้จะไม่หวือหวาเท่าปี 2562 โดยทีวีปีนี้จะยังสามารถเติบโตได้เล็กน้อย สวนทางกับสภาพตลาด เช่นเดียวกับยอดขายแอร์ที่ยังคงเป้าหมายการเติบโตระดับตัวเลข 2 หลัก”